ผู้ถือหุ้นใหญ่ Burger King กำลังเป็นเจ้าของแบรนด์รองเท้า Skechers
Skechers แบรนด์รองเท้าสัญชาติอเมริกัน ที่เป็นทางเลือกของคนรักความใส่สบาย กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่
เมื่อ 3G Capital บริษัทการลงทุนยักษ์ใหญ่ ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Restaurant Brands International บริษัทเจ้าของแบรนด์ Burger King
ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการ Skechers อย่างเป็นทางการ ด้วยมูลค่ากว่า 310,000 ล้านบาท
และจะถอน Skechers ออกจากตลาดหุ้น ให้กลายเป็นบริษัทเอกชน ภายใต้การบริหารของ 3G Capital อย่างเต็มตัว
นี่ไม่ใช่แค่ดีลซื้อขายธรรมดา แต่นี่คือการส่งสัญญาณว่า Skechers กำลังจะเปลี่ยนแปลง
ทั้งแนวทางการบริหาร กลยุทธ์ธุรกิจ และทิศทางอนาคต
แล้วอะไรทำให้ 3G Capital กล้าทุ่มเงินระดับนี้เพื่อซื้อกิจการ Skechers ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Skechers ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 โดยคุณ Robert Greenberg ร่วมกับลูกชาย คุณ Michael Greenberg
ซึ่งคุณ Robert เคยทำแบรนด์รองเท้า LA Gear มาก่อน แต่ได้ลาออกมา
และภายหลัง ได้สร้างแบรนด์รองเท้าอีกแบรนด์ ในชื่อ Skechers เพราะเห็นโอกาสในตลาดรองเท้า Streetwear สำหรับผู้ชาย
หลังจากนั้นบริษัทก็ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ไปยังรองเท้าสำหรับผู้หญิงและเด็ก ครอบคลุมทั้งแนวแคชวล และสปอร์ต
รวมถึงเปิดตัวไลน์เสื้อผ้าและรองเท้ากีฬาแบบ Performance เอาใจสายนักกีฬาด้วย
Skechers เป็นหนึ่งในแบรนด์รองเท้าที่มีชื่อเสียง และเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในตลาดสหรัฐฯ และตลาดทั่วโลก
โดยมีชื่อเสียงในด้านรองเท้าที่สวมใส่สบาย ราคาคุ้มค่า และมีเทคโนโลยีที่ออกแบบให้รองรับแรงกระแทกได้ดี
โดยในปี 1997 Skechers เริ่มขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และในปี 1998 บริษัทก็เข้าสู่ตลาดรองเท้ากีฬาเพื่อแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่อย่าง Nike
การขยายตัวในตลาดต่างประเทศทำให้ Skechers เติบโตอย่างก้าวกระโดด และตอนนี้ Skechers มีร้านจำหน่ายสินค้าเองและผ่านตัวแทนรวมกว่า 5,300 แห่งทั่วโลก
ซึ่งในการจัดอันดับแบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในกลุ่มสนีกเกอร์
แบรนด์ Skechers จะติดอันดับ 3-4 ในทุกปี
และ Skechers เคยได้รับการยกย่องจาก Forbes ในปี 2014 ว่าเป็น “แบรนด์ที่ร้อนแรงที่สุดในสหรัฐฯ”
แม้ปัจจุบัน จะมีรองเท้าน้องใหม่หลายแบรนด์ที่มาแรง และแบรนด์ใหญ่เก่าแก่ กำลังเจอความท้าทาย เพราะรสนิยมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป
แต่ท่ามกลางแรงกดดันเหล่านี้
Skechers ก็ยังสามารถรักษาตำแหน่งของตัวเองในใจผู้บริโภคได้อย่างแข็งแกร่ง
เพราะสุดท้ายแล้ว จุดเด่นที่ทำให้ Skechers แตกต่างจากแบรนด์อื่นก็คือ “ความเรียบง่าย ที่ใส่ใจในรายละเอียด”
รองเท้าที่สวมใส่สบาย ใช้วัสดุคุณภาพดี และราคาที่คุ้มค่า ไม่แพง
ทำให้ Skechers ครองใจผู้บริโภคทั่วโลกมาโดยตลอด ยิ่งไปกว่านั้น แบรนด์ยังมีกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างชัดเจน
ตั้งแต่คนวัยทำงาน ที่ต้องการความสบาย ไปจนถึงสายชอบเดิน หรือแม้แต่ผู้สูงวัย ที่ใส่ใจสุขภาพเท้า
ทำให้ Skechers ยังคงรักษาการเติบโตของบริษัทไว้ได้
สะท้อนผ่านผลประกอบการในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
- ปี 2021 รายได้ 207,000 ล้านบาท กำไร 24,300 ล้านบาท
- ปี 2022 รายได้ 244,200 ล้านบาท กำไร 12,200 ล้านบาท
- ปี 2023 รายได้ 262,500 ล้านบาท กำไร 17,900 ล้านบาท
- ปี 2024 รายได้ 294,300 ล้านบาท กำไร 21,000 ล้านบาท
ทีนี้เรามาลองวิเคราะห์กันว่า ทำไม 3G Capital ถึงซื้อ Skechers ?
3G Capital เป็นบริษัทการลงทุนระดับโลก มีชื่อเสียงจากการเข้าซื้อกิจการและปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลกำไร
โดยมีการลงทุนในบริษัทชั้นนำมาแล้วหลายแห่ง เช่น
- ถือหุ้นกว่า 30.8% ใน Restaurant Brands International บริษัทเจ้าของแบรนด์ Burger King, Tim Hortons, Popeyes
- Kraft Heinz บริษัทอาหารและซอส ระดับโลก
- AB InBev บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยักษ์ใหญ่ของโลก
จากประวัติการลงทุนของ 3G Capital แล้ว จะพบรูปแบบที่เน้นลงทุนในบริษัทที่มีแบรนด์ติดตลาด เป็นที่รู้จักในระดับโลก และเป็นสินค้าในชีวิตประจำวัน
ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ 3G Capital สนใจใน Skechers
เพราะเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ครองส่วนแบ่งตลาดเบอร์ 3 ของโลกได้ แบรนด์มีฐานลูกค้าที่ภักดี
แถมมีการเติบโตในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดย Skechers มีรายได้กว่า 62% ของรายได้ทั้งหมด มาจากต่างประเทศ
ทำให้ 3G Capital มองเห็นโอกาสในการลงทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว
ด้วยการช่วยให้ธุรกิจ ได้ปรับปรุงการควบคุมต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
แม้ Skechers จะถูก Take Over ไป แต่ 3G Capital วางแผนที่จะรักษาทีมผู้บริหารเดิมของ Skechers รวมถึง ให้คุณ Robert Greenberg ดำรงตำแหน่ง CEO ไว้เช่นเดิม เพื่อให้การดำเนินงานยังคงมีความต่อเนื่อง และใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของทีมงาน ที่สั่งสมมา
การรักษาทีมผู้บริหารเดิมไว้ ยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของ 3G Capital ต่อทิศทางและกลยุทธ์ของ Skechers
นอกจากนี้ 3G Capital จะเอา Skechers ออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วย
เพราะมองว่า การเป็นบริษัทเอกชน จะช่วยให้ Skechers มีความยืดหยุ่นในการปรับตัว และดำเนินกลยุทธ์ระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น ไม่ต้องรับแรงกดดันระยะสั้น ในการต้องทำผลประกอบการให้เป็นไปตามเป้าที่นักลงทุนระยะสั้นคาดหวัง
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ Skechers ในการปรับตัว และเติบโตในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
โดยมี 3G Capital ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการธุรกิจระดับโลก มาเป็นพันธมิตร
สุดท้ายก็น่าติดตามว่า หลังจากการเข้าซื้อของ 3G Capital
ท่ามกลางเกมธุรกิจ ที่รายล้อมไปด้วยแบรนด์พี่ใหญ่อย่าง Nike, Adidas ที่กำลังเร่งปรับตัวสู้กลับ และน้องใหม่มาแรงอย่าง HOKA, On และอีกมากมาย ที่เข้ามาท้าทาย
Skechers จะยังสามารถรักษาตำแหน่งในตลาดเอาไว้ได้
รวมถึงได้ไพ่เด็ดในมือใบใหม่ ที่สามารถพลิกเกม จนช่วยให้แบรนด์มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มมากขึ้น ได้หรือไม่..
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
