15 พ.ค. เวลา 07:06 • ปรัชญา

“ขายปลาอย่างมีธรรม

ใจไม่ตกอยู่ในความโลภ
และลูกค้า…ก็ได้รับมากกว่าปลา”
“ขายปลาอย่างมีธรรม
ใจไม่ตกอยู่ในความโลภ
และลูกค้า…ก็ได้รับมากกว่าปลา”
ในโลกของการค้าขาย
ใคร ๆ ก็อยากได้กำไร
แต่นักสื่อธรรม…เรามองลึกกว่านั้น
เราไม่ได้ขายแค่ปลา
เรา มอบชีวิตเล็ก ๆ ที่เราดูแลมาอย่างดี
พร้อมกับพลังบางอย่างที่คนซื้ออาจไม่รู้ตัว
นั่นคือ…ความตั้งใจ ความเมตตา และความรับผิดชอบที่แฝงอยู่ในทุกเกล็ดทุกครีบ
ธรรมะในทุกขั้นตอนของการขายปลา
1. การตั้งราคาอย่างเป็นธรรม
พระพุทธเจ้าตรัสว่า
“ผู้ไม่เบียดเบียนในการเลี้ยงชีพ คืออริยสาวกแท้”
(องฺ.นิ., ฉกฺกนิบาต)
ตั้งราคาโดยพิจารณา
• ต้นทุนจริง
• เวลาที่ทุ่มเท
• ไม่บวกเกินจนผู้ซื้อเสียเปรียบ
• ไม่ต่ำเกินจนตนเองต้องทุกข์
พอดีทั้งตนและเขา…คือสมดุลแห่งธรรม
2. การสื่อสารด้วยความจริง
อย่าบรรยายเกินจริง
อย่าแต่งภาพให้ดูดีกว่าความจริง
เพราะแม้เขาอาจไม่รู้ทันที…แต่ใจเรารู้
และ “ผลกรรม” ไม่เคยหลอกใคร
“คนซื้อเชื่อใจเราเพราะภาพลักษณ์
แต่จะอยู่กับเรานาน…เพราะความจริงใจ”
3. การรับผิดชอบหลังการขาย
บางครั้งลูกค้ามีปัญหา
• ปลาปรับตัวไม่ได้
• น้ำไม่เหมาะ
• หรือเงื่อนไขที่ควบคุมไม่ได้
นักขายธรรมดาอาจปัดความรับผิดชอบ
แต่นักสื่อธรรม…จะสื่อสารด้วยใจ
ให้คำแนะนำ ดูแล ตอบกลับด้วยเมตตา
ไม่ใช่เพราะต้องการยอดขายซ้ำ
แต่เพราะเรายัง “เห็นคุณค่าของชีวิตเล็ก ๆ” อยู่
4. ไม่ยึดติดในผลกำไร
บางวันขายดี
บางวันเงียบ
บางครั้งโดนลูกค้าบ่น
บางครั้งถูกเท
แต่ทั้งหมดนี้…คือสนามภาวนา
พระพุทธเจ้าสอนว่า
“สิ่งใดเกิดขึ้น…สิ่งนั้นดับไป”
กำไร ขาดทุน คำชม คำตำหนิ
คือของชั่วคราว
แต่ใจที่มั่นคง คือของจริง
เราขายปลา…แต่มิได้ขายธรรมะ
แต่ธรรมะจะปรากฏอยู่ในทุกโพสต์
ทุกการตอบแชท
ทุกการพูดคุยกับลูกค้า
แม้ไม่ต้องเอ่ยคำว่า “ธรรม” สักคำเดียว
ในวันหนึ่ง…ถ้าเรามีลูกค้าประจำที่กลับมา
พร้อมคำพูดว่า
“ผมซื้อปลาคุณ เพราะรู้ว่าคุณเลี้ยงมันด้วยใจ”
นั่นแหละ…คือ “ผลกำไร” ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเลขใด
— นักสื่อธรรม
โฆษณา