Apple เป็นหนึ่งในบริษัทที่ถูกจับตามากที่สุด ที่ตกอยู่ในความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม Apple ระบุว่า จากมาตรการภาษีดังกล่าว คาดว่าจะทำให้ Apple ต้องเพิ่มต้นทุนประมาณ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงไตรมาส 2
ซึ่งการขึ้นราคาอาจช่วยให้ Apple บรรเทาต้นทุนที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากมาตรการภาษีที่ขัดขวางห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และบังคับให้ Apple ต้องย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอินเดียมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวระบุว่า Apple ไม่ต้องการโยงการเตรียมขึ้นราคานี้กับมาตรการภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่อย่างใด ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ส ก็ยังไม่ได้รับตอบกลับคำขอความคิดเห็นของ Apple ในเรื่องนี้