ภาพพระเยซูถูกตรึงกางเขนซึ่งติดอยู่เป็นส่วนหนึ่งของขาตั้งเอาไปสำหรับวาดรูป เป็นผลงานของ มาร์ก ชากาล (Marc Chagall) ศิลปินที่อยู่ในยุคเดียวกันกับอองรี มาติส ที่กล่าวถึงในบทความก่อน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มาทำงานกันในปารีสในยุคนั้น หรือที่เรียกว่า School of Paris ทำให้เกิดงานศิลปะสมัยใหม่ที่เฟื่องฟูขึ้นมากในยุคนั้น
ชากาลได้ฝากข้อความอธิบายภาพนี้ไว้ว่า I am crucified with Christ. Like Him, I was nailed to the easel. น่าจะแปลได้ว่า ตัวฉันถูกตอกตรึงไปกับขาตั้งวาดรูป เช่นเดียวกับที่พระเยซูถูกตอกกับไม้กางเขนนะแหละ
อันที่จริงชุดงานพระเยซูถูกตรึงกางเขนนี้ก็ไม่ได้มีอยู่ที่วาติกันแห่งเดียวนะ แต่มีคอลเลกชั่นที่อื่นๆอีกในโลก อย่างเช่น The Yellow Crucifixion จัดแสดงอยู่ที่ Musée National d'ArtModerne ในเมืองปารีส เป็นการอุทิศให้กับชาวยิวในช่วงที่นาซี โดยใช้พระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นชาวยิวเช่นเดียวกันมาสื่อถึงความเศร้าทรมานของมนุษยชาติที่แบ่งแยกเกลียดชังกัน
อ่อ ลืมบอกไป ว่ารูปนี้จัดแสดงอยู่ที่ Musée National d'ArtModerne ในปารีส
ผลงานอีกชิ้นคือ White Crucifixion แสดงถึงการข่มเหงชาวยิวโดยพวกนาซีเช่นกัน มีภาพการทำลายล้างบ้านเมือง ผู้คนซึ่งพากันอพยพหนีตายในช่วงนั้น ตอนนี้จัดแสดงที่ Art Institute of Chicago ที่อเมริกา
ถ้าถามว่าแล้วภาพไหนวาดก่อนหลังล่ะ ขอบอกว่าการเล่าของผู้เขียนไม่ได้เรียงตามช่วงเวลาที่วาด ภาพที่ถูกวาดภาพแรกนั้นคือ White Crucifixion วาดในปี 1938 หลังเหตุการณ์ Kristallnacht (คืนแห่งกระจกแตก) ซึ่งเป็นการโจมตีชาวยิวในเยอรมนี ส่วน Yellow Crucifixion วาดในอีก 5 ปี หลังจากนั้น (1943) ตอนที่ศิลปินลี้ภัยไปอเมริกาแล้ว และภาพในพิพิธภัณฑ์วาติกัน ที่ชื่อ The Exodus หรือ Red Crucifixion วาดขึ้นภายหลังสงครามโลกถือว่าใหม่สุด