🌏 Global update งานเข้า Google หลัง Apple ซุ่มแผนใหม่! FED แอบผ่อนคลายเงียบ – หุ้นอินเดียยังนิ่ง
เมื่อคืนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวด้วยแรงซื้อในกลุ่มเทค, สินค้าฟุ่มเฟือย, และสุขภาพ ขณะที่ หุ้น GOOG US ร่วงแรง หลัง Apple กำลังพิจารณาเปลี่ยนให้ Safari ใช้ระบบค้นหาด้วย AI แทน (อาจกดดันรายได้โฆษณาของบริษัทในอนาคต)
🔊เรื่องราวน่าสนใจ
1. อัพเดตมุมมองต่อหุ้นอินเดีย หลังเกิดความขัดแย้งทางการทหารกับปากีสถาน
- ในเบื้องต้น เราประเมินว่ามีความเสี่ยงจำกัด ที่จะกลายเป็นสงครามรุนแรงเต็มรูปแบบ เนื่องจากทั้งสองประเทศต่างมีแสนยานุภาพทางทหารสูง และตระหนักถึงผลกระทบร้ายแรงโดยเฉพาะหากสถานการณ์บานปลายถึงขั้นใช้อาวุธนิวเคลียร์
- เราแนะนำ “ทยอยซื้อ” กองทุนหุ้นอินเดีย ES-INDAE เนื่องจาก
I) ความขัดแย้งอินเดียและปากีสถาน ไม่ใช่เรื่องใหม่-ดำเนินมานานแล้วกว่า 75 ปี และมีโอกาสจำกัดที่จะลุกลามเป็นสงครามรุนแรงเต็มรูปแบบ
II) จากสถิติ ความขัดแย้งทางการทหารต่อปากีสถาน มีผลต่อหุ้นอินเดียจำกัด เช่น
ในปี 1999 ที่ปากีฯ พยายามเข้ายึดพื้นที่แคชเมียร์ในฝั่งอินเดีย หลังจากนั้น 1 ปี หุ้นอินเดีย +39.3%
ในปี 2008 ที่กลุ่มก่อการร้ายวางระเบิดและกราดยิงในเมืองมุมไบ หลังจากนั้น 1 ปี หุ้นอินเดีย +91%
ในปี 2016 และ 2019 ที่อินเดียเโจมตีปากีฯ หลังจากนั้น 1 ปี หุ้นอินเดีย +13.9% และ +15.9% ตามลำดับ
III) ภาพเศรษฐกิจอินเดียมีแนวโน้มฟื้นตัวตามวัฏจักรด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากสงครามการค้าที่จำกัดกว่าภูมิภาคอื่น (ดู Wealth Strategy 2Q25)
2. ผลประชุม Fed ออกมาในลักษณะ Wait & See
- คงดอกเบี้ยที่ 4.5% ตามคาด พร้อมกับให้ความเห็นว่า
I) "ยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อน" เนื่องจาก ปัจจุบันกิจกรรมทางเศรษฐกิจ-ตลาดแรงงาน-ความต้องการซื้อภายในประเทศ ยังคงแข็งแรง
II) "จะขอรอดูสถานการณ์ต่อไป" เนื่องจากยังไม่แน่ใจว่า ภาษีนำเข้าจะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นแค่ชั่วคราว หรือลากยาว
📌มุมมองของเรา
- ผลประชุมรอบนี้ "ไม่ได้เป็นลบต่อตลาดมากนัก" ในระยะสั้น ถึงแม้ Fed จะยังไม่บอกใบ้ถึงการลดดอกเบี้ยในอนาคต แต่ก็แอบ "ผ่อนคลายแบบเงียบๆ" ด้วยการชะลอการลดขนาดงบดุล (Balance Sheet Runoff) โดยเฉพาะในส่วนของตราสารหนี้ของรัฐบาลกลางจากเดือนละ $25B เหลือเพียง $5B นับตั้งแต่เดือนเมษายน
- หาก Fed ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงนานเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากสัญญาณเตือนเริ่มปรากฏชัดเจนจากหลายด้าน เช่น
I) ข้อมูล soft data เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ส่งสัญญาณอ่อนแออย่างต่อเนื่อง สะท้อนความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต นอกจากนี้ ก็เริ่มเห็นสัญญาณเตือนถึงการชะลอลงของสินเชื่อ และการเร่งตัวขึ้นของ NPL
II) อีกทั้งโครงสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อในรอบนี้ต่างจากปี 2021–2022 แม้ต้นทุนวัตถุดิบจะเพิ่มขึ้นจากมาตรการภาษี แต่อุปสงค์ภายในประเทศยังไม่ร้อนแรง ทำให้ความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อ ไม่มากเท่าในรอบก่อน
⚠️ ด้วยภาพเศรษฐกิจดังกล่าว เราจึงมองว่าตลาดในปัจจุบันยังไม่ได้สะท้อนความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นักลงทุนจึงควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
3. ทรัมป์มีโอกาสยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกชิป AI สมัยไบเดน พร้อมปรับนโยบายกีดกันเทคโนโลยีใหม่
- กฏที่มีโอกาสได้รับการแก้ไขคือ AI diffusion rule สมัยไบเดน ที่กำหนดให้ประเทศต่างๆ ต้องยอมรับกฎความมั่นคงของสหรัฐฯ หากต้องการเข้าถึงเทคโนโลยี AI ชั้นนำของอเมริกา เพื่อเป็นการป้องการป้องกันไม่ให้ จีนได้เทคโนโลยี AI ทางอ้อม ผ่านประเทศที่สาม
- ทีมทรัมป์มองว่ากฎนี้ ซับซ้อนเกินไป เป็นระบบราชการที่เทอะทะ และจะถ่วงนวัตกรรมของอเมริกา
- หากเกิดการผ่อนคลายกฏดังกล่าวจริง จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทของสหรัฐฯ เช่น NVIDIA, ORACLE และประเทศอย่าง อินเดีย-มาเลเซีย ที่เพิ่งถูกจำกัดสิทธิ์ในต้นปีที่ผ่านมา
🌟 เพิ่มโอกาสในการลงทุนหุ้นนอกให้คุณง่ายกว่าเดิมกับ Thanachart Global Investment
เปิดบัญชีฟรี | ลงทุนไม่มีขั้นต่ำ | ค่าธรรมเนียมสุดพิเศษ | ฟรีโอนถึงสิ้นปี | ลงทุนได้ถึง 10 ประเทศ | เทรดหุ้นสหรัฐ 24 ชั่วโมง
📞เปิดบัญชีเลย คลิก https://bit.ly/3Q679OY หรือ Contact center 02-779-9000
เทรดหุ้นนอกง่าย ตลอด 24 ชม. ด้วยแอป Think+ Global
👉 โหลดเลย https://onelink.to/p6g8w2
#thanachartwealthsolution #ThanachartSecurities #หลักทรัพย์ธนชาต #ThanachartSecurities #TNS #Thanachart #TNSGlobal #TNSSec #หลักทรัพย์ธนชาต #ธนชาต #ลงทุน #หุ้นนอก #ลงทุนต่างประเทศ #หุ้นจีน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
