“ไม่ได้รับงานบ่อย เพราะอยากให้โอกาสไปถึงคนที่เหมาะสมกับงานมากกว่า”
ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ดาราที่เข้าออกวงการเป็นว่าเล่น เพราะเงินเยอะไม่ใช่จุดหมายของชีวิต
ถ้าเอ่ยชื่อ “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” หลายคนคงนึกถึงหนุ่มลูกครึ่งมาดกวน ที่พูดน้อยแต่ขโมยซีนทุกครั้งที่ปรากฏตัว ไม่ว่าจะในหนังรักหรือหนังตลก แม้ช่วงนี้จะไม่ค่อยเห็นหน้าเขาผ่านจอทีวีหรือจอภาพยนต์เท่าเมื่อก่อน แต่ชื่อของซันนี่ก็ยังไม่เคยหายไปจากใจของแฟนๆ
ซันนี่เป็นลูกครึ่งไทย–สิงคโปร์–ฝรั่งเศส พ่อเคยเป็นนักบินอยู่สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ ส่วนคุณแม่เป็นลูกสาวท่านทูตทหาร ครอบครัวเคยทำธุรกิจบริษัททัวร์ แต่เมื่อเจอพิษเศรษฐกิจเข้าไปเต็ม ๆ ทุกอย่างก็พังทลายลงในพริบตา
เขาเคยเล่าย้อนถึงช่วงชีวิตนั้นไว้ว่า
“ตอนเด็ก ๆ บ้านล้มละลายครับ พอทำธุรกิจแล้วมีคนเอาเปรียบ ฝั่งครอบครัวเราโดน ตอนนั้นผมน่าจะอยู่ ม.5 คือที่บ้านไม่ได้บอกอะไรนะครับ เรารู้แค่ว่า ไม่มีเงินเรียน ไม่มีตังจ่ายค่าไฟ”
มีอยู่วันหนึ่ง เขากลับบ้านมาแล้วพบว่าทั้งบ้านมืดสนิท พอถามแม่ถึงได้รู้ว่า ไม่มีเงินจ่ายค่าไฟแล้ว ช่วงเวลานั้น ครอบครัวต้องย้ายออกจากบ้านเดิม ไปเช่าบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ เพื่อให้พอประคองกันไปได้
คุณซันนี่เล่าย้อนไปว่า “ตอนนั้นเราก็สูญเสียศรัทธาและคิดว่าทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกินกับเรา เราก็เลยต้องพึ่งตัวเอง เพราะว่าไม่มีคนบินลงจากฟ้ามาช่วยเราได้หรอก และเราก็เลยเชื่อในความดี”
“ผมอดตายได้ แต่ไม่เท่ไม่ได้” คุณซันนี่ พูดติดตลกในรายการ PERSPECTIVE
ในวันที่รายได้ไม่มี และภาระยังเต็มบ้าน ซันนี่และพี่น้องต้องช่วยกันแบกรับชีวิต พี่ชายพี่สาวออกไปทำงานเต็มตัว ส่วนเขาที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัย เลือกใช้เวลาว่างหาเงินด้วยวิธีที่ตัวเองถนัดที่สุด เล่นดนตรี
“เกือบทุกเทอม ในช่วงนั้น ด้วยความที่เราเป็นน้องคนสุดท้าย ทุกคนต้องช่วยกันหาเงินมาจ่ายค่าเทอมให้เรา เพราะเรายังหางานทำไม่ได้ แต่มันมีปีหลังๆ ที่เราไปเล่นดนตรีตอนกลางคืนเพื่อจะได้ไม่ต้องขอค่าขนมที่บ้าน แต่ภาระ ค่าใช้จ่ายทางการเรียนต้องเป็นของที่บ้าน”
“ผมเคยมีความคิดที่จะออกไปทำงาน แต่ถ้าไปทำงานได้เงินมาไม่กี่บาทมันก็ช่วยอะไรไม่ได้ แม่พูดตลอดว่ายังไงก็ต้องเรียนให้จบ ยังไงก็ต้องเรียนให้ได้”
คุณซันนี่ เล่าว่าเขาเล่นดนตรีกลางคืนเป็นอาชีพเสริมคู่ไปกับการเรียนอยู่ประมาณ 3 ปี ก่อนที่หลังจากนั้น โอกาสก็ค่อย ๆ เข้ามา ซันนี่ได้เริ่มจากการถ่ายโฆษณา ก่อนจะได้ลองไปแคสงานแสดง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของนักแสดงหนุ่มมาดเซอร์ ที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใครคนนี้
[ รายได้และงานในปัจจุบัน ]
จากการค้นหาข้อมูล เราพบว่าคุณซันนี่มีรายได้จากหลายช่องทางสำคัญ ได้แก่
- งานแสดง ซันนี่กลายเป็นพระเอกคิวทองของค่ายภาพยนตร์ เขาได้รับค่าตัวสูงสุดในค่าย GTH (ในปี 2558)ข้อมูลนี้มาจาก ข่าวลือว่าเขาได้ค่าตัว 5 แสนบาท โดยผู้บริหารออกยืนยันว่า “ซันนี่…ถือเป็นพระเอกมือหนึ่งของเรา…ค่าตัวของเขาจึงถือว่าเป็นค่าตัวสูงสุดของ GTH” 
- พรีเซ็นเตอร์และโฆษณา โดยเขาเคยแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับสินค้าหลายประเภท เช่น สมาร์ทโฟน ไอโมบาย (i-mobile) ยางรถยนต์ Toyo Tires  โครงการบ้านของ Origin ฯลฯ
- อีกทั้งเขายังมี ธุรกิจส่วนตัว โดยซันนี่ได้ร่วมลงทุนทำธุรกิจเสื้อผ้ากับเพื่อนทั้งในและนอกวงการ เช่น แบรนด์ Ravenforeigner และ ค่ายมวยพยัคฆินทร์มวยไทย
สาเหตุที่เขามาทำธุรกิจซันนี่ให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ #PERSPECTIVE ไว้ว่า ที่มาทำธุรกิจเป็นไปเพราะ
"มาทำเพราะมันเป็นเจตนาดีของคนอื่น ไม่เกี่ยวกับผมอยู่ดีเพราะผมรู้สึกว่าแค่ส่งเสริมให้เขามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นได้ เราพร้อมจะช่วย"
[ ทัศนคติเกี่ยวกับเงินและการใช้ชีวิต ]
ซันนี่มีแนวคิดเรื่องการเงินตามวิถีพอเพียง เขาเน้นใช้จ่ายอย่างพอเพียงและคุ้มค่า สถานที่ที่เขาชอบไปก็คือ “ตลาดนัดจตุจักร” เพื่อช้อปปิ้งสินค้ามือสอง
ซันนี่เคยให้สัมภาษณ์รายการชีวิตดี๊ดี ไว้ว่าว่าหลักการสำคัญคือ เข้าใจความต้องการตัวเอง และของที่ซื้อควร “คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย”  เช่นเขาเล่าว่าใช้กระเป๋าใบละ 100 บาทตั้งแต่มัธยมปลายจนถึงปัจจุบันโดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะเชื่อว่าเมื่อชอบของชิ้นไหนต้องใช้จนพังให้คุ้ม 
นอกจากนี้ ซันนี่ยังเชื่อว่า “เราไม่จำเป็นต้องเป็นมหาเศรษฐี” เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาคือ ครอบครัวและความสุขที่พอเพียง  เขากล่าวว่า ถ้าเรามีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุขก็นับว่าเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับความร่ำรวยหรือเงินทองมากมาย  ทัศนคตินี้สะท้อนการใช้ชีวิตเรียบง่ายและยั่งยืนของซันนี่ ที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าในชีวิตมากกว่าการสะสมทรัพย์สิน
ปัจจุบันซันนี่ อายุ 43 ปี เล่นหนังมาแล้ว 10 กว่าเรื่อง โดย หนังเรื่อง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ (พ.ศ. 2557) ขึ้นแท่นเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดไปถึง 327 ล้านบาท และเป็นหนังที่ทำเงินได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของ GDH เป็นรองแค่ พี่มาก..พระโขนง ( 598.96 ล้านบาท )
จากคำบอกเล่าของเขาจากเพื่อนในวงการอย่าง สกาย วงศ์รวี ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ซันนี่ ใช้ชีวิตเหมือนวัยเกษียณ ไปเที่ยวต่างประเทศ แต่เมื่ออยู่เมืองไทยจะ ไม่ค่อยออกไปไหนอยู่แต่บ้านกับแมว
สัมภาษณ์เมื่อสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2024 ซันนี่ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า การที่บอกว่าออกจากวงการเป็นการพูดเฉยๆ
"เราไม่ได้รับงานตลอดเวลา และเราจะทำสิ่งที่เราอยากทำก่อน — เพราะไม่ใช่ทุกงานที่เหมาะกับเรา เราอยากให้เขาได้คนที่ดีกว่า เหมาะกว่าเรา และการที่รับงานน้อยหน่อยก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินเท่าไหร่เพราะว่าพอมีเงินอยู่ ผมเอาแบงค์ไป xerox เอา” //หัวเราะ
อ้างอิง:
"ซันนี่" เผยชีวิตบ้านเคยล้มละลาย ไม่มีเงินจ่ายค่าไฟ ผันตัวเองเล่นดนตรีตามผับ
ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ นักแสดงมากฝีมือ กว่าจะเป็นพระเอกให้คนจำได้มันไม่ง่าย | PERSPECTIVE RERUN
GTH ปัดค่าตัว ใหม่ 5 ตอน 2 ล้าน ย้ำ ซันนี่ ทั้งเรื่องเกิน5แสน
แค่เข้าใจตัวเอง! สุขแบบ “ซันนี่” กับชีวิตเรียบง่ายตามหลักความพอเพียง
“สกาย” เผย “ซันนี่” เหมือนผู้ใหญ่วัยเกษียณ ไม่ออกไปไหนอยู่แต่บ้านกับแมว
🔴LIVE "ซันนี่" ไม่ค่อยรับงานเพราะอยากให้เจอคนที่เหมาะกับงานมากกว่าเรา ห่วงช่วงนี้แมวป่วย
#aomMONEY #คนดังกับการเงิน #พอเพียง #การเงินส่วนบุคคล #ซันนี่ #ซันนี่สุวรรณเมธานนท์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
