Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
NTP59
•
ติดตาม
7 พ.ค. เวลา 02:18 • ข่าวรอบโลก
ทรัมป์ต้องการให้ Hollywood กลับมายิ่งใหญ่
นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
อินเดียเอาคำว่า Bombay (ชื่อเก่าของ Mumbai) ไปผสม กับคำว่า Hollywood ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของสหรัฐฯ เป็น Bollywood
ส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์ภาษาฮินดีที่เต้นเยอะ เพลงเยอะ เน้นสีสันและความบันเทิงเต็มรูปแบบ
เชนไนเป็นเมืองเอกของรัฐทมิฬนาฑู ย่านที่ผลิตภาพยนตร์ในเชนไนคือ Kadambakkam เมื่อรวมกับคำว่า Hollywood ก็เป็นคำว่า Kollywood
เป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียทางใต้ ใช้ภาษาทมิฬ มีฉากแอ็กชัน ดราม่า และเพลง
แต่ถ้าเจอ Tollywood ก็ต้องถามนะครับว่าเป็น Tollywood ของรัฐใด บางทีอาจจะเป็นภาพยนตร์ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่นครไฮเดอร์ราบัด รัฐอานธรประเทศ ที่บทพูดเป็นภาษาเตลูกู Telugu + Holly wood = Tollywood
เมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตกที่ใช้ภาษาเบงกาลีก็มีภาพยนตร์ Tollywood เหมือนกัน ตอนนี้ในโลกเรามีหลาย wood ครับ เช่น Hallywood เป็นอุตสาหกรรมหนังเกาหลีใต้
ส่วนที่เมืองเหิงเตี้ยนของจีนมีสตูดิโอใหญ่ที่สุดในโลกที่เรียกว่า เหิงเตี้ยน เวิลด์ สตูดิโอส์ เราเรียกหนังที่ผลิตที่นี่ว่า Chinawood
ปากีสถานก็เริ่มดังเรื่องหนัง มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองละฮอร์ ใช้ภาษาอูรดู เน้นเรื่องครอบครัวและศาสนา Lahore + Hollywood = Lollywood
เดี๋ยวนี้มีหนังไทยหลายเรื่องที่ไปทำเงินในต่างประเทศ แม้ไม่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ฝรั่งก็เรียกอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยว่า Thaiwood หรือ Nangwood
1
ความตกต่ำของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูดของสหรัฐฯเกิดจากเนื้อหาซ้ำซาก ไม่มีความสดใหม่ เน้นสร้าง sequels (ภาคต่อ)
นอกจากนั้นก็เป็นหนังรีบูตและรีเมก ผู้ชมเบื่อกับเรื่องราวเดิมๆ พวกหนังซุปเปอร์ฮีโร่คล้ายกันทุกเรื่อง พวกเขียนบทหนังอเมริกันไม่มีไอเดียต้นฉบับ ลอกกันไปลอกกันมา
ฮอลลีวูดใช้งบมหาศาล ทุนสร้างสูง แต่ทำรายได้น้อย ค่าตัวนักแสดงและผู้กำกับสูงมาก
อย่างภาพยนตร์เรื่อง Snow White ของดิสนีย์ที่เคยประสบความสำเร็จมาทุกภาค นำมารีเมกครั้งใหม่ปี 2025 กลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
1
งบประมาณการผลิต 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ค่าใช้จ่ายรวม 410 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่มีรายได้รวมน้อยมาก คาดว่าจะขาดทุนประมาณ 115-215 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ผู้ชมทั่วโลกเริ่มรู้ทันว่าฮอลลีวูดแทรกการเมืองเข้าไปในหนังเพื่อทำให้พวกอเมริกันดูเป็นพระเอก
แถมยังรู้สึกว่าหนังอเมริกันยัดเยียดวาทกรรมทางเพศและเชื้อชาติ ผู้ชมบางกลุ่มรู้สึกว่าหนังฮอลลีวูดไกลตัว ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ทำให้คนดูไม่รู้สึกร่วม
4 พฤษภาคม 2025 ทรัมป์เขียนในแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า สหรัฐฯจะเก็บภาษีนำเข้า 100% สำหรับภาพยนตร์ที่ผลิตในต่างประเทศ
แกบอกว่าขณะนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของสหรัฐฯกำลังตาย เนื่องจากรัฐบาลของหลายประเทศไม่แฟร์ด้วยการเสนอสิ่งจูงใจดูดผู้สร้างและสตูดิโอให้ย้ายออกจากสหรัฐฯ
ทรัมป์บอกว่านี่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ ที่มาจากโฆษณาชวนเชื่อของต่างประเทศ
ทรัมป์ให้กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯเก็บภาษีภาพยนตร์ที่สร้างในต่างประเทศอย่างฉับพลันทันที ณ บัดเดี๋ยวนี้
1
ผมเดาว่า ทันทีที่อ่านข้อความของทรัมป์จบ ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯก็คงต้องเอาหัวถูข้างฝา เพราะทรัมป์สั่งให้ทำทันที แต่ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย
ทรัมป์ไม่อธิบายแม้แต่ว่า อ้า แล้วภาพยนตร์ที่เผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิงจะเก็บภาษีด้วยหรือเปล่า
ทรัมป์แต่งตั้งนักแสดงชื่อดังอย่างซิลเวสเตอร์ สตอลโลน เมล กิบสัน และจอห์น วอยต์ เป็นทูตพิเศษ มีหน้าที่ฟื้นฟูอุตสาหกรรมภาพยนตร์สหรัฐฯ ทำหน้าที่นำเม็ดเงินที่เสียไปให้กับต่างชาติกลับคืนมาและทำให้ฮอลลีวูดกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
สิ่งที่ทรัมป์ต้องการจากการตั้งดาราภาพยนตร์เป็นทูตพิเศษ อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะคนชมภาพยนตร์รุ่นใหม่ชอบดูหนังที่สั้น กระชับ และดูในมือถือมากกว่าไปนั่งชมในภาพยนตร์ 2 ชั่วโมง
โลกปัจจุบัน สตรีมมิงเป็นศูนย์กลาง คำว่า Hollywood ไม่ได้หมายความว่าคุณภาพจะเต็มเปี่ยมเหมือนในอดีต
การผูกขาดความนิยมทั่วโลกแบบในยุค 1900-2010 ไม่หวนคืนมาอีกแล้ว
โลกปัจจุบัน ทุกประเทศเล่าเรื่องของตนเองได้
ไม่จำเป็นต้องไปฟังเรื่องของสหรัฐฯแต่เพียงประเทศเดียวเหมือนเมื่อก่อน.
1
ข่าวรอบโลก
5 บันทึก
50
2
4
5
50
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย