เมื่อวาน เวลา 03:00

กีฬาที่ชื่อว่า “ชีวิต” แต้มต่อไปสำคัญที่สุด

Point by Point แต้มต่อไปสำคัญที่สุด
Roger Federer สุดยอดนักเทนนิสของโลกเคยกล่าวสุนทรพจน์ในงานจบการศึกษาของ Dartmouth University เอาไว้ว่า
1
ในกีฬาเทนนิส การได้มาซึ่ง “ความสมบูรณ์แบบ” นั้นเป็นไปไม่ได้เลย
ตลอดทั้งอาชีพ Roger Federer เคยแข่งประเภทเดี่ยวมามากกว่า 1,500 ครั้ง โดยเขาชนะเกือบ 80% ของการแข่งขันทั้งหมด
แต่สิ่งที่น่าสนใจอยู่ตรงนี้ครับ
แม้ว่า Federer จะชนะถึง 80% แต่ถ้าหากเจาะดูเป็นแต้มแล้วละก็ Federer ชนะแค่ 54% เท่านั้นเองนะครับ
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ แม้แต่นักเทนนิสระดับท็อปของโลกก็ชนะแทบจะแค่ครึ่งเดียวของแต้มที่พวกเขาเล่นทั้งหมด
เขาบอกว่าเมื่อคุณเสียทุกๆ หนึ่งในสองแต้มที่คุณเล่น คุณเรียนรู้ที่จะไม่ยึดติดกับทุกช็อต คุณจะสอนตัวเองให้คิดว่า “โอเค เราเสิร์ฟผิดสองครั้ง นี่ก็แค่แต้มเดียว”, “โอเค เราวิ่งเข้าหาตาข่ายและโดนตีผ่านตัดหลังอีกแล้ว มันน่าหงุดหงิดชะมัด แต่นี่ก็แค่แต้มเดียว”
แม้แต่ช็อตที่ยอดเยี่ยม การตบลูกแบ็กแฮนด์เหนือศีรษะที่ติดอันดับ Top 10 ของ ESPN นั่นก็เป็นเพียงแค่แต้มเดียวเช่นกัน
ทุกอย่างมันคือแต้มเดียวเท่านั้น และ ณ เวลามันต้องเป็นแต้มสำคัญที่สุดในโลก และมันเป็นแบบนั้นจริงๆ
แต่เมื่อมันผ่านไปแล้ว มันก็ผ่านไป สิ่งที่เราต้องโฟกัสคือแต้มต่อไป
Federer ย้ำว่าทัศนคตินี้สำคัญมาก เพราะการตระหนักว่า “มันก็แค่แต้มเดียว” มันทำให้คุณเป็นอิสระ อิสระที่จะทุ่มเทอย่างเต็มที่กับแต้มต่อไปด้วยความเข้มข้น ความชัดเจน และสมาธิ
ผู้ที่เก่งที่สุดในโลกไม่ได้เก่งที่สุดเพราะพวกเขาชนะทุกแต้ม แต่เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าพวกเขาจะแพ้อีกครั้งแล้วครั้งเล่า และได้เรียนรู้วิธีรับมือกับมัน คุณยอมรับมัน ร้องไห้ออกมาถ้าคุณต้องการ และจากนั้นก็ฝืนยิ้ม คุณก้าวต่อไป ไม่ยอมแพ้ ปรับตัว และเติบโต
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึง LEGO
LEGO ภายใต้การนำของ Jørgen Vig Knudstorp ซึ่ง เข้ามารับตำแหน่ง CEO ในปี 2004 LEGO กำลังขาดทุนอย่างหนัก เป็นหนี้กว่า 800 ล้านดอลลาร์ และใกล้ล้มละลายเต็มที
1
Knudstorp ยอมรับสถานการณ์และมองว่านี่เป็นโอกาสในการเริ่มต้นใหม่ โดยเขามองว่า LEGO เคยประสบความสำเร็จอย่างสูงในอดีต แต่ Knudstorp ไม่ได้ยึดติดกับความสำเร็จนั้น เขาตระหนักว่าบริษัทต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด
Knudstorp ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เขาตัดสินใจยากๆ หลายอย่าง เช่น การเลิกจ้างพนักงาน 1,000 คน และการขายสวนสนุก LEGOLAND ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดแต่จำเป็น เหมือนกับที่นักเทนนิสต้องโฟกัสกับแต้มปัจจุบันอย่างเต็มที่ อะไรเสียไปแล้วต้องตัดใจ และเล่นต่อไป
LEGO เคยพยายามขยายธุรกิจไปในหลายทิศทาง เช่น การทำนาฬิกา เสื้อผ้า และวิดีโอเกม ซึ่งส่วนใหญ่ล้มเหลว Knudstorp เรียนรู้จากความผิดพลาดนี้และตัดสินใจกลับไปโฟกัสที่ธุรกิจหลักคือตัวต่อ LEGO นี่เหมือนกับที่นักเทนนิสต้องวิเคราะห์ว่าทำไมถึงเสียแต้มและปรับกลยุทธ์สำหรับแต้มต่อไป
Knudstorp ไม่ได้แค่กลับไปทำแบบเดิม แต่เขาปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับยุคสมัย เช่น การร่วมมือกับแฟรนไชส์ดังอย่าง Star Wars และ Harry Potter การสร้างภาพยนตร์ LEGO และการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับเด็ก
แม้จะมีการตัดสินใจที่ยากลำบากในระยะสั้น แต่ Knudstorp มองภาพรวมระยะยาวเสมอ เขาลงทุนในการวิจัยและพัฒนา และการฝึกอบรมพนักงาน ซึ่งให้ผลตอบแทนในระยะยาว เช่นเดียวกับที่นักเทนนิสอาจยอมเสียแต้มบางแต้มเพื่อวางกลยุทธ์ชนะทั้งเกม
แม้จะเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ Knudstorp และทีมไม่เคยยอมแพ้ พวกเขาทำงานหนักและทุ่มเทเพื่อฟื้นฟูบริษัท ผลลัพธ์ของการใช้แนวคิดนี้คือ ภายในเวลาเพียง 5 ปี LEGO สามารถพลิกฟื้นจากบริษัทที่ใกล้ล้มละลายมาเป็นบริษัทที่ทำกำไรได้อย่างมหาศาล ในปี 2014 LEGO กลายเป็นบริษัทของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้า Mattel ไปได้อย่างน่าอัศจรรย์
ผมคิดว่าชีวิตคนเราก็เปรียบเสมือนการแข่งขันที่ไม่มีวันจบสิ้น เราทุกคนต่างเป็นนักกีฬาในสนามแห่งชีวิต แต่ละวันคือการแข่งขันใหม่ที่ท้าทายเรา เช่นเดียวกับในเทนนิส ชีวิตไม่ได้วัดกันที่ว่าเราจะชนะทุกครั้งหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าเรารับมือกับความพ่ายแพ้และลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้อย่างไร
5
ลองนึกถึงการทำงาน เราอาจเจอโปรเจกต์ที่ล้มเหลว ไอเดียที่ถูกปฏิเสธ หรือการนำเสนอที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เหล่านี้คือ "แต้ม" ที่เราเสียไปในเกมชีวิต แต่เช่นเดียวกับในเทนนิส มันเป็นเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ตัวกำหนดผลลัพธ์ทั้งหมดของชีวิตเราแน่นอน
1
สิ่งสำคัญคือการไม่ไปยึดติดกับความล้มเหลวเหล่านั้น เรียนรู้จากมัน แล้วก้าวต่อไป เมื่อเรานำเสนองานครั้งต่อไป ให้ทุ่มเทกับมันอย่างเต็มที่ราวกับว่านี่คือโอกาสเดียวที่คุณมี แต่เมื่อมันจบลง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ก็ปล่อยวางให้เร็วและเตรียมพร้อมสำหรับความท้าทายถัดไป
ในสุนทรพจน์ครั้งนั้น Federer กล่าวประโยคหนึ่งว่า "You want to be a professional at overcoming difficult moments. That's the mark of a champion for me."
ผมแปลได้ว่า “การเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเอาชนะช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตประจำวัน” อาจหมายถึงการรับมือกับความเครียดจากงาน ปัญหาการเงิน หรือความท้าทายด้านสุขภาพ
ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ใช่คนที่ไม่เคยเจอปัญหา แต่เป็นคนที่เรียนรู้วิธีจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อเราเผชิญกับความล้มเหลวหรืออุปสรรค ขอให้คิดไว้ว่านี่เป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ยอมรับความรู้สึก ร้องไห้ถ้าจำเป็น แต่แล้วก็ต้องยิ้มสู้ และก้าวต่อไป ปรับกลยุทธ์ เรียนรู้จากประสบการณ์ และเติบโตจากมัน
สุดท้ายนี้ สิ่งที่ Federer อยากสื่อให้พวกเราก็คือ ความสำเร็จไม่ได้วัดจากการชนะตลอดเวลา แต่วัดจากความสามารถในการลุกขึ้นมาสู้ใหม่หลังจากล้มลง การยอมรับความล้มเหลว การเรียนรู้จากมัน และการปรับตัวเพื่อเติบโตต่างหากที่จะทำให้คุณเป็นผู้ชนะที่แท้จริง
1
เหมือนที่เขาเคยพูดไว้ว่า
“What I think I’ve been able to do well over the years is play with pain, play with problems, play in all sorts of conditions.”
"สิ่งที่ผมคิดว่าตัวเองสามารถทำได้ดีมาตลอดหลายปีมานี้คือ การเล่นท่ามกลางความเจ็บปวด เล่นท่ามกลางปัญหา และเล่นภายใต้สภาวะที่หลากหลาย"
บทความโดย รวิศ หาญอุตสาหะ
#RawitsThought
#LifeAdvice
#พัฒนาตัวเอง
#ชีวิต
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
โฆษณา