ดังนั้น-วันนี้ที่เขียนรีวิว มาจากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ SF เดอะมอลล์งามวงศ์วานล้วนๆ
Until Dawn 2025 ฉบับไลฟ์แอคชั่น เป็นผลงานเขียนบทโดย Gary Dauberman และ Blair Butler (ทั้งคู่-ถนัดสายสยองขวัญ) ส่วนงานกำกับได้ David F. Sandberg ซึ่งโดดเด่นมาจากหนังสยอง(นอกกระแส) เรื่อง Lights Out (2016) ต่อด้วยหนังในสังกัดของเจมส์ วาน Annabelle: Creation(2017) จากนั้นแกก็เปลี่ยนมู้ดมาทำหนังซุปเปอร์ฮีโร่ให้กับค่าย DC (Shazam!)
Until Dawn เป็นหนังสยองขวัญที่สะท้อนทัศนคติเดียวกันเกี่ยวกับความตาย (ตายเสร็จ รีเซ็ท!!เริ่มต้นใหม่) เหมือนหนังในอดีตหลายๆเรื่อง อาทิ Groundhog Day(1993), Edge of Tomorrow(2014), Happy Death Day(2017+2019) ความสนุกของหนังเหล่านี้คือ ตัวเอกค่อยๆ เรียนรู้/ ศึกษาเหตุการณ์เหล่านี้ เพื่อกำหนดชะตากรรมของตัวเองใหม่ในครั้งหน้า แต่ Until Dawn ไม่ได้ทำแบบนี้
จุดเด่น- ฉากการฆ่าในแต่ละคืนนั้นค่อนข้างโหดร้าย: การแทง การควักไส้ และบางคืนถึงกับร่างระเบิด ทิ้งเลือดและเครื่องในกระจายไปทั่ว(นึกถึง Ready Or Not 2019) ถ้าเป็นเรื่องประเภทนี้ Until Dawn ไม่ทำให้คุณๆผิดหวัง
การถ่ายภาพใน Until Dawn ดูแปลกตากว่าหนังประเภทเดียวกัน มันมืดๆ แสงน้อยและดูเรียบๆเกินไป จนน่าหดหู่ อีกหนึ่งเรื่องคือเพลงประกอบ ช่วยเพิ่มความตึงเครียดได้และสร้างบรรยากาศที่น่าขนลุกได้ดีทีเดียว
Until Dawn แตกต่างจากเกมส์(อ่านรีวิวเมืองนอก) ผู้กำกับ David F. Sandberg พยายามทำให้แตกต่างกว่าหนังสยองขวัญทั่วๆไป คุณๆเท่านั้นจะเป็นคนพิสูจน์ว่า Until Dawn ทำได้หรือป่าว
สามารถชมได้ในโรงภาพยนตร์เครือ SF Cinema หรือ Major Cineplex ทุกสาขา **กรุณาเช็ครอบก่อนเข้าชม** มีทั้งพากษ์ไทยและซาวด์แทร็ก
คะแนน 5.0/10
**สปอย** ช่วงท้ายก่อน End Credit มีลูกเล่น(gimmick)เล็กๆ- ใบปิดประกาศคนหายบนบอร์ดในห้องรับแขก (มีทั้งผู้กำกับ/ คนเขียนบท/ โปรดิวเซอร์ และนักแสดง)
หมายเหตุ- ในปี 2015 ทาง Sony ได้เปิดตัววิดีโอเกม "Until Dawn" ซึ่งเป็นการดัดแปลงที่ชาญฉลาดจากแนวเกมสยองขวัญที่เขียนโดย Larry Fessenden ปรมาจารย์ด้านความสยองขวัญ