🛡️ ประกันชีวิต vs ประกันสุขภาพ
ไม่เหมือนกัน และมี “แค่หนึ่ง” อาจยังไม่พอ
ลองนึกภาพดู...
คุณกำลังนอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล
ค่ารักษาหลักแสนค่อย ๆ ไหลออกจากบัญชี
ยังไม่ทันหายดี ความเครียดเรื่องเงินก็เริ่มมาแทนที่
หรือ…
คุณจากไปกะทันหัน
ภาระผ่อนบ้าน รถ หรือค่าเรียนลูก ยังอยู่ครบ
แต่ไม่มีใครช่วยจ่ายต่อ
คำถามคือ — ถ้าเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นจริง
จะมีอะไรช่วยคุณไว้บ้าง?
✅ เข้าใจหน้าที่ของ “ประกันแต่ละแบบ” ก่อนตัดสินใจ
🩺 ประกันสุขภาพ = ช่วยจ่ายตอนคุณป่วย
ค่าห้อง ค่ายา ค่าหมอ ค่าผ่าตัด
บางแบบครอบคลุม โรคร้ายแรง อย่างมะเร็ง หัวใจ ไต ฯลฯ
ช่วยให้รักษาได้ “ดีที่สุด” โดยไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน
💔 ประกันโรคร้ายแรง = เงินก้อนทันทีเมื่อเจอโรคหนัก
ไม่ต้องรอเบิก รู้ผลแล้วได้เงินทันที
ใช้จ่ายอะไรก็ได้ ไม่จำกัดว่าเป็นค่ารักษาเท่านั้น
ช่วย “ตั้งหลัก” ได้เร็ว เช่น หยุดงาน ฟื้นฟูร่างกาย
💰 ประกันชีวิต = ช่วยดูแลคนที่คุณรัก หากคุณไม่อยู่
ทิ้งเงินก้อนให้ครอบครัว
ตัดภาระหนี้ ทดแทนรายได้
หรือใช้เป็นแผนส่งต่อทรัพย์สินแบบมีระบบ
🎯 แล้วต้องซื้อทั้งหมดเลยไหม?
ไม่จำเป็นต้องซื้อแบบแพงสุดในทุกด้าน
แต่ “ควรมีให้ครบตามจังหวะชีวิต” เช่น:
เริ่มทำงาน → เริ่มจากประกันสุขภาพ + โรคร้าย
เริ่มมีหนี้ / ครอบครัว → เพิ่มประกันชีวิต
อายุมากขึ้น → ปรับวงเงินโรคร้ายแรงให้เพียงพอ
ประกันไม่ใช่ค่าใช้จ่ายทิ้งเปล่า
แต่คือ “แผนสำรอง” ที่ซื้อไว้ในวันที่ยังแข็งแรง
เพื่อใช้ในวันที่เราอ่อนแอแบบไม่ต้องขอใคร
💡 สรุปสั้น ๆ:
ประกันสุขภาพดูแลคุณตอนป่วย
ประกันโรคร้ายแรงให้เงินคุณตั้งหลัก
ประกันชีวิตดูแลคนที่คุณรักในวันที่คุณไม่อยู่
ลองวางแผนดูครับ ไม่ต้องซื้อเยอะ
แต่ซื้อเท่าที่ “คุณจะไม่ล้มทั้งครอบครัว” หากเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นจริง
สนใจเรื่องประกันปรึกษากันได้ครับ
#ประกันสุขภาพ #โรคร้ายแรง #ประกันชีวิต ##วางแผนชีวิต #การเงิน #ประกันชีวิต #ลงทุน #วางแผนการเงิน #เคล็ดลับการเงิน
#วางแผนเกษียณ #วางแผนภาษี
#วางแผนการศึกษาให้บุตร #ประกันอุบัติเหตุ
#การเงิน #การลงทุน
#AnanThePlanner
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
