9 พ.ค. เวลา 10:17 • ไลฟ์สไตล์
ถ้าเป็นแบบแรก “สามารถเป็นที่พึ่งให้คนอื่น” ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุขคือ Dopamine ทำให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า
ซึ่งต่างจาก “การรู้ว่ามีคนให้พึ่งพาได้เสมอ” อันนี้ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุขที่เป็น Oxytocin เมื่อรับรู้ว่าตนถูกรัก ได้รับการดูแลใส่ใจ อุ่นใจที่รู้ว่าคนรอบข้างยินดีเป็นที่พึ่งให้เราเสมอ ไม่รู้สึกว่าเป็นการรบกวน
คนส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะเลือกแบบแรก เพราะสามารถจัดแจงเอง ทำได้ด้วยตัวเอง แต่ก็มีบางคนเสพติดโดปามีน ถึงขั้นหาทำ เสนอตัวช่วยคนอื่นไปทั่ว (ตย.เช่นพวกจิตอาสา หรือนักกิจกรรม นักเคลื่อนไหว เผยแพร่ศาสนา อาสากู้ภัย ฯลฯ เป็นต้น) คือเสพติดความรู้สึกเป็นสุข กระปรี้กระเปร่าเมื่อได้ช่วยเหลือคนอื่น
1
“พึ่งพาตัวเอง” ไม่ได้อยู่ในตัวเลือกของกระทู้นี้ แต่อยากเล่า 555
เป็นความสุขอีกประเภทคือ "สุขสงบ" คือเมื่อเราตระหนักรู้ว่าเราพึ่งตัวเองได้ ไม่เป็นภาระใคร ไม่กลัวความทุกข์ยากลำบาก มองชีวิตแบบกลางๆจะทุกข์จะสุขก็รับมือได้ แนวนี้ร่างกายจะหลั่ง Serotonin
จริงๆก็ดีทั้งนั้นน่ะนะ เลือกแบบไหน เป็นแบบไหนแล้วมีความสุข ก็ดีทั้งนั้นแล แต่อย่าไปยึดติด แค่รู้ให้ทันตัวเองว่าเลือกแบบไหน เพราะอะไร แล้วก็อย่าไปติดไปยึดอะไรมันมากเลย!!
1
แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่า Dopamine ทดแทน Oxytocin ได้รึป่าว
แบบว่า..บางคนโตมาแบบไม่มีใครรัก ชีวิตไม่เคยสัมผัส Oxytocin ก็เลยมุ่งไปหา Dopamine แต่ศักยภาพมีไม่พอที่จะเป็นที่พึ่งให้ใคร ก็เลยต้องพยายามหล่อเลี้ยงตัวเองด้วยความสุขจาก Serotonin จากการพึ่งตัวเอง
โฆษณา