5 สิ่งต้องรู้ก่อนเทรดวันนี้ 19 May 2025
*Japan’s Q1 GDP Shock Sparks Recession Fears* -
เศรษฐกิจญี่ปุ่นเปิดไตรมาสแรก 1/25 หดตัว -0.7% มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ เป็นผลมาจากการบริโภคที่อ่อนแอและการส่งออกที่ชะลอตัวลง กดดันให้ BOJ อาจจำเป็นต้องกลับมาพิจารณาเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยใหม่ Swap Market ปรับความคาดหวังว่า BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. ลงเหลือเพียง 12% จากเดือนก่อนที่ 78% เงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยหลักที่ลดทอนอำนาจการซื้อที่แท้จริงของครัวเรือน นักเศรษฐศาสตร์เตือนญี่ปุ่นเสี่ยงจะเกิด Technical Recession ในไตรมาส 2/25 แม้จะยังไม่ได้นับรวมผลกระทบของมาตรการภาษีของสหรัฐก็ตาม
*China Drops to No. 3 in U.S. Treasury Holdings* -
จีนตกเป็นอันดับที่ 3 สำหรับต่างชาติที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐมากที่สุด ซึ่งพ่ายให้กับอังกฤษที่เพิ่มการถือครอง $7.79 แสนล้านในเดือนมีนาคม สวนทางกับจีนที่ลดปริมาณการถือครองลงเหลือเพียง $7.65 แสนล้าน อย่างไรก็ตามหากดูยอดรวมทั้งหมดเราจะพบว่าสุทธิแล้วยอดการถือครองพันธบัตรสหรัฐนับจากต้นปี - มี.ค. เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จีนเคยเป็นอันดับ 1 ในการถือครองพันธบัตรสหรัฐ แต่ได้ยกตำแหน่งดังกล่าวให้กับญี่ปุ่นไปเมื่อปี 2019 ซึ่งเป็นปีแรกๆ ที่มีสงครามการค้า
อาจสะท้อนให้เห็นว่าจีนกำลังระมัดระวังการครอบงำของดอลลาร์และพยายามกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์อื่นเพื่อลดความเสี่ยงนั้นลง
*Moody’s Downgrades U.S. Credit Rating* -
Moody’s Ratings ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจากระดับ Aaa (สูงสุด) สู่ระดับ Aa1 ตามรอย Fitch Ratings และ S&P Global Ratings ที่ปรับลดความน่าเชื่อถือไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยให้เหตุผลว่าหนี้สาธารณะและการขาดดุลงบประมาณที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันสหรัฐมีงบประมาณขาดดุลเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งเกินกว่าขนาดของเศรษฐกิจไปแล้ว อาจบั่นทอนความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในฐานะแหล่งเงินทุนระดับโลก
*No Evidence of AI Chip Diversion Into China* -
CEO ของ Nvidia เผยยังไม่เห็นหลักฐานใดที่ชี้ให้เห็นว่าชิปรุ่นใหม่ล่าสุดของ Nvidia ถูกส่งต่อไปให้จีน อีกทั้งยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า Nvidia ได้ขายชิปในรูปแบบของระบบแบบครบวงจรที่มีราคาหลายล้านดอลลาร์ โดยแต่ละชุดสามารถมีได้ถึง 72 หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) และ 36 หน่วยประมวลผลหลัก (CPU) โดยเฉพาะระบบ Grace Blackwell ที่มีน้ำหนักเกือบ 2 ตัน ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถใส่กระเป๋าเป้และสะพายหลังได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ยังเห็นด้วยกับสหรัฐที่เปิดกว้าง หลังยกเลิกกฎควบคุมการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI ในสมัยของไบเดนด้วย
*Big Tech: From Hero to Headache* -
นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ ดัชนี S&P500 ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และสามารถเอาชนะหุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ไปได้ หากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไปเช่นนี้ปีนี้อาจจะกลายเป็นปีที่ 2 ในรอบทศวรรษที่หุ้น Big Tech ทำผลงานได้แย่กว่าตลาดโดยรวม อย่างไรก็ตามหลังจากทรัมป์ประกาศพักแผนขึ้นภาษีขนาดใหญ่เป็นเวลา 90 วัน ก็เริ่มเห็นสัญญาณการกลับเข้ามาลงทุนในกลุ่ม Mag 7 ทั้งจากบรรดา Hedge Fund และสถาบันการเงิน
ซึ่งยังเชื่อว่าพื้นฐานของบริษัทเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าความไม่แน่นอนด้านภาษี ในกลุ่ม Mag 7 มิใช่ทั้งหมดที่ทำผลงานแย่ Meta, Microsoft โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม และจุดต่างที่สำคัญ คือ ทั้งคู่มีความเสี่ยงต่อภาษีน้อย
#5สิ่งต้องรู้ก่อนเริ่มเทรดวันนี้
#BYDWealthStrategy
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
