บทที่ 3: พายุแห่งการต่อสู้
เมื่อร้านหยดฝันเริ่มสว่างไสวราวดวงดาวในลานนา ชาวเมืองมองอัยย์ด้วยความชื่นชม จากเด็กสาวที่ถูกเรียกว่า “เพ้อฝัน” เธอกลายเป็นนางฟ้าแห่งความหวัง แต่แสงสว่างของเธอก็ดึงดูดเงามืด นายใหญ่ นักธุรกิจจากเมืองหลวง ผู้มีชื่อเสียงในวงการอาหารและเครื่องดื่ม เดินทางมาถึงลานนาด้วยรถยนต์สีดำเงาวับที่สะท้อนแสงราวกับกระจกแห่งความโลภ เขาได้ยินเรื่องราวของร้านหยดฝันและต้องการซื้อสูตรของอัยย์เพื่อเปลี่ยนมันให้กลายเป็นอาณาจักรชานมไข่มุกทั่วโลก
นายใหญ่ยื่นข้อเสนอที่เหมือนดักจับวิญญาณ เงินก้อนโตที่มากพอจะเปลี่ยนชีวิตครอบครัวของอัยย์ให้กลายเป็นเทพนิยาย พ่อของอัยย์น้ำตาคลอขณะขอร้อง
“ลูกเอ๊ย เงินนี้จะทำให้เราหลุดจากความจน”
แต่อัยย์รู้สึกถึงความหนักอึ้งในใจราวกับมีก้อนหินทับ เธอมองไปที่ร้านที่เต็มไปด้วยสีสันและรอยยิ้ม และพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังก้องราวกับสายฟ้า
“สูตรนี้ไม่ใช่แค่ส่วนผสม มันคือหัวใจของฉัน ถ้าฉันให้คุณไป หยดฝันจะกลายเป็นแค่เงาของเงิน!”
นายใหญ่หัวเราะเยาะราวกับมังกร
“โลกนี้หมุนด้วยกำไร ไม่ใช่ความฝัน” เขากล่าวก่อนจากไป
แต่ไม่นาน เขากลับมาพร้อมร้านชานมไข่มุกขนาดยักษ์ใจกลางลานนา ร้านของเขามีป้ายไฟนีออนที่สว่างเจิดจ้าราวกับจะกลืนแสงดาว เครื่องจักรที่ชงเครื่องดื่มในพริบตา และราคาที่ถูกจนเหมือนคำสาป ลูกค้าหลายคนเริ่มหันไปซื้อจากร้านของนายใหญ่ ร้านหยดฝันกลายเป็นเงียบราวกับเมืองร้าง รายได้ของอัยย์ลดลงจนแทบไม่พอจ่ายค่าเช่า
คืนหนึ่ง อัยย์นั่งมองร้านที่มืดมิด เธอหยิบภาพวาดเก่าที่เธอวาดตอนเด็ก ภาพร้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและเสียงหัวเราะ และน้ำตาไหลราวกับสายฝน แต่เช้าวันต่อมา กลุ่มลูกค้าประจำนำโดยกานต์ เดินเข้ามาในร้านพร้อมเด็ก ๆ ที่มีแววตาเปล่งประกายราวกับดวงดาว พวกเขาตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน
“หยดฝันคือหัวใจของลานนา พวกเราจะสู้ไปด้วยกัน!”
พิกัด หนังสือสร้างแรงบันดาลใจ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
