11 พ.ค. เวลา 12:53 • นิยาย เรื่องสั้น

ความรักของผมในช่วงวัยรุ่นนั้นไม่ราบรื่นเอาเสียเลย

ผมเริ่มคบกับเธอตอนผมอยู่ ม.6 เธอเป็นแฟนคนแรกของผม เริ่มต้นความรักนั้นช่างหวานชื่น ตามประสารักแรก อะไรต่างก็ดูดีไปหมด เราไปไหนมาไหนด้วยกัน กินข้าว ดูหนัง นอนด้วยกัน ทำงาน หาเงินด้วยกัน มีทะเลาะกันบ้างตามประสาคนรัก มีหลายครั้งที่เธอควรจะจากผมไป แต่ผมกลับรั้งเธอไว้ด้วยความเห็นแก่ตัวของผม ผมคิดว่ายังไงเธอก็ยังอยู่กับผมเสมอ แต่นั่นมันก็แค่เมื่อตอนที่เรายังอยู่ในเมืองเล็กๆ
เมื่อเราต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัย มีวิถีชีวิตแบบใหม่ พบเจอสังคมใหม่ๆ ในตอนแรกนั้นเราตื่นเต้นกันมากๆ ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันสองคน ช่วงแรกๆ ลำบากเล็กน้อย แต่เมื่อเราสองคนได้ทำงานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน ทำให้ปัญหานั้นหมดไปอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อเราทำงาน เวลาในการทำกิจกรรมร่วมกันของเราก็น้อยลงเรื่อยๆ ตอนนั้นผมยังควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ไม่ค่อยดีนัก ขี้บ่น ชอบชวนทะเลาะ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ได้เสมอ ผมเป็นผู้ชายที่ทำตัวได้ไม่สมกับเป็นลูกผู้ชายเลยจริงๆ แต่เธอก็ยังรักผม
ช่วงคบกันปีที่ 3 ผมเริ่มรู้สึกว่าเราเริ่มห่างเหินกันในด้านของความรู้สึก ผมไม่แคร์เธอเท่ากับเมื่อก่อนแล้ว ไม่สนใจเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก กิจกรรมร่วมกันก็ยิ่งน้อยลง ผมก็ยังทำตัวแบบเดิม ทำให้ความสัมพันธ์ของเรามันแย่ลงไปอีก เมื่อผมไม่ใช่ความสุขของเธออีกต่อไปแล้ว ซึ่งมันจริง ตอนนั้นผมยังไม่รู้ แต่ตอนนี้ผมได้ตระหนักแล้ว ว่าผมกับเธอ เราไปด้วยกันอีกต่อไปไม่ได้แล้ว
ด้วยสภาพสังคมที่เราเจอ ภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุดแล้วเราจึงตัดสินใจแยกทางกัน ในตอนนั้นผมรู้สึกเสียใจมากๆ อะไรๆ มันแย่ไปหมด แต่สุดท้ายแล้วผมก็ผ่านมาได้
เธอคือคนแรกที่ทำให้ผมรู้ว่าความรักคืออะไร และเป็นหนึ่งในเรื่องราวสำคัญของชีวิตผม เป็นเพื่อนที่ดี เป็นแฟนที่ดี ต้องขอบคุณเธอที่ทำให้ตัวผมเป็นตัวผมในวันนี้ เธอเปรียบเสมือนครูอีกคนนึงของผม สอนผมหลายๆ อย่าง เรื่องที่ควรปฏิบัติกับผู้หญิง และเรื่องที่ไม่ควร
ตลอด 3 ปีที่ผมคบกับเธอมา จะไม่บอกว่าไม่เสียดายคงไม่ได้ มันเป็นช่วงวัยรุ่นของผมช่วงหนึ่ง เป็นช่วงเวลาที่สำคัญอีกหนึ่งช่วงในชีวิตของผม ผมจำประโยคนึงได้ตอนเราคุยกันครั้งสุดท้าย ผมถามเธอว่า
"งั้นที่ผ่านมามันสูญเปล่าหมดเลยหรอ?"
เธอตอบว่า
"ไม่หรอกเธอ มันไม่สูญเปล่าหรอก..."
ด้วยเสียงที่สั่นพร่า ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจประโยคนั้น ในขณะนั้นมันเต็มไปด้วยอารมณ์ที่รุนแรง ทั้งโศกเศร้า โกรธเกรี้ยว และจบลงด้วยจุมพิตสุดท้ายของผมกับเธอ มันเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้พบกับเธอ
ผมสามารถถอดบทเรียนจากความรักครั้งนี้ได้อย่างมากมาย ผมได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองอยู่พักหนึ่ง ประมาณเดือนหรือสองเดือน หลังจากเหตุการณ์นี้ทำให้ผมเป็นคนที่มีเหตุผลมากขึ้น
เมื่อผมเห็นอะไรที่มันไม่ค่อยดี หรือเวลามีใครทำผิดพลาด หรือทำสิ่งที่ผมไม่ค่อยชอบใจนัก ผมก็จะคิดหาเหตุผลก่อนว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น และถามอย่างใจเย็น หรือหากมันเป็นเรื่องเล็กน้อย ผมก็สามารถปล่อยผ่านไปได้
ผมพูดน้อยลง พยายามคิดก่อนพูด พยายามเป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน เรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่ผมได้ทำลงไป ในท้ายที่สุด ผมก็ได้เข้าใจประโยคนั้น
ประโยคสุดท้ายที่เธอได้พูดกับผม ตอนนี้ผมได้เข้าใจแล้ว
ต้องขอบคุณเธอจริงๆ หวังว่าตอนนี้เธอยังสบายดีนะ
โฆษณา