ท่องแดนมังกร 2025 (18) วัด Songzanlin สถานที่ที่อ๊อกซิเจนเบาบาง แต่ไม่เคยร้างศรัทธา
“แชงกรีลา” แปลว่า "พระอาทิตย์และพระจันทร์ในหัวใจ" ในภาษาธิเบต .. เป็นเมืองหลวงของเขตปกครองตนเองทิเบตตี่ชิงในมณฑลยูนนาน ตั้งอยู่บนระดับความสูงจากน้ำทะเลประมาณ 3,300 เมตร
อากาศเบาบางแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งศรัทธา และเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ที่ใกล้กับสวรรค์ที่สุด
"พระราชวังโปตาลาน้อย" หรือวัดซ่งจ้านหลิน .. เป็นวัดพุทธทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในแชลกรีลาและยูนนาน สร้างขึ้นบนภูเขา Foping โดยทะไลลามะองค์ที่ 5 ในช่วงศตวรรษที่ 18 สมัยจักรพรรดิดังซีแห่งราชวงศ์ชิง
.. เป็นวัดแห่งการท่องเที่ยวของนิกายหมวกเหลือง (Gelung)ที่ทุกท่านที่มาถึงแชงกรีล่าแล้วจะต้องแวะมา
วักแห่งนี้มี 6 โครงสร้างหลัก รวมถึง 8 วิทยาลัย ทางเข้าอยู่เชิงเขาและมีบันได 146 ขั้นเข้าสู่ลานจตุรัสใหญ่ของวัด
เราใช้บริการรถรับจ้างของชาวบ้านในการขึ้นสู่ด้านบนและทางเข้าสู่อารามภายในกลุ่มอาคารของวัด .. การสงวนพลังงานในการเดินบนที่สูง เป็นสิ่งที่ผู้สูงอายุอย่างเรามักจะทำเสมอ เพื่อให้การเดินทางรื่นรมย์มากขึ้น
หลังคาสีทองที่ส่องประกายเจิดจ่าสุกอร่ามในแสงสุริยัน เป็นเสมือนพนักงานต้อนรับผู้มาเยือน .. หากมาถึงก่อน 08.00 น. คุณจะได้รับประสบการณ์การสวดมนต์ตอนเช้าของพระสงฆ์
อาราม 3 อารามขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนลานวัด โดดเด่นอย่างน่าเกรงขามด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และด้วยความสูง
ว่ากันว่า .. สถาปัตยกรรมของวัดถูกถอดแบบมาจาก “พระราชวังโปตาลา”ที่ “นครลาซา” แห่งทิเบต ถือเป็นวัดแบบทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในมณณฑลยูนนาน และเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาในแถบนี้
.. ในช่วงเทศกาลเกตง (Gedong Festival) ของปฏิทินทิเบต ชาวทิเบตที่นี่ยังคงรักษาประเพณีตั้งเดิมด้วยการมีระบำหน้ากาก ซึ่งเป็นการเต้นรำของชาวจาม และเป่าแตรงอน ซึ่งแสดงโดยพระสงฆ์ที่สวมหน้ากาก และเสื่อผ้า ที่สื่อถึงเทพเจ้า ผี และสัตว์
ฉันเลือกไปนั่งพักในศาลาด้านหนึ่งของลานวัด .. ภายในศาลามีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ผนัง อาจจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเทพและเรื่องราวความเชื่อที่เกี่ยวข้อง
Zhacang Hall อารามหลักของวัด ตั้งอยู่ตรงกลาง ... เป็นสถานที่ที่พระสงฆ์มาชุมนุมกันเพื่อศึกษาหลักคำสอนและสวดมนต์
ในวันที่เราไปเยือนนั้น โถงหลักของอารามปิดเนื่องจากมีการสวดมนต์ของพระสงฆ์
ปกติเวลาเข้าไปเยี่ยมชมวัดทิเบต หากมีพระสงฆ์กำลังสวดมนต์ จะมีการเป่าแตรงอนให้สุ้มเสียงเสริมสร้างบรรยากาศให้ดูศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น .. แต่การเยือนครั้งนี้ ประตูทางเข้าโถงหลักปิด
ภายในอารามสิ่งที่สะดุดทุกสายตาภายในอารามแห่งนี้ แต่เป็นด้านนอกของโถงอารามหลัก คือ นอกจาดภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังแล้ว ยังโดดเด่นด้วยการตกแต่งเครื่องห้อยรูปลักษณ์สะดุดตา สีจัดจ้าน .. รายละเอียดซับซ้อน
ภาพเขียนสีจิตรกรรมฝาผนังที่ซับซ้อนวิจิตรสวยงามมากปกคลุมผนัง รายละเอียดมากจริงๆ ผนังไม่ว่าจะสูงแค่ไหนก็ล้วนเต็มไปด้วยภาพวาด
มีภาพเหตุการณ์สำคัญทางพุทธศาสนามากมายที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส ซึ่งแสดงถึงชีวิตของพระพุทธเจ้า และวงล้อแห่งชีวิต
… ที่แสดงถึงอาณาจักรทั้ง 6 ได้แก่ สวรรค์ เทวดา มนุษย์ นรก เปรต และสัตว์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม ศูนย์กลางของวงล้อนั้นสื่อถึงอันตราย 3 ประการของชีวิต ได้แก่ ความไม่รู้ ความเกลียดชัง และความโลภ
โถงบันได .. ใครบางคนบอกว่าสีที่ใช้เขียนภาพทั้งหมดได้มาจากธรรมชาติทั้งสิ้น เข้าใจว่าเป็นภาพของเทพเจ้าต่างๆในความเชื่อของคนในพื้นที่
อารามแห่งนี้ประกอบไปด้วยชั้นต่างๆหลายชั้น .. ผู้มาเยือนอารามหลังนี้ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปชมด้านบนได้ ฉันจึงเดินขึ้นบันไดเพื่อไปชมและถ่ายรูปสิ่งต่างๆ
ชั้นที่สองนี้ .. สามารุมองเห็นพระประธานผ่านช่องเปิด
เราเดินขึ้นไปชั้นบน
ชั้นถัดไป .. มีทางเดินรอบๆที่ประดับด้วยภาพวาดทางศาสนา ศิลปะภาพประดับตามเสา หัวเสาสวยมาก อยู่ในโทนสีแดงเป็นหลัก
อีกห้องดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่ผู้เลื่อมใสมาขอพรจากพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่
ที่สอง ถึงชั้นที่สี่ .. บรรยากาศสลัวๆ สร้างแสงเงาสวยงามจากเสาสีแดงหลายต้นของอาคาร ทุกชั้นประดับด้วยภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง
ฉันเดินขึ้นไปจนมายืนอยู่บนหลังคาวัดซึ่งมีหลังคาสีทองแวววาวอยู่ข้างๆ และมีฉากหลังเป็นภูเขา ..
การได้ยืนอยู่ ณ พื้นที่ด้านบนอย่างใกล้ชิด ทำให้เราสามารถซึมซับบรรยากาศสถาปัตยกรรมที่งดงามอันส่วนใหญ่ถูกฉาบไล้ด้วยสีทอง โดยมีภาพธรรมชาติของภูมิประเทศใกล้เคียงอยู่ในสายตาในขณะเดียวกัน .. สวยมากๆ
ยอดแหลมและมุมหลังคาของวัด เป็นทองแดงเคลือบทองซึ่งสามารถมองเห็นได้ไกลหลายไมล์ภายใต้แสงแดดที่ส่องประกาย .. สวยงามมากมาย และเป็นที่ชื่นชอบของช่างภาพ
กงล้อมนตรา หรือ วงล้อสวดมนต์ (Prayer Wheel ) มีให้เห็นในหลายจุด ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก
วงล้อสวดมนต์ และการแกะสลักมนต์ 6 ตัวอักษรอันวิจิตรงดงามบนระฆังสวดมนต์ ตามคัมภีร์ "กันจูร์" ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างของอารามหลัก ภายในมีกระดาษเขียนมนต์อยู่นับพันบท .. มีผู้เลื่อมใสศรัทธาแวะเวียนกันมาหมุน วงล้อสวดมนต์ สมบัติทางวัฒนธรรมของชาวทิเบต เหล่านี้ไม่ขาดสาย
อารามด้านซ้ายมือของอาคารประธาน .. ทำเป็นบันไดทางขึ้น ปนะดังบด้วยธงมนตราหลากสี
บรรยากาศภายในวัดเป็นแบบทิเบตอย่างชัดเจน ด้วยธงสวดมนต์ผืนเล็กๆที่ได้รับการขีดเขียนหรือพิมพ์จารึกเป็นบทสวดมนต์ มีด้วยกัน 5 สีผูกเป็นริ้ว
.. เส้นสายของริ้วธงมนต์ที่โบกสะบัดตามสายลม สร้างบรรยากาศ ที่ขรึมขลังให้กับศาสนสถานแห่งนี้มากขึ้นไปกว่าปกติ รวมถึงความรู้สึกปิติที่แผ่ซ่านในจิตของผู้มาเยือน จากความเชื่อที่ว่า มนตราจากผืนธงสวดมนต์ที่ล่องลอยคามสายลม จะบันดาลความโชคดีให้กับชาวพุทธที่ผ่านมา
วงล้อสวดมนต์ขนาดเล็กมักเรียงข้างบันไดทางขึ้นลง เพื่อให้ผู้คนได้หมุนกงล้อ ขณะที่ก้าวขึ้นไปตามบันได สู่ทางเข้าห้องโถงของอาราม .. เสมือนกับได้ท่องสวดมนค์ไปด้วย
เมื่อเข้าสู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ บางครั้งมองเห็นชาวทิเบตน้อมตัวลงทำความเคารพแบบเบญจางคประดิษฐ์แบบทิเบต .. แล้วผู้เลื่อมใสศรัทธามักจะคุกเข่าสวดมนต์ต่อหน้าพรนะพุทธรูปประธาน ก่อนจะพนมมือเดินวนรอบด้านในของอารามตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ ..
เมื่อก้าวข้ามประตูทางเข้าของอารามสู่ด้านใน .. ภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม เป็นภาพของพระพุทธเจ้าในอดีต องค์พระศากยมุนี และพระศณีอารยเมตตรัย หรือพระพุทธเจ้าในอนาคต
ห้องโถงใหญ่ของอารามมีความกว้างขวาง งดงาม สิ่งที่เรารู้สึกได้ครั้งแรกคือบรรยากาศของความศักดิ์สิทธิ์ ที่ผ่านเข้าจากรูปทรงและสีสันจัดจ้านของส่วนประกอบต่างๆ รวมถึงความลังเมลืองของแสงสีภายในอารามที่ไม่สว่างนัก
ตรงสุดของผนังด้านใน ..ภาพพระพุทธรูปปางต่างๆ และรูปปั้นเทพอยู่หลายองค์สูงตระหง่าน ที่เราต้องแหงนหน้าชมนั้นน่าทึ่งมาก เป็นพุทธศิลป์ที่งดงามสะกดสายตาทุกคู่ ด้วยฝีมือของผู้สร้างสรรค์ชั้นครู
หลายคนสะดุดตากับเครื่องสักการะสีสันสดใส ทำจากเนยจามรีและผงข้าวบาร์เล่ย์ผสมกับสีต่างๆ ที่นำมาปั้นเป็นรูปต่างๆติดบนโครงไม้แทนดอกไม้บูชา
ชาวบ้านที่นี่มองว่าทุกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จิตวิญญาณเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด .. เป็นความเชื่อของการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์ กับจิตวิญญาณ และธรรมชาติ
ห้องด้านซ้ายภายในอารามแห่งนี้ เต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่าเช่นพระพุทธรูปทองคำ ตะเกีงทอง พระทิเบต การถางไฟเงิน และยังมีสิ่งของต่างๆอีกมากมาย
.. ทั้งหมดนี้เชื่อว่าเป็นคอลเล็กชั่นขนาดใหญ่ที่สะสมกันมาจากราชวงศ์จีนหลายราชวงศ์ เป็นผลงานล้ำค่าที่ทำขึ้นโดยคนทิเบตและฮั่นที่ทำให้บรรยากาศทางศาสนาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ผนังสามด้าน เป็นที่บรรจุพระพุทธรูปขาดเล็กสีทอง
ห้องโถงภายในอาราม บรรจุคัมภีร์จำนวนมาก รูปปั้น
อารามด้านขวาของอารามหลัก .. เป็นที่ตั้งของ Zong Keba ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งนิกาย Gelug ใสนพุทธศาสนาทิเบต .. เป็นที่ที่พระสงฆ์มาชุมนุมกันเพื่อสวดมนต์ และศึกษาหลักคำสอoของศาสนา
วัดซ่งจ้านหลิน .. เป็นสถานที่ที่ดีที่จะสัมผัสถึงบรรยากาศทางศาสนาและเทศกาลที่เข้มข้น วัด Ganden Sumtseling สร้างขึ้นโดยใช้สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของทิเบต
ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามในแต่ละห้องโถง คอลเล็กชั่นสมบัติทางพุทธศาสนาของทิเบตจำนวนมากช่วยสร้างบรรยากาศทางศาสนาที่เข้มข้น
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
