12 พ.ค. เวลา 19:32 • ศิลปะ & ออกแบบ

การตรึงกางเขนสีแดง (Red Crucifixion) โดยมาร์ก ชากาล

ภาพพระเยซูถูกตรึงกางเขนซึ่งติดอยู่เป็นส่วนหนึ่งของขาตั้งเอาไปสำหรับวาดรูป เป็นผลงานของ มาร์ก ชากาล (Marc Chagall) ศิลปินที่อยู่ในยุคเดียวกันกับอองรี มาติส ที่กล่าวถึงในบทความก่อน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มาทำงานกันในปารีสในยุคนั้น หรือที่เรียกว่า School of Paris ทำให้เกิดงานศิลปะสมัยใหม่ที่เฟื่องฟูขึ้นมากในยุคนั้น
ลองมาทายกันไหมฮะว่าภาพนี้สื่อถึงอะไร
อาจมีคนตอบถูกกันหลายคนใช่ไหม ภาพนี้แสดงการอุปมาว่าไม้กางเขนนั้นก็เปรียบเสมือนภาระการงานในด้านการวาดรูปของศิลปิน ซึ่งตอกตรึงทรมานศิลปินอยู่อย่างยาวนาน นั่นก็หมายความว่าพระเยซูในภาพนี้ก็คือตัวศิลปิน มาร์ก ชากาล นั่นแหล่ะที่โดนแขวนทรมานอยู่ ยืนยันได้จากใบหน้าของพระเยซูซึ่งถูกแทนที่ด้วยหน้าของมาร์ก ชากาลเอง
เราจะตีความได้ไหมว่าชากาลกำลังรู้สึกว่า ฉันกำลังทำงานหนักจังเลยทรมานใจจัง ไม่อยากวาดรูปเลย (เหมือนคนเขียนเลย อยากออกจากงานประจำมาเขียนบทความศิลปะเต็มตัวซะที)
ชากาลได้ฝากข้อความอธิบายภาพนี้ไว้ว่า I am crucified with Christ. Like Him, I was nailed to the easel. น่าจะแปลได้ว่า ตัวฉันถูกตอกตรึงไปกับขาตั้งวาดรูป เช่นเดียวกับที่พระเยซูถูกตอกกับไม้กางเขนนะแหละ
อันที่จริงชุดงานพระเยซูถูกตรึงกางเขนนี้ก็ไม่ได้มีอยู่ที่วาติกันแห่งเดียวนะ แต่มีคอลเลกชั่นที่อื่นๆอีกในโลก อย่างเช่น The Yellow Crucifixion จัดแสดงอยู่ที่ Musée National d'ArtModerne ในเมืองปารีส เป็นการอุทิศให้กับชาวยิวในช่วงที่นาซี โดยใช้พระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นชาวยิวเช่นเดียวกันมาสื่อถึงความเศร้าทรมานของมนุษยชาติที่แบ่งแยกเกลียดชังกัน
ข้างๆกับพระเยซูคือม้วนกระดาษกฎหมายสีเขียวขนาดใหญ่ (โตราห์) มีทูตสวรรค์ถือเทียนและเป่าแตรอยู่ข้างล่าง ท่ามกลางไฟสงคราม และผู้คนที่กำลังอยู่ในอันตราย โดยเฉพาะครอบครัวยิวที่กำลังขี่ม้าเพื่อหลบหนีจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งดูแล้วชวนให้คิดถึงตอนที่โยเซฟพาพระนางมารีย์และพระเยซูหลบหนีตอนที่กษัตริย์เฮโรดสั่งกำจัดพระเยซู หลังจากทราบข่าวว่าพระองค์ประสูติแล้ว
นอกจากนี้ยังมีรูปบันได ซึ่งมีผู้ตีความไปต่างๆนานา แต่ที่น่าจะเป็นที่สุดคือการขึ้นสู่สวรรค์ของผู้ที่ถูกเข่นฆ่า เพราะบันไดในวัฒนธรรมยิวและคริสต์ มักใช้สื่อถึงการติดต่อระหว่างฟ้ากับดินหรือการไต่เต้าไปสู่สวรรค์ ในกรณีนี้ บันไดอาจเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง การไถ่บาป หรือทางรอด ท่ามกลางความเจ็บปวด
อ่อ ลืมบอกไป ว่ารูปนี้จัดแสดงอยู่ที่ Musée National d'ArtModerne ในปารีส
ผลงานอีกชิ้นคือ White Crucifixion แสดงถึงการข่มเหงชาวยิวโดยพวกนาซีเช่นกัน มีภาพการทำลายล้างบ้านเมือง ผู้คนซึ่งพากันอพยพหนีตายในช่วงนั้น ตอนนี้จัดแสดงที่ Art Institute of Chicago ที่อเมริกา
ถ้าถามว่าแล้วภาพไหนวาดก่อนหลังล่ะ ขอบอกว่าการเล่าของผู้เขียนไม่ได้เรียงตามช่วงเวลาที่วาด ภาพที่ถูกวาดภาพแรกนั้นคือ White Crucifixion วาดในปี 1938 หลังเหตุการณ์ Kristallnacht (คืนแห่งกระจกแตก) ซึ่งเป็นการโจมตีชาวยิวในเยอรมนี ส่วน Yellow Crucifixion วาดในอีก 5 ปี หลังจากนั้น (1943) ตอนที่ศิลปินลี้ภัยไปอเมริกาแล้ว และภาพในพิพิธภัณฑ์วาติกัน ที่ชื่อ The Exodus หรือ Red Crucifixion วาดขึ้นภายหลังสงครามโลกถือว่าใหม่สุด
บางคนอาจจะคิดว่าที่ตั้งชื่อว่าสีแดง มันก็ไม่ค่อยจะแดง คือมีสีแดงอยู่หย่อมนึงตรงด้านบนเท่านั้น แต่เขาเรียกแบบนี้ก็เรียกตามเขาไปเถอะ และอีกอย่างสีแดงอาจมีความหมายถึงเลือด ความทุกข์ทรมาน ความรุนแรงจากการเมือง/สงคราม ที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งศิลปินต้องการจะสื่อให้เห็น
ท่านผู้อ่านชอบภาพไหนกันล่ะ บอกกันให้ทราบบ้าง จะได้รู้ว่าใครคิดกันยังไง (บอกไปก็เถอะนะ เอาเข้าจริงก็ไม่ค่อยจะมีใครเมนต์กันสักเท่าไร คนเขียนต้องการมากขอบอก)
ขอขอบพระคุณภาพและข้อมูลจากแหล่งต่างๆเหล่านี้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา