Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฐานเศรษฐกิจ_Thansettakij
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
9 พ.ค. เวลา 00:10 • หุ้น & เศรษฐกิจ
กูรูส่องตลาดหุ้นไทยไตรมาส 2/68 อัพไซด์จำกัด เจรจาการค้าโลกยังคลุมเครือ
บล.พาย มองตลาดหุ้นไทยไตรมาส 2/68 Upside จำกัด หลังฟื้นจากจุดต่ำแล้ว 13% จับตานานาประเทศเจรจาการค้าสหรัฐฯ แนะปรับพอร์ตหุ้น ลดทองคำ เน้นถือเงินสดมากขึ้น พร้อมชู 4 กลุ่มหุ้นเด่นผู้นำอุตสาหกรรม
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 2/68 เชื่อว่า Upside ของดัชนีจะเริ่มจำกัด เพราะในช่วงที่ผ่านมา SET Index ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดมาแล้ว 13%
โดยรับข่าวบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศ ประกอบกับสหรัฐฯได้ตัดสินใจเว้นการขึ้นภาษีอัตราสูงออกไปเป็นเวลา 90 วัน แต่อย่างไรก็ดี เมื่อมองไปข้างหน้าแล้วเชื่อว่าการเจรจาจะยืดเยื้อใช้เวลา คล้ายกับที่เกิดขึ้นในช่วงปี 61-62 (มีข่าวเจรจา ยืดเยื้อ หาข้อสรุปได้และไม่ได้)
หรือต่อให้มีข่าวว่าเจรจาได้แต่ก็เชื่อว่าการเติบโตเศรษฐกิจโลกยังจำกัด ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับนานาประเทศ โอกาสที่สหรัฐฯจะไม่ใช้กำแพงภาษีกับจีนแทบจะเป็นไปไม่ได้ ทำให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกจะประสบปัญหามากขึ้น
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ โดยธรรมชาติแล้วตลาดหุ้นมักชอบภาวะที่เศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เติบโต ในอีกมุมหลายๆ ประเทศอาจพยามหาตลาดใหม่ เพื่อพึ่งพิงสหรัฐฯ ให้น้อยลง จึงอาจเกิดการทุ่มตลาดของแต่ละประเทศกดดันผู้ประกอบการภายในประเทศนั้นๆ อย่างไทยนั้นก็อาจต้องเฝ้าระวังการทุ่มราคาของสินค้าจากจีน (กดดันผู้ประกอบการภายในประเทศ)
ในขณะเดียวกันหากไม่มีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับนานาประเทศ และกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ ต่อไทย เศรษฐกิจไทยก็ขยายตัวต่ำ (2-3% ต่อปี) แต่หากเป็นกรณีเลวร้ายคือ ไทยเผชิญการเก็บภาษีสูงจากสหรัฐฯ จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงกับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนจึงไม่ควรประมาทและเพิ่มการถือครองเงินสด หากดัชนีปรับลงไปในช่วง 1,150 จุด ต่ำลงไปจะเป็นจุดที่เหมาะกับการลงทุนระยะกลาง เน้นที่หุ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรม อาทิ โรงพยาบาล (BDMS), ค้าปลีก (CPALL), ศูนย์การค้า (CPN) และ ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) เป็นต้น
ส่วนทองคำนั้น ทางฝ่ายเชื่อว่าจะเห็นการปรับขึ้นที่ Upside จำกัด หรืออาจพักฐานสาเหตุจากว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศ เสมือนกับว่าผ่านจุดแย่ที่สุดไปแล้ว ในช่วงที่ผ่านมาทองคำปรับขึ้นเพราะความกังวลนโยบายภาษีของสหรัฐฯ และสงครามการค้ากำลังเข้าสู่ช่วงของการเจรจา ทำให้ความตึงเครียดจะเริ่มน้อยลง
เมื่อประกอบกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่ไม่น่าจะเร่งลดดอกเบี้ยในเร็วๆ เพราะความกังวลเงินเฟ้อยังคงปลกคลุม จึงอาจต้องลดสัดส่วนการลงทุนในทองคำลงบ้างในมุมมองของทางฝ่าย เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนลง
บันทึก
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย