5 พ.ค. เวลา 13:15 • ท่องเที่ยว
เกาะอาโอกาชิมะ

ทำไมญี่ปุ่นถึงไม่โปรโมต Aogashima ในฐานะที่เที่ยว ทั้งที่มีวิวระดับโลก?

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมเกาะที่สวยงามราวกับหลุดมาจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นอย่าง Aogashima ถึงไม่ถูกโปรโมตเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของญี่ปุ่น? 🏝️ เกาะภูเขาไฟที่มีลักษณะเป็น "ภูเขาไฟในภูเขาไฟ" แห่งนี้มีทัศนียภาพที่สวยงามจนเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์ดัง "Your Name" แต่กลับมีนักท่องเที่ยวเพียงไม่กี่ร้อยคนต่อปีเท่านั้น! 😮
ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ แม้จะอยู่ห่างจากโตเกียวเพียง 358 กิโลเมตร แต่การเดินทางไปที่นี่กลับยากกว่าการไปเที่ยวต่างประเทศซะอีก! เฮลิคอปเตอร์มีเพียงวันละเที่ยว รับผู้โดยสารได้แค่ 9 คน และมักถูกยกเลิกเพราะหมอกหนา ส่วนเรือเฟอร์รี่ก็ถูกยกเลิกบ่อยเพราะคลื่นลมแรง 🌊 คุณพร้อมหรือยังที่จะเปิดโลกความลับของเกาะปริศนาที่ญี่ปุ่นเลือกที่จะไม่โปรโมตอย่างจงใจ แม้จะมีวิวสวยระดับโลกก็ตาม?
Aogashima เกาะมหัศจรรย์ที่ถูกซ่อนไว้
Aogashima เป็นเกาะภูเขาไฟขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวไปทางใต้ประมาณ 358 กิโลเมตร เป็นเกาะที่อยู่ทางใต้สุดและโดดเดี่ยวที่สุดในหมู่เกาะอิซุ 🌋 ลักษณะพิเศษของเกาะนี้คือเป็นปล่องภูเขาไฟขนาดยักษ์ที่ภายในปล่องยังมีภูเขาไฟขนาดเล็กอีกลูกหนึ่งตั้งอยู่ด้วย ทำให้มีลักษณะเป็น "ภูเขาไฟในภูเขาไฟ"
ภูมิประเทศของเกาะมีความน่าอัศจรรย์ หน้าผาสูงชันที่ตั้งตระหง่านห้อมล้อมเกาะ ทำให้พื้นที่ยุบเป็นแอ่งไปทางปากปล่องภูเขาไฟเหมือนชามขนาดใหญ่ จุดที่สามารถชมวิวที่วิเศษที่สุดได้คือ "สวนสาธารณะชมวิวภูเขาทาคาโอะ" ซึ่งสามารถมองเห็นแอ่งยุบปากปล่องสองชั้นขนาดใหญ่ที่มีภูเขามารูยามะเป็นศูนย์กลาง
ในวันที่อากาศแจ่มใสจะมองเห็นได้ไกลถึงเกาะฮาจิโจจิมะ และตอนกลางคืนสามารถชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวสวยงามจนแทบไม่อยากเชื่อสายตา เป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดในการชมทิวทัศน์อันตระการตาของทางช้างเผือก
7 เหตุผลที่ญี่ปุ่นไม่โปรโมต Aogashima เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก 🤔
1. การเข้าถึงที่ยากลำบาก
เกาะ Aogashima แทบจะไม่สามารถเข้าถึงได้ วิธีการเดินทางมีเพียงสองทาง คือทางเรือและเฮลิคอปเตอร์ แต่ทั้งสองวิธีก็มีข้อจำกัดมากมาย 🚁
เฮลิคอปเตอร์มีเพียงวันละ 1 เที่ยวเท่านั้น และในแต่ละเที่ยวจะบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุดเพียง 9 คน หลายครั้งที่ถูกยกเลิกเนื่องจากมีหมอกหนา ส่วนการเดินทางทางเรือก็มีปัญหาเช่นกัน เนื่องจากบนเกาะไม่มีท่าเรือที่เป็นกิจจะลักษณะ เพราะหน้าผาสูงชันและขรุขระล้อมรอบเกาะทั้งหมด ทำให้การขึ้นลงเรือเป็นเรื่องยาก
2. ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน
เกาะ Aogashima มีโครงสร้างพื้นฐานที่จำกัดมาก มีร้านค้าเพียงแห่งเดียว มีที่ทำการไปรษณีย์ 1 แห่ง และมีร้านเหล้าสไตล์อิซากายะเพียง 3 แห่ง 🏪 สถานที่พักมีเพียง B&B ขนาดเล็กกับจุดตั้งแคมป์ฟรีเท่านั้น ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำกัด
การรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากจึงเป็นเรื่องยาก และอาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวเกาะที่มีเพียงประมาณ 170 คน
3. ความเสี่ยงจากภูเขาไฟ
Aogashima เป็นภูเขาไฟที่ยังมีชีวิตและมีโอกาสที่จะปะทุขึ้นมาอีก โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 1785 ซึ่งคร่าชีวิตประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของเกาะ และบังคับให้ชาวเมืองที่เหลือต้องย้ายหนีไป จนกระทั่งอีก 50 ปีต่อมาจึงเริ่มมีประชาชนกลับมาที่เกาะ 🔥
การส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปยังเกาะที่มีความเสี่ยงจากภูเขาไฟอาจเป็นความรับผิดชอบที่ใหญ่เกินไปสำหรับรัฐบาลญี่ปุ่น
4. การอนุรักษ์ธรรมชาติและวัฒนธรรม
การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวอาจเป็นวิธีการที่ญี่ปุ่นใช้เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติและวัฒนธรรมดั้งเดิมของเกาะ 🌱 การท่องเที่ยวจำนวนมากอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศที่เปราะบางและวิถีชีวิตของชาวเกาะที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน
5. การเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
ญี่ปุ่นอาจเลือกที่จะไม่โปรโมต Aogashima อย่างกว้างขวางเพื่อรักษาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูงสำหรับผู้ที่พยายามเดินทางไปที่นั่น 👑 การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวทำให้ผู้ที่ไปถึงได้สัมผัสกับความเงียบสงบและความงดงามของเกาะอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องเบียดเสียดกับฝูงชน
6. ความพร้อมของชุมชนท้องถิ่น
ชุมชนบนเกาะ Aogashima อาจไม่พร้อมหรือไม่ต้องการรองรับการท่องเที่ยวจำนวนมาก 👨‍👩‍👧‍👦 ชีวิตบนเกาะดำเนินไปอย่างช้าๆ และเรียบง่าย การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากการท่องเที่ยวอาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวเกาะ
7. กลยุทธ์การท่องเที่ยวแบบเฉพาะกลุ่ม
ญี่ปุ่นอาจใช้กลยุทธ์การตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม (Niche Marketing) สำหรับ Aogashima โดยมุ่งเน้นไปที่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย ธรรมชาติ และวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแท้จริง 🎯 การไม่โปรโมตอย่างกว้างขวางช่วยให้เกาะยังคงเป็น "อัญมณีที่ซ่อนเร้น" สำหรับผู้ที่พร้อมจะพยายามค้นหา
เปรียบเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในญี่ปุ่น
เมื่อเปรียบเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ ในญี่ปุ่น เช่น โตเกียว เกียวโต หรือโอซาก้า Aogashima มีความแตกต่างอย่างมาก ทั้งในแง่ของการเข้าถึง สิ่งอำนวยความสะดวก และจำนวนนักท่องเที่ยว
แหล่งท่องเที่ยวหลักในญี่ปุ่นมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างมาก มีระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ มีโรงแรมและร้านอาหารหลากหลาย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวมากมาย 🏨 ในขณะที่ Aogashima แทบไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย
อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นเสน่ห์ของ Aogashima ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายและแออัดของเมืองใหญ่
ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครบน Aogashima 🌄
แม้จะไม่ได้รับการโปรโมตอย่างกว้างขวาง แต่ Aogashima ก็มีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้ที่เดินทางไปเยือน
การสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
เกาะ Aogashima มีธรรมชาติที่สวยงามและยังคงความบริสุทธิ์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่า ปีนเขา และสัมผัสกับทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของภูเขาไฟและทะเล 🌊 เส้นทางเดินเขาตัดผ่านปากปล่องภูเขาไฟที่มุ่งหน้าไปทางทะเลเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและน่าจดจำ
การใช้ประโยชน์จากความร้อนใต้พิภพ
นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับการใช้ประโยชน์จากพลังงานความร้อนใต้พิภพในชีวิตประจำวันของชาวเกาะ ♨️ ที่อบซาวน่าที่ใช้ความร้อนใต้พิภพเป็นประสบการณ์ที่ผ่อนคลายและเป็นเอกลักษณ์ และในบริเวณใกล้ๆ กับสถานที่อบซาวน่ายังมีหม้อที่ใช้ความร้อนใต้พิภพ สามารถต้มไข่หรือมันเทศได้อีกด้วย
การลิ้มลองอาหารและเครื่องดื่มท้องถิ่น
เหล้าโชจูของ Aogashima หรือที่เรียกว่า "Aochu" เป็นเหล้าดั้งเดิมที่ทำจากมันหวาน เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของเกาะ 🍶 นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์นี้ได้ที่ร้านอิซากายะบนเกาะ หรือซื้อกลับไปเป็นของฝากได้
การดูดาว
เนื่องจากเกาะอยู่ห่างไกลจากมลภาวะทางแสง ทำให้ Aogashima เป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดูดาว 🌟 ในคืนที่ท้องฟ้าแจ่มใส นักท่องเที่ยวสามารถชมทางช้างเผือกและดวงดาวนับล้านดวงได้อย่างชัดเจน
การเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไป Aogashima 🧳
หากคุณตัดสินใจที่จะเดินทางไปยัง Aogashima มีสิ่งที่ควรเตรียมตัวดังนี้
การวางแผนล่วงหน้า
เนื่องจากการเดินทางไปยัง Aogashima มีความไม่แน่นอนสูง คุณควรวางแผนล่วงหน้าและเผื่อเวลาสำหรับความล่าช้าหรือการยกเลิก 📅 ควรจองที่พักและการเดินทางล่วงหน้า และตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง
การเตรียมสิ่งของจำเป็น
เนื่องจากบนเกาะมีร้านค้าเพียงแห่งเดียวและสินค้ามีราคาแพงกว่าบนแผ่นดินใหญ่ คุณควรเตรียมสิ่งของจำเป็นติดตัวไปด้วย เช่น ยา อาหารแห้ง และอุปกรณ์สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง 🎒
การเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น
เมื่อไปเยือน Aogashima คุณควรเคารพวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวเกาะ ไม่สร้างความรบกวนหรือทำลายสิ่งแวดล้อม 🙏 การเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเกาะก่อนไปเยือนจะช่วยให้คุณเข้าใจและชื่นชมสถานที่นี้มากขึ้น
สรุป: เสน่ห์ของเกาะที่ไม่ถูกโปรโมต 🌈
การที่ญี่ปุ่นไม่โปรโมต Aogashima ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวหลักอาจเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เพื่อรักษาความเป็นเอกลักษณ์และความงดงามตามธรรมชาติของเกาะ รวมถึงปกป้องวิถีชีวิตของชาวเกาะจากผลกระทบของการท่องเที่ยวจำนวนมาก
สำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาประสบการณ์ที่แท้จริงและไม่เหมือนใคร Aogashima เป็นสถานที่ที่คุ้มค่ากับความพยายามในการเดินทาง ความยากลำบากในการเข้าถึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของเสน่ห์ที่ทำให้การไปเยือนเกาะนี้เป็นความทรงจำที่พิเศษและน่าจดจำ
ในโลกที่แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งกำลังเผชิญกับปัญหาการท่องเที่ยวล้นเกิน (Overtourism) การที่ญี่ปุ่นเลือกที่จะไม่โปรโมต Aogashima อย่างกว้างขวางอาจเป็นตัวอย่างของการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ประเทศอื่นๆ สามารถเรียนรู้ได้ 🌱
Aogashima จึงยังคงเป็น "อัญมณีที่ซ่อนเร้น" สำหรับผู้ที่พร้อมจะค้นหาและชื่นชมความงดงามที่ไม่ได้ถูกปรุงแต่งเพื่อการท่องเที่ยว แต่เป็นความงดงามที่แท้จริงตามธรรมชาติ
เขียนโดย The Glory Days
หากบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมกดไลก์ กดติดตาม และแชร์ต่อให้เพื่อนๆ เพื่อส่งต่อความรู้ดีๆ
© The Glory Days | ขอสงวนสิทธิ์ในการนำเนื้อหานี้ไปใช้ซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต หากต้องการแชร์ต่อเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา กรุณาให้เครดิตพร้อมลิงก์กลับมายังเพจต้นฉบับด้วยความเคารพ
โฆษณา