11 พ.ค. เวลา 15:07 • หนังสือ

The Humans มนุษย์ต่างเดา

รอบนี้ขอเสนอเป็น The Humans ผลงานของ Matt Haig ที่รีปริ้นอีกครั้งโดยสำนักพิมพ์ Bookscape เราชอบไอเดียในการตั้งชื่อแปลไทยเล่มนี้ของทางทีมงานมาก เพราะมันเป็นการเล่นคำที่เข้ากันกับเนื้อหาของเรื่องได้พอดี หนึ่งคือการที่เล่มนี้มีตัวละครหลักเป็นมนุษย์ต่างดาว และสองคือการที่สารหลักของเรื่องคือการค้นหาความหมายของชีวิตที่มนุษย์แต่ละคนก็เฝ้าหาคำตอบกันอยู่ทุกวัน จนได้ออกมาเป็นชื่อ #มนุษย์ต่างเดา ที่สื่อถึงทั้งสองอย่างที่กล่าวไปได้ครบจบในคำเดียว ครีเอทสุดๆไปเลย 😆
ลักษณะการเล่าเรื่องจะเหมือนกับเราได้อ่านบันทึกเกี่ยวกับมนุษย์โลกที่ถูกเขียนขึ้นโดยชาววอนนาโดเรียนคนหนึ่ง พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากดาวอันแสนห่างไกลที่ได้พัฒนาอารยธรรมของตนไปถึงขีดสุดแล้ว วอนนาโดเรียนตนนี้ได้ถูกส่งมายังโลกเพื่อหยุดยั้งความก้าวหน้าทางคณิตศาสตร์ที่ "ศาสตราจารย์แอนดรูว์ มาร์ติน" ได้ค้นพบ และเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จเขาจึงต้องสวมรอยเป็นแอนดรูว์ให้แนบเนียนที่สุด ติดอยู่แค่ว่าดาวเคราะห์ที่เรียกว่าโลกนี้มันช่างล้าหลังเสียเหลือเกิน
แอนดรูว์ (ตัวปลอม) รู้สึกว่าพวกมนุษย์นี่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง จิตใจของพวกเขานั้นไม่เคยพร้อมจะรับมือกับความก้าวหน้าของตนเองเลยสักครั้ง หน้าตาก็อัปลักษณ์ อาหารก็ห่วยแตก ไหนจะเรื่องชวนปวดหัวอย่างอารมณ์ความรู้สึก ลักษณะความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน วิถีชีวิตและบรรทัดฐานทางสังคมก็แตกต่างกับดาวบ้านเกิดของเขาสุดๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ได้พบว่าความบกพร่องเหล่านั้นก็มีแง่มุมที่สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามของชีวิตได้เช่นกัน
ถ้าคุณอ่านเล่มนี้โดยตั้งความคาดหวังไว้ว่ามันจะตอบคุณได้ว่าความหมายของชีวิตอะไร คุณจะไม่มีทางรู้คำตอบนั้นแน่นอน เพราะตลอดทั้งเล่มมันคือเรื่องราวการใช้ชีวิตทั่วไปของคนธรรมดาคนหนึ่งที่ถูกนำมาเล่าผ่านมุมมองของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งหากคุณห้ามความอยากรู้ไว้ไม่อยู่ว่าข้อคิดจากเรื่องนี้คืออะไรบ้าง คุณสามารถเปิดไปอ่านหน้า 372-381 แล้วปิดหนังสือเล่มนี้ไปเลยก็ได้ มันมีสรุปไว้อยู่แล้ว
แต่เชื่อเถอะว่าคุณไม่อยากทำแบบนั้นหรอก เพราะคุณจะเข้าใจทุกคำในหน้านั้นได้ด้วยการสัมผัสเรื่องราวทั้งหมดไปพร้อมๆกับตัวเอกเท่านั้น การคอยมองหาแต่บทสรุปคือก้าวแรกที่จะพาคุณหลงทาง เพราะคำตอบของคำถามที่มนุษย์เฝ้าสงสัยกันมาหลายชั่วอายุคน ไม่ใช่สิ่งที่จะตอบได้ด้วยถ้อยคำไม่กี่คำ แต่มันคือการค่อยๆเรียนรู้ผ่านการใช้ชีวิต เหมือนกับเนื้อหาในเล่มนี้ที่คุณจะต้องค่อยๆซึมซับมันเข้าไป เพื่อจะได้เข้าใจว่า "ชีวิต" คืออะไรและมีหน้าตาแบบไหน
ที่นี่เธอมีความเจ็บปวด ความสูญเสียเป็นราคาที่จ้องจ่าย แต่รางวัลที่ได้ก็วิเศษเช่นกัน
ตัวเอกของเราได้ค้นพบว่าชีวิตบนโลกนี้ช่างเปราะบางและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เจ็บป่วยได้แต่ไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้โดยง่าย เมื่อได้รับบาดเจ็บแล้วพวกเขาก็จะเป็นทุกข์กับความเจ็บปวดไปอีกสักพัก จนกว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นนั้นจะหายดี ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขาสามารถตายได้ ไม่ว่าจะโดยทันทีอย่างอุบัติเหตุ หรืออย่างช้าๆด้วยการโรยราไปตามกาลเวลาก็ตาม
แต่เพราะมีเงามืดไม่ใช่หรือ แสงสว่างก็เลยยิ่งอบอุ่น เพราะโลกนี้มีความโหดร้าย มนุษย์จึงเรียนรู้ที่จะดูแลและปกป้องกันและกัน เพราะพวกเขารู้ว่าสักวันจะต้องจากกันไกล ความสัมพันธ์ที่มีจึงลึกซึ้งและเปี่ยมความหมาย เพราะพวกเขารู้ว่าความทุกข์คืออะไร ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถมีความสุขได้ เพราะเมื่อชีวิตมันเลวร้ายได้ มันก็ย่อมงดงามได้เช่นกัน ❤️
มีชีวิตต่อ นั่นเป็นภารกิจสำคัญที่สุดของเธอบนโลกนี้
เป็นเรื่องธรรมดาที่วันใดวันหนึ่งคุณจะเจอกับเรื่องราวแย่ๆจนรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า เป็นคนไม่สำคัญ แต่ขอให้รู้ไว้ว่ามันไม่ได้แปลว่าชีวิตของคุณไร้ความหมาย ตัวเอกในเรื่องนี้ได้คำนวณความน่าจะเป็นที่มนุษย์คนหนึ่งจะเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้เอาไว้ว่าน้อยมากๆจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ นั่นแปลว่าคุณได้ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้นับตั้งแต่ที่คุณลืมตาขึ้นมาในบนโลกใบนี้แล้ว มันจะมีอะไรยากไปกว่านี้อีกหรือ
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าได้ยอมแพ้กับชีวิตของตัวเอง มีแต่คนที่เคยทำผิดพลาดเท่านั้นที่จะกลายเป็นคนที่ดีขึ้นได้ และมีแต่คนที่ข้ามผ่านภูเขาแห่งอุปสรรคมาได้แล้วเท่านั้นที่จะมองเห็นความงดงามของการมีชีวิต ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ เราก็ยังมีโอกาสในการเริ่มต้นใหม่เสมอ ดังนั้นไม่ว่าสิ่งที่ต้องรับมืออยู่จะเลวร้ายแค่ไหน โปรดจำไว้ว่าไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการไม่มีชีวิตให้ใช้ต่ออีกแล้ว
ท้ายที่สุดแล้ว คำตอบที่ตัวเอกของเล่มนี้ได้อาจจะไม่ตรงกับคำตอบในใจคุณก็ได้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดหรอกนะ เป็นเรื่องปกติที่คนแต่ละคนจะมอบนิยามของความหมายของชีวิตแตกต่างกัน แม้กระทั่งคนคนเดียวกันก็อาจมองความหมายของชีวิตเปลี่ยนไปเมื่อเวลาผ่านไปด้วยซ้ำ มันขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาต้องการอะไร และให้ความสำคัญกับสิ่งใดในขณะนั้น
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณต้องใช้ชีวิตเสียก่อน จึงจะเข้าใจว่าความหมายของชีวิตคุณคืออะไร บางทีมันอาจจะเป็นแค่เรื่องเรียบง่ายอย่างการได้รักและถูกรักจากใครสักคน หรือเป็นเรื่องยิ่งใหญ่อย่างการสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคม แต่ไม่ว่าคำตอบของคุณจะเป็นอะไร ในระหว่างที่ยังหามันไม่เจอก็อย่าลืมดื่มด่ำไปกับทุกจังหวะของชีวิตด้วยล่ะ เพราะถึงจะตอบคำถามนี้ไม่ได้ เราก็ยังคงมีความสุขได้อยู่ดีนะ 😉
เข้มข้นขนาดนี้ ต้องไปจัดกันสักหน่อยแล้ว 👉🏻 https://s.shopee.co.th/Lab0YcpCV
โฆษณา