10 พ.ค. เวลา 11:05 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญค่ะ มันเกิดจากมนุษย์คนหนึ่งชื่อว่ากาลิเลโอ (Galileo) ดันไปหมกมุ่นสังเกตดวงจันทร์ และพบว่าดวงจันทร์ไม่ได้ราบเรียบแบบที่ตาเปล่าเรามองเห็น มันมีภูเขาและอะไรต่อมิอะไรอีกมาก แต่คนอื่นก็ไม่เชื่อ แต่เขาก็ดื้อ (ที่จริงเขาดื้อ ตั้งแต่พ่อให้เรียแพทย์แต่ดันเรียนไม่จบ เพราะรักคณิตศาสตร์ จึงหันไปเรียน เพียวแมทช์แทน)
แล้วเพราะความดื้อนี่แหละ ก็ทำให้เขาคำนวณว่าดวงจันทร์มันหมุนรอบตัวเองใช้เวลาเท่าใด โดยใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ จึงพบว่ามันหมุนรอบตัวเองเฉลี่ย 27 วัน แต่ไม่เป๊ะนะ มีจุดทศนิยมอีกหลายตำแหน่งด้วย จากนั้นคนทั้งโลกใบนี้ ก็เชื่อกาลิเลโอ ลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน ตัดให้เหลือห้วนๆว่า 27 วัน
กลับมาที่คำถามตามจินตนาการ ว่าถ้ามันหุมนเร็วขึ้นหรือช้าลง จะเกิดอะไรขึ้น นั่นคือ หากคาบการโคจรไวขึ้น เราก็จะเห็นดวงจันทร์หมุนกลิ้งหลุนๆๆๆ เหมือนเวลาเราเอาลูกบอลไปลอยในกะละมังใส่น้ำ แล้วมันก็กลิ้งหลุนๆ ยิ่งโคจรไวขึ้น การหลุนก็มากขึ้น ถ้าเรานั่งดูเฉยๆ เราก็จะเห็นมันกลิ้งหลุนๆ
สรุป จะเห็นมันกลิ้งหลุนๆๆ
เหมือนลูกบอลลอยกลางอวกาศ
คำถามที่น่าสนใจกว่าคือ............
การที่ปู่ทวดของทวดของทวด
ของทวดของทวดของทวด
อย่างกาลิเลโอ เป็นคนแรกที่หมกมุ่น
จนค้นพบมันได้สำเร็จ
นั่นเป็นเหตุบังเอิญ หรือป่ะ?
โฆษณา