[รีวิวอัลบั้ม] Balloonerism - Mac Miller >>> บอลลูนบนฟ้า
-ตัวอย่าง posthumous album ที่ปล่อยมาเยอะจนเฝือและไม่ขลังเท่ากับที่ปล่อยมาชุดแรกๆมีให้เห็นเยอะจนไม่รู้สึกล้ำค่าอย่างที่ควรจะเป็น แต่สำหรับฝ่ายกองมรดกของ Mac Miller สามารถใช้คำว่า handle with care ต่อกองเพลงเหล่านั้นได้อย่างเต็มปาก ส่งต่อการรำลึกได้อย่างซาบซึ้ง ไม่ใช่การระบายเพลงเพื่ออิงแอบผลประโยชน์อย่างพร่ำเพรื่อ ใส่ใจแม้กระทั่งการเลือก Release Date ยังตั้งใจให้ตรงกับวันที่ปล่อย Circles เมื่อ 5 ปีที่แล้วแบบลงล็อควันศุกร์ที่ 17 มกราคมเป๊ะๆด้วย
-อันที่จริงแล้ว Balloonerism เป็นคอลเลคชั่นเพลงปีลึกที่ Mac รังสรรค์ไว้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ราวๆปี 2014 ในช่วงที่แม็คกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นจากกระแสตอบรับที่ดีตั้งแต่อัลบั้ม Watching Movies with the Sound Off และมิกซ์เทป Faces ซึ่งแฟนเพลงต่างเห็นพ้องถึงช่วงที่ความคิดสร้างสรรค์ของแม็คกำลังเฟรชได้ที่ ซึ่งเพลงเหล่านี้มาจากคลังเพลย์ลิสท์ที่ทำเสร็จเพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น
-เพราะความส่วนตัวจัดๆ ประหนึ่งเพลงงานศพที่หมกมุ่นตั้งคำถามถึงความเป็นความตาย วิกฤติตัวตน รวมถึงวังวนแห่งความเสพติด ยิ่งเมื่อได้ฟังแล้ว มันก็ชวนขนลุกอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในบางช่วงบางตอนที่เจ้าตัวดันทำนายการเสียชีวิตได้ตรงวันอย่างในเพลง Funny Papers ตรงท่อน I saw his picture in the funny papers / Didn't think anybody died on a Friday ซึ่งเกิดเรื่องไม่คาดคิดว่า เจ้าตัวดันตายตรงกับวันศุกร์พอดี
-เพลง Mrs. Deborah Downer ในช่วง Outro ที่แทรกคลิปเสียงเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของคนติดยาที่ออเดอร์ยาเพื่อเอามาเล่นอีก กลับกลายเป็นว่าชุดยาที่ใส่ในเนื้อเพลงนั้นเสือกตรงกับชุดยาที่ออเดอร์ในวันที่แม็คเสียชีวิตอีกต่างหาก
-อาทิเช่น 5 Dollar Pony Rides ที่พยายามเติมเต็มความว่างเปล่าของตัวเองด้วยการเป็นผู้ให้ที่คอยปรนเปรอคนอื่นอยู่ข้างเดียว Friendly Hallucinations เพลงนี้เป็นตัวแทนเพื่อนคนติดยาที่น่าเวทนามากๆกับการที่ไม่คิดจะขัดจังหวะความสุขจากการ get high ของเพื่อนขี้ยาด้วยกันเอง หลีกหนีความจริงด้วย “ความหลอนที่เป็นมิตร” ต่อไปเถอะ รวมถึงเพลงให้กำลังใจสาวที่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากคนในครอบครัวด้วยการมาเล่นยาด้วยกันในเพลง Stoned
ภาพต้นฉบับของ Alim Smith
-ปกอัลบั้มที่รังสรรค์โดย Alim Smith ศิลปินสาย surrealism ก็พอบ่งบอกถึงความบิดเบี้ยว ผิดรูปผิดร่าง เป็นนิมิตรภาพหลอนของคนเล่นยาเลยก็ว่าได้ ก่อนเสียชีวิตเพียงไม่ถึงเดือน แม็คเกิดถูกใจภาพวาดบอลลูนในลักษณะเดียวกันที่ Alim Smith ได้วาดเป็นผลงานไว้ตั้งแต่ปี 2016 จนอยากให้ Alim วาดให้แม็คแบบนี้บ้าง ทางด้าน Alim ก็รู้สึกช็อคที่วาดรูปให้เสร็จไม่ทัน และได้แชร์ภาพวาดเพื่อเป็นที่รำลึก 7 ปีต่อมาก็ไม่เสียเปล่าที่ภาพวาดนี้ได้เป็นปกอัลบั้มนี้ในที่สุด
-Rick’s Piano อีกหนึ่งเพลงเปียโนบัลลาดที่น่าจดจำและมีเบื้องหลังที่อัศจรรย์จากการที่แม็คนั้นได้ไปบ้านของ Rick Rubin ในช่วงระหว่างที่รอเข้าพบเพื่อปรึกษางานเพลง แม็คได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการเล่นเปียโนของตา Rick แบบ improvise แล้วอัดเสียงลงมือถือดิบๆแม่งเลย และการตัดสินใจให้เพลงนี้เป็นแทร็ครองสุดท้ายก็เป็นความเฉียบแหลมในการจัดเรียง เพราะนี่ถือเป็นไคล์แม็กซ์ของอัลบั้มนี้ที่ตั้งคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบเพื่อถกชีวิตหลังความตายได้อย่างจริงจังที่สุดแล้ว
-นอกจาก Rick’s Piano ที่บ่งบอกถึงการที่ Rick Rubin ได้เข้ามาวนเวียนในช่วงนึงของชีวิตแม็คแล้ว ยังมีเพลง Shanghai-La ที่ชื่อเพลงเป็นชื่อเดียวกับสตูดิโอของ Rick Rubin ในเมือง Malibu ที่ซึ่งแม็คมักจะใช้เพื่อไปทำเพลงและตัดขาดจากโลกภายนอก ทั้งนี้ Shanghai-La ยังเป็นสถานที่ในนิยายที่หมายถึง สวรรค์ หรือดินแดนในอุดมคติ Utopia ซึ่งในเพลงนี้แกก็ทิ้งข้อความสั่งเสียจินตนาการถึงงานศพตัวเองด้วย
-นอกจากเราจะได้เห็นพรสวรรค์ทางดนตรีอันเปี่ยมล้นที่เป็นได้มากกว่าแรปเปอร์แล้ว เรายังได้เห็นการปลดล็อค Alter Ego อย่าง Delusional Thomas ที่เปรียบเหมือนด้านซาตานที่ represent ความบิดเบี้ยวในตัวของแม็คให้ออกมาเฉิดฉายในเพลง Transformations ซึ่งมาในเชิง freestyle เล่นสนุกกับ DJ Clockwork เพื่อนดีเจที่ต้องการให้แม็คเชื้อเชิญ DT ออกมาโลดแล่นอยู่ในบีทเสียหน่อย
-ถ้าใครเป็นแฟนเพลงแบบสายลึกเลยจะรู้ว่า Delusional Thomas คือตัวแสบที่เป็นด้านมืดที่สุดของแม็คที่พ่นคอนเทนท์มองโลกในแง่ร้ายอย่างสุดโต่ง มีผลงานมิกซ์เทป 1 อัลบั้มเต็มถ้วน ตอนที่แม็คได้ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ Warner แม็คเลือกที่จะไม่สานต่อเรื่องราวของ DT มาโลดแล่นในบทเพลงยุคต่อๆไป
-Tomorrow Will Never Know คือเพลงที่เก่าสุดที่ทำก่อนใครเพื่อนตั้งแต่ปี 2013 อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ซักแห่งหนที่แม็คเล่าให้ฟังว่า เขาเพิ่งทำเพลงแอมเบี้ยนกล่อมนอนสุดเจ๋งเพลงนึง ซึ่งก็คือเพลงนี้เนี่ยแหละ สุดท้ายก็ได้มาเป็นเพลงปิดท้ายอัลบั้มที่สรุปเรื่องราวแบบปลายเปิดก็จริง แต่ชัดเจนตั้งแต่ชื่อเพลงซึ่งไม่มีใครล่วงรู้ถึงอนาคตและภพภูมิหน้าได้จริงๆ
Outro ที่มีเสียงเด็กๆกำลังวิ่งเล่น และทิ้งเสียงปลายสายยาวๆโดยที่ “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก” น่าจะพอบอกเป็นนัยถึงภพภูมิหน้าที่แม็คได้ไปถึง และได้สตาร์ทความเยาว์วัยครั้งใหม่แล้วจริงๆ
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ
Top Tracks: DJ’s Chord Organ, Do You Have A Destination?, 5 Dollar Pony Rides, Friendly Hallucinations, Stoned, Shangri-La, Funny Papers, Manakins, Rick’s Piano