ทรัมป์เคลมเจรจาภาษีจีน “คืบหน้า” สงครามการค้าส่อเปลี่ยนทิศ
โดนัลด์ ทรัมป์ เผยการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนรอบใหม่ในสวิตเซอร์แลนด์ “เป็นมิตร-สร้างสรรค์” พร้อมย้ำมีความคืบหน้าอย่างมาก ขณะที่สงครามภาษียังคุกรุ่น
ความสัมพันธ์การค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งเผชิญความตึงเครียดต่อเนื่องจากสงครามภาษีตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ดูจะมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแสดงท่าทีในเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาระหว่างสองประเทศในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยใช้ถ้อยคำว่าเป็น “การรีเซ็ตใหม่ทั้งหมด” และเป็นการพูดคุยที่ “เป็นมิตรแต่สร้างสรรค์”
ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่าการเจรจาในวันแรกกับจีนเป็นไปด้วยดี และเน้นย้ำว่า “มีความคืบหน้าอย่างมาก” โดยระบุว่า เป้าหมายสำคัญคือการผลักดันให้จีนเปิดตลาดแก่ธุรกิจอเมริกัน ซึ่งเป็นจุดยืนที่สหรัฐฯ ผลักดันมาโดยตลอด
การเจรจาครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ทั้งสองประเทศตอบโต้กันด้วยมาตรการภาษีอย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงถึง 145% ขณะที่จีนก็ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ สูงสุดที่ 125% การประชุมในเจนีวา ซึ่งเป็นการพบกันแบบเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสองประเทศนับตั้งแต่ต้นปี เกิดขึ้นระหว่าง เหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีของจีน และสก็อตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ โดยมีกำหนดการเจรจาต่อเนื่องไปจนถึงวันอาทิตย์
แม้เนื้อหาการพูดคุยจะยังไม่มีรายละเอียดเปิดเผยมากนัก นอกเหนือจากโพสต์ของทรัมป์ แต่สัญญาณจากทั้งสองฝ่ายก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ที่ลากยาวมาหลายเดือน ฝ่ายสหรัฐฯ โดยโฆษกทำเนียบขาว แคโรไลน์ เลวิตต์ ยืนยันว่าสหรัฐฯ จะไม่ลดภาษีฝ่ายเดียว เว้นแต่จีนจะมีข้อเสนอที่ชัดเจนในการแลกเปลี่ยน ซึ่งสะท้อนว่านี่ไม่ใช่ “ข้อตกลงการค้าใหญ่” แต่เป็นความพยายาม “ลดระดับความขัดแย้ง” ตามที่เบสเซนท์ระบุไว้
ขณะเดียวกัน ฝั่งจีนก็ได้ส่งสัญญาณเปิดใจ โดยสื่อของรัฐรายงานว่า การตัดสินใจเข้าร่วมเจรจาครั้งนี้ของจีนเกิดจากการพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งจากความคาดหวังของประชาคมโลก ผลประโยชน์ของชาติ และแรงกดดันจากภาคธุรกิจอเมริกัน
ความรุนแรงของสงครามการค้าระลอกล่าสุดทวีความเข้มข้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา หลังทรัมป์ประกาศ “ภาษีขั้นพื้นฐาน” กับสินค้านำเข้าทั้งหมดภายใต้ชื่อ “Liberation Day” หรือวันปลดแอก โดยสหรัฐฯ เล็งเป้าไปที่ประเทศคู่ค้าที่ถูกมองว่า “ละเมิดกติกาการค้า” มากที่สุดถึง 60 ประเทศ รวมทั้งจีนและสหภาพยุโรป
มาตรการใหม่นี้ยังรวมถึงการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% รวมทั้งเก็บภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนจากทุกประเทศในอัตราเดียวกัน ล่าสุด สหรัฐฯ เพิ่งบรรลุข้อตกลงกับสหราชอาณาจักรในการลดภาษีรถยนต์จาก 25% เหลือ 10% สำหรับโควตาจำนวนสูงสุด 100,000 คัน ซึ่งเท่ากับปริมาณรถยนต์ที่สหราชอาณาจักรส่งออกไปสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา โดยสินค้ากลุ่มรถยนต์ถือเป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของสหราชอาณาจักร คิดเป็นมูลค่าราว 9 พันล้านปอนด์ต่อปี
ความเสียหายจากสงครามภาษีไม่เพียงกระทบจีนเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เองด้วย โดยในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัวในอัตรา 0.3% ต่อปี ขณะที่บริษัทจำนวนมากต้องเร่งนำเข้าสินค้าก่อนภาษีใหม่จะมีผล ส่วนฝั่งจีนเองก็ได้รับผลกระทบไม่น้อย โดยบริษัทส่งออกบางแห่ง รายงานว่าสินค้ากว่าครึ่งที่ปกติส่งไปยังสหรัฐฯ ขณะนี้ต้องนอนรออยู่ในคลังสินค้า
ท่ามกลางแรงกดดันทางเศรษฐกิจและเสียงเรียกร้องจากภาคธุรกิจทั้งสองฝ่าย การเจรจาในเจนีวาอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการคลี่คลายข้อขัดแย้ง แม้จะยังไม่ใช่ข้อตกลงใหญ่ แต่หากดำเนินต่อไปด้วยความสร้างสรรค์ตามที่ทรัมป์กล่าว ก็อาจนำไปสู่การลดแรงปะทะระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจ และสร้างความหวังใหม่ให้กับภาคการค้าโลกที่กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
