Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฟิสิกส์โลกธาตุ
•
ติดตาม
วันนี้ เวลา 09:21 • ปรัชญา
📘 ตอนที่ 3
#ฟิสิกส์โลกธาตุ
🛕 จักรวาลที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน
🛕 พระองค์ตรัสถึง “จักรวาล” หรือไม่?
คำตอบคือ — เคย
และ กล่าวไว้อย่างน่าอัศจรรย์
พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสรู้เพียง “กฎของธรรมชาติ”
แต่ทรงเห็น ธรรมชาติของทุกกฎ
พระองค์ไม่เพียงตรัสถึง “โลกที่เรามองเห็น”
แต่ยังตรัสถึง “โครงสร้างของจักรวาล” ที่ลึกกว่านั้นอีกมาก
ทั้งในแง่กายภาพ และแง่แห่งการดับทุกข์
🌌 จักรวาลในสายตาผู้รู้แจ้ง
แม้พระองค์จะทรงกล่าวถึง “อนุ” (ปรมาณู) หรือ “โลกธาตุ”
ซึ่งฟังดูคล้ายแนวคิดฟิสิกส์สมัยใหม่
แต่พระองค์ ไม่ได้มุ่งอธิบายฟิสิกส์เพื่อการทดลองหรือคำนวณ
หากแต่ทรง รู้แจ้งถึงกลไกการเกิด–ดับของโลกทั้งปวง
ในฐานะสิ่งที่ขึ้นต่อเหตุปัจจัย — ไม่เที่ยง — และเป็นที่ตั้งแห่งทุกข์
❝ โลกเกิดขึ้นเพราะวิญญาณไปอาศัยนามรูป ❞
❝ และโลกดับลงได้... เมื่อดับวิญญาณที่ไปยึดถือ ❞
📘 โลกในพระสูตร ≠ “โลกใบนี้” เท่านั้น
ใน จูฬนีสูตร (พระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ เล่ม 20 ข้อ 520)
พระพุทธเจ้าทรงตรัสถึงโครงสร้างจักรวาล
ที่กว้างไกลเกินกว่าโลกที่มนุษย์อาศัยอยู่
🪐 สหสฺสี จูฬนิกา โลกธาตุ = จักรวาลพันระบบ
❝ ยาวตานนฺท จนฺทิมสุริยา ปริหรนฺติ ทิสา ภนฺติ วิโรจนา ตาว สหสฺสธา โลโก ❞
“ตราบเท่าที่พระอาทิตย์และพระจันทร์ยังส่องแสงอยู่ในทิศทั้งหลาย โลกก็มีอยู่เป็นพันระบบ”
📎 (พระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ เล่ม 20 ข้อ 520 – จูฬนีสูตร)
👉 อ่านต้นฉบับ:
https://etipitaka.com/read/pali/20/291/
จักรวาลนี้ประกอบด้วย “โลกธาตุ” นับพัน นับล้าน:
🌞 พระอาทิตย์, 🌕 พระจันทร์
🗻 ภูเขาสิเนรุ
🌏 ทวีปทั้ง 4 (หมายถึงดินแดน 4 ส่วน ที่มีมนุษย์ต่างกัน 4 แบบ)
🌊 มหาสมุทร
👼 จาตุมหาราชิกา รวมถึงสวรรค์ 6 ชั้น
🕉️ พรหมโลก
🌀 ขอบเขตจักรวาลสามชั้น (3 ระดับ)
ในพระสูตร (จูฬนีสูตร, พระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ เล่ม 20 ข้อที่ 520) พระพุทธเจ้าทรงแสดงถึง โครงสร้างจักรวาล แบ่งออกเป็น 3 ชั้นซ้อนกัน ดังนี้:
สหสฺสี จูฬนิกา โลกธาตุ
→ โลกธาตุพันระบบ
→ คือระดับเล็กสุด มีขอบเขตเท่ากับบริเวณที่แสงจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ส่องไปถึง
→ เปรียบได้กับ “Observable Universe” ในแนวคิดฟิสิกส์ (พื้นที่ที่แสงจากดวงดาวทั้งหลายเดินทางมาถึงผู้สังเกตบนโลกได้)
ทวิสหสฺสี โลกธาตุ
→ พันระบบของ "สหสฺสี จูฬนิกา โลกธาตุ" อีกทีหนึ่ง
ติสหสฺสี มหาสหสฺสี โลกธาตุ
→ พันระบบของ "ทวิสหสฺสี โลกธาตุ" อีกทีหนึ่ง
แม้แนวคิดจักรวาลสามชั้นนี้จะฟังดูยิ่งใหญ่เกินคาดในสมัยพุทธกาล
แต่พระองค์กลับสามารถตรัสรู้ถึง โลกธาตุ ทั้งหมดนี้ โดยไม่ต้องพึ่งกล้องโทรทรรศน์หรือคอมพิวเตอร์
❝ เพราะสิ่งที่พระองค์เห็น ไม่ใช่เพียง “รูปร่างของโลก”
แต่คือ “สภาพของสัตว์ที่เวียนว่ายอยู่ในโลกธาตุเหล่านั้น” ❞
🧠 โลกนี้... เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ใน ปัจจยสูตร (พระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ เล่ม 16 ข้อ 61)
พระพุทธเจ้าตรัสถึง ปฏิจจสมุปบาท ว่า:
❝ วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปํ ❞
(เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงเกิดขึ้น)
โลกที่จิตรับรู้ = ผลของจิตที่ไปรับรู้โลก
“โลกในสายตาเรา” คือโลกที่จิตปรุงแต่งขึ้นโดยเหตุปัจจัย
👉 อ่านต้นฉบับ:
https://etipitaka.com/read/thai/16/22/
🔄 โลกสมุทยะ – โลกนิโรธ
ในพระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ เล่ม 18 ข้อ 156–157
พระองค์ตรัสว่า:
“โลก” เกิดจากอายตนะทั้งหก (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)
โลก “ดับ” ได้ ด้วยการดับตัณหา อุปาทาน และเหตุปัจจัยต่อเนื่อง
โลก ≠ ก้อนดินที่ลอยในอวกาศ
โลก = สิ่งที่จิตสัมผัสในทุกขณะ แล้วปรุงเป็นความมีอยู่
👉 อ่านต้นฉบับ:
https://etipitaka.com/read/thai/18/89/
🔭 วิทยาศาสตร์สนใจ “จักรวาลที่สังเกตได้”
🧘♂️ แต่พระพุทธศาสนา... สนใจ “จักรวาลที่ดับได้”
จักรวาลในพระพุทธศาสนา ไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเรา
หากแต่คือสิ่งที่ “ดับได้” เมื่อจิตไม่ยึดถือ
🧘♀️ แต่คำถามคือ...
“ทำไมพระพุทธเจ้าจึงสามารถรู้ได้ไกลขนาดนั้น?”
ทรงเห็นจักรวาลนับพันล้านระบบได้อย่างไร?
📘 พระองค์ทรงรู้ด้วย พระสัพพัญญุตญาณ — ปัญญาอันไม่มีประมาณ
ซึ่งไม่อาจอธิบายด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์หรือสมาธิของปุถุชน
🧠 แต่สำหรับผู้ฝึกสมาธิจนถึง จตุตถฌาน — จิตที่นิ่งละเอียดจนปราศจากคลื่นปรุงแต่ง
ในระดับนั้น อาจบังเกิด อภิญญา (ญาณพิเศษ) ได้ เช่น
– การแสดงฤทธิ์ (อิทธิวิธิ)
– การรู้จิตของผู้อื่น
– การระลึกชาติ
– การเห็นสวรรค์–นรก
– การรู้การสิ้นอาสวะ
ดังนั้น...
จิตในสมาธิที่นิ่ง จึงไม่ได้แค่ “สงบ”
แต่สามารถเปลี่ยนความรู้สึก — หรือแม้แต่ “โลกที่รับรู้” ได้โดยตรง
📘 จิตที่เข้าถึงจตุตถฌาน และอภิญญา
ในระบบการปฏิบัติของพระพุทธศาสนา
อภิญญา (ความรู้พิเศษ) เกิดขึ้นจาก จิตที่ตั้งมั่นในจตุตถฌาน
โดยเฉพาะ อภิญญาข้อแรก:
อิทธิวิธา — การแสดงฤทธิ์ เช่น ล่องหน แยกร่าง เดินบนน้ำ
เป็นผลของจิตที่นิ่งจนราวกับว่า จิตนั้นเป็นผู้ “กำหนดให้โลกที่ทับซ้อน ยุบ(collapse)เป็นโลกที่ต้องการเห็น”
นี่เป็นหัวใจสำคัญของ “การรู้–การเห็น” เหนือโลกสามัญ
แม้ผู้ที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า ก็สามารถรู้โลกธาตุด้วยจิตในสมาธิได้
📎 หมายเหตุ: อภิญญาเป็นความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติสมาธิจนถึงระดับจตุตถฌาน สำหรับอภิญญาในส่วนที่ไม่ใช่ข้อความรู้การสิ้นอาสวะ(อาสวักขยญาณ)นั้นไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา แต่อาจเป็นทางผ่านหรือเครื่องมือช่วยในบางกรณี
📘 ตอนหน้า:
“จิตในจตุตถฌาน... มันทำอะไรกับโลกที่รับรู้?”
“อภิญญา” เกิดขึ้นได้อย่างไรจากสมาธิ?
และมันมีความสัมพันธ์อย่างไรกับฟิสิกส์ควอนตัม?
พบกับการเชื่อมโยงที่ลึกที่สุด
ระหว่างพุทธศาสนา สมาธิ และจักรวาล
ตอนที่ 4: เมื่อจิตเข้าสู่จตุตถฌาน... มันกำลังทำอะไรกับความจริง?
เราจะพาเข้าสู่หัวใจสำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติเพื่อความรู้ยิ่งหรือความรู้พิเศษที่เหนือสามัญสำนึก(อภิญญา)
เมื่อจิตเข้าสู่ “จตุตถฌาน” — แท้จริงแล้วมันกำลังทำอะไรกับ “โลกที่ปรากฏ”?
ตอนที่ 4: 🧘♂️ เมื่อจิตเข้าสู่จตุตถฌาน... มันกำลังทำอะไรกับโลก?
📎 แหล่งอ้างอิง:
– จูฬนีสูตร (พระไตรปิฎกบาลีสยามรัฐ เล่มที่ 20 ข้อที่ 520)
👉
https://etipitaka.com/read/pali/20/291/
– ปัจจยสูตร (เล่มที่ 16 ข้อที่ 61)
👉
https://etipitaka.com/read/thai/16/22/
– สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค (เล่มที่ 18 ข้อที่ 156–157)
👉
https://etipitaka.com/read/thai/18/89/
ปรัชญา
ธรรมะ
วิทยาศาสตร์
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ฟิสิกส์โลกธาตุ
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย