16 พ.ค. เวลา 07:23 • ท่องเที่ยว

กูรูเผยโลว์ซีซันท่องเที่ยวฉุดไตรมาส 2 ยอดล่วง จีนเมินเที่ยวไทย

ไตรมาส 2/68 ท่องเที่ยวไทยวูบ หลังจีนเมินไทย-ยุโรปกลับบ้าน ผสานเข้าโลว์ซีซัน กูรูชี้กลุ่มตะวันออกกลางเข้ามาช่วยชดเชย เผยยอดบุ๊คกิ้งไตรมาส 3 ฟื้นตัว
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ต้องยอมรับว่าน้อยกว่าเป้าหมายที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้
โดยเฉพาะปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงอย่างมาก หลักๆ เป็นผลมาจากความกังวลต่อสถานการณ์ความปลอดภัย เนื่องจากในช่วงต้นปีมีข่าวเรื่องการถูกลักพาตัว รวมถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยชาวจีนมักจะให้ความสนใจในเรื่องข่าวสารของไทยมากอยู่แล้ว ทำให้มีผลต่อการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย
ส่งผลให้ในช่วงไตรมาส 2/68 นี้มองว่าปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งชาวจีนและชาติอื่นๆ จะปรับตัวลดลงกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และอาจน้อยกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซันของการท่องเที่ยว กลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรปเริ่มเดินทางกลับถิ่นฐาน
ตามปกติแล้วช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยวไทยที่ชาวจีนค่อนข้างนิยมเดินทางมา อาทิ เทศกาลตรุษจีน และสงกรานต์ และยอดนักท่องเที่ยวชาวจีนจะกลับมาพีคอีกครั้งตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป และในช่วงวันหยุดยาวของจีนอย่าง Golden Week หรือช่วงวันชาติจีน ที่จะทำให้มีการเดินทางท่องเที่ยวและพักผ่อนในไทยสูงขึ้น
"แม้ว่าในช่วง 4 เดือนแรกปี 68 นี้ ยอดนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาพักผ่อนยังประเทศไทยจะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ และหันท่องเที่ยวในประเทศตนเองมากกว่า ส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นโลว์ซีซัน แต่เชื่อว่าเรื่องความกังวลด้านความปลอดภัยและแผ่นดินไหวจะกระทบระยะสั้นเท่านั้น โดยยอดบุ๊คกิ้งในไตรมาส 3 เริ่มกลับมาฟื้นตัวใกล้เคียงปีก่อนแล้ว ดังนั้นจึงไม่น่ากังวลมากนัก"
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวไทยจะเริ่มกลับเข้าสู่ไฮซีซันอีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางไตรมาส 3/68 เป็นต้นไป โดยยอดบุ๊คกิ้งในช่วงไตรมาส 3/68 ขณะนี้เริ่มกลับมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนแล้ว ดังนั้น จึงมองว่าการท่องเที่ยวไทยจึงไม่น่ากังวลมากนัก
แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีนจะปรับตัวลดลงในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ แต่หากดูยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาพักผ่อนยังประเทศไทยจะพบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลางขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งน่าสนใจว่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพทางการเงินและการจับจ่ายใช้สอย และพักอาศัยในระยะยาวกว่านักท่องเที่ยวจีน
ส่งผลให้มองว่าในแง่รายได้ของการท่องเที่ยวไทยในปี 68 อาจไม่ได้น่ากังวลอย่างที่คาดไว้ เนื่องจากกลุ่มตะวันออกกลางมีอัตราการใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงกว่านักท่องเที่ยวจีน แม้ว่าปริมาณนักท่องเที่ยวอาจไม่สูงเท่าจีนแต่ก็ใช้จ่ายก็มากกว่า เพราะเข้าพักในโรงแรมระดับ 5 ดาว ใช้จ่ายในศูนย์การค้าระดับบน แบรนด์เนม
ทั้งนี้ แม้ว่ายอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางอาจไม่ได้แสดงในระบบเศรษฐกิจไทยอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวจีน เนื่องจากการใช้จ่ายจะอยู่กับภาคเอกชนอย่างโรงแรมและศูนย์การค้าเป็นหลัก ซึ่งมองเป็นในมุมบวกกับภาคเอกชน
ในแง่ของการลงทุนนั้น มองว่า MINT มีความน่าสนใจ เนื่องจากพอร์ตธุรกิจมีการกระจายในหลากหลายงานด้านบริการ อีกทั้งมีการพึ่งพิงรายได้จากประเทศไทยที่น้อยกว่าต่างประเทศ ดังนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทยลดลงจึงไม่ส่งผลกระทบต่อ MINT มากนัก และเมื่อเข้าช่วงไฮซีซันท่องเที่ยวไทย MINT ก็ได้รับอานิสงส์ด้วย
โดยทางฝ่ายประเทศผลกำไรสุทธิในปี 68 ของ MINT ไว้ที่ระดับ 9,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 21% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 38.00 บาท
โฆษณา