18 พ.ค. เวลา 05:58 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

John Rambo ภาคต้น เเปิดตัวที่คานส์ การกลับมาของฮีโร่ในตำนานที่ไม่มีวันตาย

สำหรับคอหนังแอ็กชันทั่วโลก ชื่อของ John Rambo ไม่ใช่แค่ตัวละคร แต่คือสัญลักษณ์ของความดุดัน เดียวดาย และการต่อสู้สุดขีดที่ไม่ยอมแพ้แม้แต่ต่อชะตากรรม ด้วยภาพจำที่ฝังแน่นจาก First Blood(1982) ซึ่งนำแสดงโดยซิลเวสเตอร์ สตอลโลน แรมโบ้กลายเป็นฮีโร่ร่วมสมัยที่หล่อหลอมผู้ชมและผู้สร้างหนังหลายคนให้หลงใหลในแนวทางของหนังสงครามและเอาชีวิตรอด ทุกครั้งที่คนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาทำหนังแอ็กชัน ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ แรมโบ้ก็มักจะปรากฏอยู่ในโครงสร้างทางความคิดเสมอ
จึงไม่น่าแปลกใจที่ Millennium Media จะนำแรมโบ้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบของหนังภาคต้นที่ใช้ชื่อว่า John Rambo แม้เวลาจะผ่านไปกว่าสี่ทศวรรษ ตัวละครนี้ก็ยังไม่ตาย และสามารถถูกเล่าใหม่ได้อีกเรื่อย ๆ
ภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้จะกำกับโดย Jalmari Helander ผู้เคยฝากฝีมือไว้ใน Rare Exports, Big Game และ Sisu(หนังเรื่องนี้ดูๆไปก็เหมือนแรมโบ้เหมือนกัน) จากบทภาพยนตร์ของ
Rory Haines และ Sohrab Noshirvani ซึ่งทั้งคู่เคยร่วมเขียนบท Black Adam มาแล้ว
ผู้กำกับเล่าว่า เขาเองก็เติบโตมากับ Rambo และนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาเลือกเส้นทางผู้กำกับ “ผมติดตาม Rambo มาตั้งแต่อายุ 11 ขวบ และไม่เคยหยุดรักมันเลยครับ การได้มากำกับ Rambo เวอร์ชันของตัวเองเป็นเรื่องที่เหนือจริงมาก ทุกอย่างในวัยเด็กของผม การเล่น การดูหนัง การวาดภาพ เหมือนถูกสร้างขึ้นเพื่อมุ่งหน้ามายังวันนี้”
แม้ว่าเนื้อเรื่องในภาคต้นนี้จะยังไม่เปิดเผย แต่โฟกัสหลักคือช่วงวัยหนุ่มของแรมโบ้ในฐานะทหารผ่านศึกสงครามเวียดนาม ก่อนเหตุการณ์ใน First Blood จะเริ่มต้นขึ้น จุดเปลี่ยนเหล่านั้นเองที่จะพาเขากลายเป็น "เครื่องจักรสังหาร" ผู้เงียบขรึมที่เรารู้จักในภาพยนตร์ต้นฉบับ
ส่วนสตอลโลนนั้นเขารับรู้ถึงโปรเจกต์นี้แล้ว แม้ตอนนี้เขายังไม่มีบทบาทในภาพยนตร์ แต่ผู้สร้างเปิดเผยว่าหากมีบทที่เหมาะสมก็พร้อมเปิดทางให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมในอนาคต แต่ก่อนหน้านี้สตอลโลนก็เคยออกมาพูดว่าเขากำลังจะทำแรมโบ้ภาคต้นเหมือนกันแต่จะเป็นหนัง streaming เท่านั้น
นับตั้งแต่เดวิด มอร์เรล สร้างตัวละครนี้ขึ้นมาในนวนิยาย และถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ First Blood จนต่อยอดมาอีกสี่ภาค Rambo ทำรายได้รวมทั่วโลกมากกว่า 800 ล้านดอลลาร์ แม้ภาคล่าสุดอย่าง Rambo: Last Blood จะได้รับเสียงวิจารณ์ที่หลากหลาย แต่แฟน ๆ หลายคนก็ยกให้ฉากสุดท้ายที่แรมโบ้ลงมือสังหารศัตรูในอุโมงค์ใต้ดินซึ่งเต็มไปด้วยกับดักเป็นหนึ่งในฉากที่สะใจและคลาสสิกที่สุดของแฟรนไชส์นี้
แรมโบ้ไม่เคยเป็นเพียงฮีโร่จอมบู๊ แต่เป็นสัญลักษณ์ของบาดแผลทางใจ ความยุติธรรมที่ถูกทำลาย และการดิ้นรนเพื่อมีตัวตนอยู่ในโลกที่ไม่เปิดทางให้คนแบบเขา และเมื่อโลกปัจจุบันยังคงเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ไม่ว่าจะในสนามรบหรือในจิตใจ เราก็อาจจะยังต้องการ Rambo อยู่เสมอ
หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน การถ่ายทำจะเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ที่ประเทศไทย
โฆษณา