Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
•
ติดตาม
16 พ.ค. เวลา 12:10 • การ์ตูน
EP : 1,321 คอสโมแรนเซอร์
เริ่มคิดว่าตัวผมเอง รู้จัก อ. Leiji Matsumoto มากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านการอ่านงานของ อ. ที่ช่วงหลังๆ มี สนพ ไพเรท สนใจและหยิบมาทำให้อ่านกันเพิ่มขึ้น แม้จะบอกว่าเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ใช่จำนวนเรื่องที่มากมายอะไรนัก เพราะหากมองกันจริงๆแล้ว แม้แต่ในยุคนี้แฟนมังงะเฉพาะกลุ่มพร้อมจ่ายเงินให้กับผลงานที่ชื่นชอบก็ตาม แต่จำนวนแฟนของ อ. ในไทย ผมก็ว่ามันไม่ได้เยอะมากพอที่จะกระตุ้นให้หยิบงานที่มีอยู่อีกเยอะของ อ. มานำเสนอกันถี่และมากขึ้นเหมือนกับงานของ อ. บางท่าน
หรือว่างานของ อ. อ่านยาก เข้าใจยากเหรอ ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ เพราะงานของ อ. ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรนัก อาจจะหนักด้านอารมณ์และต้องการห้วงอารมณ์ของคนอ่านผสมไประหว่างอ่านอยู่บ้าง แต่ภาพรวมมันเป็นงานที่มีความลึกด้านอารมณ์เป็นหลักและมีเนื้อหาที่เข้าใจง่ายสำหรับคนมีประสบการณ์ชีวิตอยู่บ้างเท่านั้นเอง
แต่ถ้าหากใครยังไม่มั่นใจว่าจะเข้าใจงานของ อ. ได้อย่างที่ผมบอกไว้หรือเปล่า งั้นขอแนะนำอีกหนึ่งงานเรื่องสั้นของ อ. เลย์จิ ที่ผมว่ามันเหมาะกับการอ่านแม้ไม่มีเวลามากนัก ด้วยความเป็นเรื่องสั้น และ มีเนื้อหาที่ชวนให้คุณสนใจ นักวาดมังงะที่ชื่อ เลย์จิ มัตสึโมโต้ คนนี้ครับ กับงานเรื่องนี้ “คอสโมเรนเซอร์”
“คอสโมเรนเซอร์” เล่มนี้เป็นงานที่รวมผลงานเรื่องสั้นที่เขียนไว้ระหว่างปี 1969-1977 รวมทั้งหมด 8 เรื่องสั้นเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยจำนวนเรื่องประมาณนี้ เลยขอเล่าเรื่องย่อแต่ละเรื่องแยกกันเลยดีกว่านะครับ ขอเริ่มด้วยเรื่องนี้ครับ
“คอสโมเรนเซอร์(CosmoRanzers)” 1971
...โดนยิงตกในดินแดนศัตรูและเตรียมใจว่าจะตายอย่างแน่นอน แม้จะเป็นอย่างนั้น “ยามะ” กลับตื่นขึ้นโดยที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็เพราะได้ผู้หญิงคนนึงช่วยเหลือเขาไว้ แต่เพราะได้รับรู้ว่า นามิ คนนี้ก็คือศัตรูของเขาเช่นกัน จึงทำให้เขาจะรีบกลับไปยังกองยานในอวกาศของเขาให้ได้ แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะนามิ ไม่ปล่อยให้เขาไปคนเดียว ... ใช่เธอขึ้นไปบนยานรบและเดินทางออกไปพร้อมเขา เกิดอะไรขึ้น เธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่กับเรื่องราวความขัดแย้งของพวกเขาใน คอสโมเรนเซอร์
ผมไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้มีความสัมพันธ์กับงานเก่าๆของ อ. เรื่องไหนหรือเปล่า ที่พูดอย่างนี้ เพราะสำหรับผมแล้ว เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ผมต้องใช้ความคิดอย่างหนักอยู่ไม่น้อย แม้เนื้อหาจะมีการเปรียบเทียบกับบางเรื่องราวที่ผมเข้าใจก็ตาม อาจจะเป็นเพราะเนื้อหาค่อนข้างน้อย และผมยังไม่เข้าใจสถานการณ์หรือความสัมพันธ์ของสองคนนี้มากพอ
แต่หากมองในแง่รายละเอียด ผมว่าแต่ละบทแต่ละตอนที่ใส่เข้ามา มันบอกอะไรได้หลายๆอย่าง เพียงแต่การเชื่อมต่อแต่ละบทให้เป็นบทสรุปแบบที่ทำให้เข้าใจความหมายของเรื่องนี้นั้น ณ ตอนนี้ผมยังไม่สามารถบอกได้ว่า เข้าใจมันดีครับ
“มนุษย์จักรกลแมชชีนเนอร์ บัน” 1969
เพราะมีพี่ชายเป็นแบบอย่าง ทำให้ “บัน” ตั้งเป้าจะเป็นนักบินอวกาศ ออกไปยังนอกโลกและมีชื่อเสียงตามแบบอย่างที่พี่ชายของเขาได้ทำเอาไว้ แม้จะเป็นอย่างนั้น วาระสุดท้ายของพี่ชายของเขาที่ได้ขึ้นชื่อว่า “ชายผู้เดินทางไกลที่สุดของมนุษย์ชาติ” กลับสั่งเสียห้ามให้เขาออกเดินทางไปยังอวกาศและยกเลิกการจะเป็นนักบินซะ ซึ่งมันขัดแย้งกับสิ่งที่พี่ชายของเขาทำมาตลอดหลายปีตั้งแต่เขาจำความได้
เพราะแบบนั้นมันจึงเป็นปริศนาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถึงทำให้พี่ชายของเขาที่คลั่งไคล้และเป็นมือหนึ่งของนักบินอวกาศบอกกับเขาอย่างนั้นก่อนจากไป และนี่คือเรื่องราวของ บัน ผู้มีความฝันจะเป็นนักบินอวกาศให้ได้ แม้พี่ชายที่เคารพของเขาจะอยากให้เขาเลิกเป็นก็ตาม
เป็นเรื่องสั้นที่ผมว่ามีความครบถ้วนทั้งเนื้อหา ที่มีความหลากหลาย จากเรื่องแนว สืบสวน วิทยาศาสตร์ และระทึกขวัญที่ลงตัวอย่างสูง เดาเนื้อหาแทบไม่ได้ว่าเรื่องต้องการจะสื่อสารอะไร และอะไรคือปัญหาสำคัญของเรื่องนี้ แม้สไตล์การเล่าของ อ. อาจไม่เน้นให้กดดันอะไรมากมายนัก แต่เมื่อเราไปถึงจุดคำตอบว่าเพราะอะไร มันก็ทำให้ผมรู้สึกว่า “สนุก” จนอยากให้ขยายสเกลเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องยาวซัก 2-3 เล่มด้วยซ้ำครับ
“ทะลุมิติ สุดขอบจักรวาล” 1970
โอเคล่ะ เขาอาจจะเป็นแค่ชายหนุ่มอีกคนที่อกหัก เพราะแฟนที่คบกันมากลับกลายไปแต่งงานกับคนอื่นแทนที่จะเป็นเขา จนทำให้เขาเป๋ ไปไม่เป็นกับสถานการณ์แบบนี้ จนมาจบที่ติดเหล้าอย่างโงหัวไม่ขึ้น อย่างวันนี้ก็เช่นกันเขาก็ยังคงออกมาดื่มเหล้าในสวนสาธารณะเล็กๆแห่งนี้ แต่เขาคงไม่คิดว่า ขวดเหล้าที่อยู่ในมือเขา กำลังจะทำให้เขาไปเจอกับเรื่องแปลก และแปลกมาจนถึงขึ้น เสียชีวิต เลยด้วย? !!!
สิ่งที่อยากพูดถึงอย่างแรกก็คือเรื่องนี้จะมีวิธีการนำเสนอตัวเอกที่เป็นผู้ชาย ในสไตล์แบบนี้มากกว่า 1 เรื่อง นี่คือเรื่องแรกที่นำเสนอแบบนี้ครับ ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนงานของ อ. มาตลอดจะรู้ว่า มีบ่อยครั้งที่ อ. มักเลือกให้ “ผู้ชาย” มีสภาพออกมาเป็นผู้แพ้ แต่การที่เรื่องนี้เลือกนำเสนอตัวเอกเพศชายในลักษณะนี้ไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของเรื่องราวแนวแฟนตาซีของเรื่องครับ
สิ่งต่อมาที่อยากบอกก็คือ เรื่องนี้สนุกครับ แม้เนื้อหาไม่เยอะอะไรมาก แต่ไอเดียเหลือร้าย มันซ้อน และซ้อนกับสิ่งที่นำเสนอ รวมถึงปัญหาที่ อ. อยากพูดด้วย และแน่นอน พอตัวเอกออกแนวแบบนี้ วิธีการนำเสนอของ อ. ก็จะไม่เน้นให้มันมีบรรยากาศกดดันอะไรมาก แต่เชื่อเหอะ โครตสนุก และไปได้สุดทั้งทางสาย SF และ ดราม่าครับ
“ดาฟิน (Daffin)” 1969
เพราะอยากลืมความเจ็บจากการจากไปหาของคนอื่นของเธอ ชายหนุ่มคนนี้จึงออกเดินทางมายัง “ดาฟิน” ดาวเคราะห์ที่ห่างไกลเป็นอย่างมาก แม้สิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ในการเดินทางมาที่นี่คือการจับแมลงก็ตาม แต่สิ่งที่เขาพบกับกลายเป็นสิ่งที่เกินคาดคิด และมันจะนำให้เขาเดินเข้าไปสู่ความโดดเดี่ยวที่เขาพยายามหนีมันมา...
“ผู้ชาย” ยังเป็นฝ่ายที่ผิดหวังอยู่เสมอ สำหรับงานของ อ. เลย์จิ เรื่องนี้มาทางอย่างนี้เช่นเดิม และเรื่องราวก็ยังเป็นงานแนวท้าทายความรู้สึกของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัย ในแง่นึงเรื่องนี้เล่าและนำเสนอเรื่องที่ไม่ไกลเกินเข้าใจ เพราะมันคือเรื่องจิตใจมนุษย์ แต่มองอีกแง่นึงสิ่งที่ส่งมาถึงคนอ่านอย่างผม คือความเจ็บปวดที่ตัวเอกพยายามหนีมาแต่ต้องมาพบกันความรู้สึกแบบนี้อีกครั้งที่นี่ สะเทือนใจไม่น้อยเลยครับเรื่องนี้
“เขตแดนมนุษย์ดึกดำบรรพ์” 1970
คนรักในบริษัทกลับไปเลือกแต่งงานกับคนที่มีตำแหน่งใหญ่โตกว่าเขา มันไม่มีทางจะทำให้เขาผู้ผิดหวังเข้าใจถึงเหตุผลและมุมมองของหญิงสาวที่เขาเคยคบอย่างแน่นอน สิ่งนี้จึงทำให้เอาความผิดหวัง ลงขวดเหล้า และวิ่งวนอยู่กับช่วงเวลาที่อยากจะลืมเธอ
แต่เพราะการขว้างขวดเหล้าในที่สาธารณะโดยไม่ระวัง ทำให้เกิดเหตุการเสียชีวิตของคนอื่น และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องที่จะทำให้เขาได้เจอเรื่องที่ไม่คาดคิด และไม่คิดว่าเรื่องที่เริ่มต้นมาแบบนี้ จะพาให้เขาไปสู่บทสรุปของเรื่องราวแบบนั้นได้
เป็นอีกเรื่องนึงที่ทำให้ผมรู้สึกว่า จิตนาการของ อ. มันไปไกลอย่างมาก กับเรื่องราวที่มีจุดเริ่มต้นแบบนี้ และพาไปสู่บทสรุปแบบนั้น ผมว่าไม่มีใครเดาถูกหรอกนะครับ ด้วยเนื้อหาที่อาจจะมองว่าเป็นตลกร้าย แต่ผมก็ว่าเป็นตลกร้ายที่สอดแทรกความรู้สึกและเจ็บปวดให้กับการอ่านเรื่องนี้ได้ไม่น้อย จะบอกว่าหักมุมเอาก็ได้ และแน่นอนเรื่องนี้ให้ความรู้สึกถึงงานจาก อ. อย่างเต็มเปี่ยมเช่นเดิมครับ โครตดีเรื่องนี้
“สุดสิ้นบ่วงมโน” 1976
เขาคือจุดสูงสุดและแบบอย่างที่ผู้ชายทุกคนต้องการจะเป็น หล่อ รวย(มหาศาล) ระดับที่ไม่มีอะไรที่ต้องการแล้วจะไม่ได้มา เพราะแบบนั้น เขาจึงไม่มีทางสนใจคำเตือนบางอย่างจากปากคนที่มีฐานะอันด้อยกว่าเขาอย่างมาก และแน่นอน สิ่งนั้นมันเกิดขึ้นจนพาไปสู่ปลายทางของเรื่องราวที่แสนหักมุม
โอเค เรื่องนี้เอาแบบนี้เลยเหรอครับ ผมอยากให้อ่านเรื่องนี้นะ คิดว่าหลายคนคงยิ้มมุมปาก และอาจจะมีบางคนหงุดหงิดกับวิธีการปลายทางของเรื่องนี้ก็ได้ และสำหรับผม ผมยิ้มมุมปากครับ 555
“มหาสงครามชิงตัวตน” 1977
ภารกิจสำคัญที่ต้องใช้มันสมองระดับเขาทั้งนั้นถึงจะแก้ปัญหาได้ แต่ปัญหาแรกที่ต้องแก้ก็คือ ปัญหาที่ว่าเกิดขึ้นที่ดาวอังคาร เพราะแบบนั้นผู้เกี่ยวข้องจึงต้องใช้วิธีการพิเศษ เพื่อที่จะส่งเขาไปยังดาวอังคารได้อย่างปลอดภัย แต่เขาคงไม่คิดว่า วิธีนั้นมันก็คือสร้างตัวเขาขึ้นมาอีกคนที่ดาวอังคาร
เป็นงานแนววิทยาศาสตร์จ๋าๆ ที่จะมาพร้อมกับการนำเสนอในสไตล์ของ อ. งานอ่านง่าย และเข้าใจง่าย กับไอเดียที่แม้ดูไม่หวือหวาในยุคนี้ แต่สำหรับผม ผมมองว่ากลั่นออกมาได้ในยุคนั้น โครตเจ๋ง เลยครับ
“ยุคของพลาสติกโมเดล” 1971
หมกหมุ่นกับการต่อโมเดลพลาสติกอย่างทุกวัน แม้จะดูจริงจังมากไปหน่อย แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือชีวิตและจิตใจของเขาและเพื่อนๆ ซึ่งเวลานี่ต่างแข่งขันที่จะต่ออะไรบางอย่างเพื่อทำให้เพื่อนคนอื่นได้ตกใจ ... ขอต้อนรับยุคแห่งพลาสติกโมเดล ครับ
แม้งานของ อ. จะออกมาแนวเศร้าและเต็มไปด้วยห้วงอารมณ์แห่งความอาทรและคิดถึงอยู่เสมอ แต่เวลา อ. ทำแนวตลกออกมา ผมว่ามันก็ไปได้สุดในแบบของแกเหมือนกันนะครับ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ไอเดียเหลือร้าย การนำเสนอก็ดูเข้าใจง่าย ทำให้ภาพรวมเรื่องนี้สร้างความสนุกและชวนให้จดจำได้ดีมากเลยครับ
นี่คือ 8 เรื่องสั้นที่บรรจุอยู่ในเล่มนี้ของ อ. เลย์จิ นะครับ ในภาพรวมผมชอบทุกเรื่องนะ หลายเรื่องก็ชอบมากและไปได้สุดของมัน แม้ภาพรวมจะหนักไปทางวิทยาศาสตร์ ดราม่า เป็นส่วนใหญ่ก็ตาม แต่ก็มีความลงตัวเป็นอย่างมากในสิ่งที่นำเสนอ ในขณะเดียวกันก็อาจจะมีบ้างที่ผมรู้สึกว่า เนื้อหามันเริ่มเร็วและความยาวมันสั้นไปซักหน่อย ถ้ายาวกว่านี้เพื่อเพิ่มรายละเอียด น่าจะทำให้ผมอ่านสนุกมากขึ้นกว่านี้ก็เป็นได้ แต่เท่านี้ที่ใส่มาผมถือว่าเข้าใจและสามารถสร้างความสนุกให้กับผมได้อย่างมากครับ
มาพูดถึงงานเล่มนี้กันหน่อยนะครับ ถ้าหากใครได้อ่านงานก่อนหน้านี้ที่ผมเคยรีวิวไป ใน EP 1318 ของ อ. เลย์จิ ในเรื่อง “ทางสายน้อยสู่ฝันห้วงลึก” แล้วละก็คงจะเห็นว่าทาง 999 Comics ได้ทำงานเรื่องนี้ไว้ด้วย ใช่ครับ หลังจากอ้อนขอเล่มตัวอย่างของเรื่องนี้มาอ่านก่อนเล่มจริง ทางค่ายก็ได้จัดส่งมาให้อ่าน แต่แจ้งตรงนี้หน่อยนะครับ
ด้วยเป็นเล่มตัวอย่าง ทั้งชื่อเรื่องและงานแปลหรือสิ่งต่างๆเพิ่มเติม อาจจะยังไม่ลงตัวเหมือนตัวจริงนะครับ ถ้ามีจุดไหนแปลกไป ขอให้เข้าใจว่าอาจจะเป็นเพราะเล่มที่ผมรีวิวนี้เป็นเล่มตัวอย่างก็เป็นได้ครับ
ขอพูดถึงงานผลิตกันหน่อยนะครับ งานเล่มนี้มีความคล้ายเรื่องนั้นอยู่ไม่น้อย เพราะการออกแบบผมว่าต้องการให้เข้าเซ็ทกันในความหมายนึงครับ ด้วยขนาดเล่ม BB เช่นเดิมกับปกนอกที่ยังคงคอนเซปเดียวกัน กับการเลือกพิมพ์สีบนฟอยล์ด้านเดียว ทำให้ปกดูสะดุดตาและมีมูลค่าอย่างมาก งานพิมพ์คมชัด เด่นด้วยกระดาษชนิดนี้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แน่นอนด้วยกระดาษชนิดนี้มีความหนาที่มาก ทำให้มันอาจไม่แนบกับตัวเล่มเหมือนกับกระดาษที่มีความบาง ตรงจุดสังเกตนี้อยากให้ทุกคนระวังไว้หน่อยนะครับ
ส่วนปกด้านในก็ยังคงความพรีเมี่ยมเช่นกัน กับการพิมพ์สีทั้งด้านหน้าและหลัง ผมมองว่าสวยงามดีครับ เพราะแม้เวลาอ่านผมจะถอดปกนอกออกและหยิบแต่ตัวเล่มมาอ่านก็ตาม มันก็ยังเห็นได้ง่ายไม่ว่าจะวางไว้ที่ไหนด้วยสีสันของมันทำให้เด่นชัดอย่างมาก ปกในที่พิมพ์สี มักจะสร้างความรู้สึกประทับใจให้ผมได้เพิ่มขึ้นอย่างมากครับ
ตัวเล่มเปิดอ่านแบบญี่ปุ่น ด้านในหน้าแรกๆจะเริ่มต้นด้วยบทสัมภาษณ์ของ อ. ที่มีจำนวนไม่เยอะ พร้อมสรุปผลงานต่างๆของ อ. ที่ช่วยให้เราเช็คลิสได้ว่า ยังมีอีกหลายเรื่องมาก ที่ยังไม่มีใครหยิบมาทำให้อ่านกัน ในเล่มมีหน้าสีนะครับ เป็นหน้าสีในเนื้อหาเรื่องแรก ประมาณ 4 แผ่น (8หน้า) นอกนั้นเป็นงานขาวดำทั้งหมด งานพิมพ์ยังคงคมชัดเช่นเดิม ทั้งในส่วนภาพสีและขาวดำ
รวมถึงงานแปลก็เช่นกัน ด้วยงานของ อ. เป็นงานเชิงอารมณ์ผสมเป็นส่วนใหญ่ งานเชิงจินตนาการที่มีส่วนผสมทั้งอารมณ์และวิทยาศาสตร์แบบนี้ ไม่ต้องบอกว่ามันต้องแปลเพื่อให้เราเข้าใจได้ยากมากกว่าปกติ เป็นอีกแนวที่เนื้อหาปราบเซียนมาก และสำหรับเรื่องนี้ ครั้งนี้ ทางสนพ ก็ยังคงแปลออกมาได้ดีเช่นเดิม มีแทรกข้อมูลว่าต้นฉบับใช้คำอะไรถึงแปลออกมาแบบนี้ตลอดทั้งเล่ม เห็นแล้วเหนื่อยแทน แต่หมายถึงเขาใส่ใจของการนำเสนองานของ อ. อย่างมากเช่นกัน ภาพรวมทั้งงานผลิตและงานแปลได้มาตรฐานตามเดิมที่เคยเจอในงานก่อนๆของค่ายนี้ครับ
สำหรับผมแล้วนี่เป็นอีกเรื่องที่ชวนอ่านอย่างมาก อ่านง่ายเข้าใจไม่ยาก เหมาะกับใครที่อยากทำความรู้จัก อ. อย่างยิ่ง เพราะมีส่วนผสมของตัวตน อ. ที่เรานึกถึงและเจออยู่ในงานของ อ. ตลอด แม้โดยส่วนตัว อาจจะรู้สึกว่า อ. เหมาะกับงานเรื่องยาวที่จะปล่อยอารมณ์ออกมาได้ต่อเนื่องได้ดีกว่าก็ตาม
แต่ในแง่เนื้อหาแล้ว ในเล่มนี้ล้วนมีแต่เรื่องที่มีเนื้อหาสนุกและชวนจินตนาการต่อได้ดีอย่างมาก อ่านให้จบก็ทำได้ อ่านแล้วคิดต่อก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน งานเล่มเดียวจบ กับเนื้อหาชวนสนุกแบบนี้ แนะนำครับ หาอ่านไม่ง่าย ไม่ซื้อรอบนี้แล้ว อยากอ่านตอนไหนขึ้นมา ใช่ว่าจะหาอ่านได้นะครับ เพราะงั้น จัดครับ จัด ....
ภาพ 9/10
เรื่อง 9/10
ความประทับใจ 9.3/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #999Comics #การ์ตูนแนวแฟนตาซี #การ์ตูนแนววิทยาศาสตร์ #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวปรัชญา #9คะแนน #คอสโมเรนเซอร์ #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #เล่มเดียวจบ #การ์ตูนแนวรวมเรื่องสั้น #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย