19 พ.ค. เวลา 11:45 • ข่าว

หนุ่ม-สาว แอบวางคิวอาโค้ดในโรงแรม คาดเป็นมิจฉาชีพชาวจีน

หนุ่ม-สาว อ้างเป็นนักเรียนนานาชาติ แอบวางคิวอาโค้ดในโรงแรมกลางเมืองเชียงใหม่ คาดเป็นมิจฉาชีพชาวจีน...
กล้องวงจรปิดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ริมถนนท่าแพ ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ บันทึกภาพพฤติกรรมต้องสงสัยของวัยรุ่นชายหญิงคู่หนึ่งที่เข้ามาถ่ายรูปภายในโรงแรม โดยมาทราบภายหลังว่า แอบพกเอาคิวอาร์โค้ดมาถ่ายกับเคาน์เตอร์ก่อนจะออกไป
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทางโรงแรมหวั่นเป็นมิจฉาชีพเอาภาพโรงแรมไปหลอกลวงนักท่องเที่ยว จึงเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ในช่วงเย็นวันเดียวกัน
น.ส.ฐาณิตา (สงวนนามสกุล) ผู้จัดการโรงแรม ให้ข้อมูลว่า ในวันเวลาดังกล่าว มีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 15-16 ปี มากับหญิงอีกหนึ่งคน อายุประมาณ 20 กว่าปี เดินเข้าที่ในโรงแรม โดยชายวัยรุ่นเดินเข้ามาที่เคาน์เตอร์มาขอดูเมนูกับอาหาร โดยพูดภาษาไทยปนอังกฤษ หน้าตาท่าทางคาดว่าเป็นชาวจีน
เธอบอกไปว่าที่โรงแรมไม่จำหน่ายอาหาร และแนะนำว่าหากต้องการทานอาหารให้ไปร้านใกล้เคียง ชายวัยรุ่นบอกว่าถ้าอย่างนั้นขออนุญาตถ่ายภาพเพื่อส่งงานให้กับอาจารย์ อ้างว่าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ แต่ไม่บอกชื่อโรงเรียน
เธอเห็นว่าเป็นเด็กจึงไม่ได้ว่าหรือสงสัยอะไร โดยชายวัยรุ่นได้ยืนหันหลังให้และถ่ายภาพหน้าเคาน์เตอร์ก่อนเดินออกไปพร้อมกับผู้หญิงที่ยืนรออยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า โดยมีรถเก๋งสีขาวมาจอดรอรับหน้าโรงแรม
หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงเธอและเจ้าของโรงแรมรู้สึกเอะใจกับพฤติกรรมดังกล่าว จึงย้อนดูภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้พบว่าชายวัยรุ่นได้แอบเอาสแตนคิวอาร์โค้ดสองอันมาวางไว้บนเคาน์เตอร์เพื่อถ่ายภาพ พอถ่ายเสร็จก็แอบเก็บไปไม่ให้ใครเห็น ส่วนหญิงอีกคนที่มาด้วยก็พบว่าเอาแผ่นคิวอาร์โค้ดอีกสองแผ่นไปติดไว้ที่ประตูด้าน หน้าพร้อมกับถ่ายภาพคิวอาร์โค้ดและถ่ายภาพบรรยากาศด้านหน้าโรงแรม ก่อนที่จะออกไป
น.ส.ฐาณิตา บอกว่า เมื่อตรวจสอบดูคิวอาร์โค้ดก็ทราบว่าเป็นวอลเลตรับชำระเงินของทั้งอาลีเพย์ และอีกหลายแอปพลิเคชันของจีน เมื่อเห็นพฤติกรรมดังกล่าวก็ทำให้เชื่อว่าอาจจะมีการแอบอ้างนำภาพของโรงแรมไปหลอกลวงนักท่องเที่ยวให้จองห้องพักและโอนเงิน
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในประเทศจีนที่มีแผนมาเที่ยวเชียงใหม่ นอกจากที่โรงแรมแล้วยังทราบว่าชายหญิงคู่นี้ยังนำแผ่นคิวอาร์โค้ดไปถ่ายรูปกับอีกหลายร้านค้าร้านอาหารบางแห่งในย่านเดียวกันอีกด้วย โดยในส่วนของโรงแรมได้เข้าแจ้งความ และโพสต์แจ้งเตือนภัยผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อให้ระมัดระวัง
นายทวี (สงวนนามสกุล) อายุ 73 ปี เจ้าของโรงแรม บอกว่า นอกจากให้บริการห้องพัก ทางโรงแรมยังมีของเก่าของสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้มักจะมีคนมาขอชม และถ่ายภาพ แต่หลังจากนี้จะต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ใครจะมาจากโรงเรียนหรือหน่วยงานราชการหน่วยงานธุรกิจจะต้องมีหนังสือมาแสดงให้ชัดเจน
เพราะหากมีมิจฉาชีพแอบแฝงมาใช้ชื่อโรงแรมไปหลอกลวงนักท่องเที่ยว จะเสียหายทั้งโรงแรมและชื่อเสียงจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะเมืองท่องเที่ยว ยิ่งตอนนี้นักท่องเที่ยวจีนก็ลดลงไปมาก หากเกิดเรื่องเสียหายอีกก็จะกระทบหนักไปกว่านี้.
19 พ.ค. 2025 15:17 น.
โฆษณา