20 พ.ค. เวลา 05:00 • ข่าวรอบโลก

เปิดเส้นทางการทูตรัฐบาลทรัมป์ หยุดนองเลือดยูเครนยังไร้บทสรุป

3 ปีแห่งความสูญเสีย สันติภาพยังเป็นเพียงความหวัง สำรวจเส้นทางการทูตของรัฐบาลทรัมป์ ในการยุติวิกฤตยูเครนที่ยังไร้บทสรุป
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ความสนใจต่อการยุติสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย โดยเมื่อไม่นานมานี้เขาบอกว่าการยุติความขัดเเย้งจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกว่าจะได้ประชุมอย่างเป็นทางการกับ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย
มุมมองของทรัมป์และฝ่ายบริหารต่อการเจรจาได้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ เตือนเมื่อประมาณหนึ่งเดือนก่อน โดยระบุว่า สหรัฐฯ อาจถอนตัวจากความพยายามไกล่เกลี่ยระหว่างทั้งสองประเทศหากไม่มีความคืบหน้าในเวลาไม่กี่ วัน
ขณะนี้ทรัมป์ดูเหมือนจะออกมาเร่งให้มีการพบกันตัวต่อตัวกับปูติน และบอกเป็นนัยว่าเขาคือคนเดียวที่สามารถยุติความขัดแย้งนี้ได้ หลังจากที่การเจรจาสันติภาพหยุดชะงักมาเป็นเวลาหลายเดือน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้นำรัสเซียปฏิเสธที่จะพบกับประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนโดยตรงในตุรกี ขณะที่ตัวแทนของยูเครนและรัสเซียตกลงกันเรื่องการแลกเปลี่ยนเชลยเมื่อวันศุกร์ที่อิสตันบูล แต่ข้อตกลงสันติภาพที่ใหญ่กว่า ซึ่งทรัมป์เคยกล่าวว่าเขาสามารถบรรลุได้ในวันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง ยังคงเป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง
ต่อไปนี้คือ ภาพรวมของเส้นทางสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน หลังสงครามยืดเยื้อ 3 ปี ที่เปลี่ยนไปมาของรัฐบาลทรัมป์
28 กุมภาพันธ์
เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงในห้องรูปไข่ ขณะที่ทรัมป์ตำหนิเซเลนสกี นำไปสู่ความตึงเครียดทันทีในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและยูเครน ทรัมป์และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ วิจารณ์เซเลนสกีว่าไม่แสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุนจากสหรัฐ และกล่าวหาว่าเป็นอุปสรรคต่อข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย ต่อมาเขาถูกเชิญให้ออกจากทำเนียบขาว และจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
11 มีนาคม
เซเลนสกีประกาศว่า ยูเครนยอมรับการหยุดยิง 30 วันซึ่งเสนอโดยสหรัฐฯ หลังการเจรจาสันติภาพที่สำคัญระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และยูเครนที่ซาอุดีอาระเบีย
สหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงร่วมกับยูเครนภายหลังการประชุมที่เมืองเจดดาห์ว่า จะยุติการระงับการแบ่งปันข่าวกรองทันที และกลับมาดำเนินการสนับสนุนด้านความมั่นคงแก่ยูเครนอีกครั้ง ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะหารือกับปูตินเกี่ยวกับแผนดังกล่าว
13 มีนาคม
ทรัมป์กล่าวว่าจะเป็นช่วงเวลาที่น่าผิดหวังมากสำหรับโลก หากปูตินไม่เห็นด้วยกับการหยุดยิง ขณะที่ปูตินระบุว่าเห็นด้วยในหลักการ แต่ได้ตั้งเงื่อนไขที่ยูเครนไม่อาจยอมรับได้
ผู้แทนพิเศษตะวันออกกลางของทรัมป์ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ได้พบกับปูตินในมอสโกด้วย
11 เมษายน
วิตคอฟฟ์พบกับปูตินที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
17 เมษายน
ร่างแผนสันติภาพที่สหรัฐฯ จัดทำ ได้รับการตอบรับที่น่ายินดี ในการเจรจาสันติภาพระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยุโรป และยูเครนที่ปารีส ตามการแถลงของกระทรวงการต่างประเทศ โดยหนึ่งในข้อตกลงรวมถึงสัญญาณจากรัฐบาลทรัมป์ถึงความเต็มใจที่จะยอมรับการควบคุมไครเมียของรัสเซียอย่างเป็นทางการ ตามแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับกรอบการเจรจา ไครเมียเป็นดินแดนของยูเครนที่รัสเซียรุกรานในปี 2014 และยังคงยึดครองอยู่
18 เมษายน
รูบิโอเตือนว่าหากไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ในการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครน–รัสเซียในเวลาไม่กี่วัน สหรัฐฯ อาจถอนตัวจากการเจรจา
หากไม่สามารถยุติสงครามในยูเครนได้ เราจำเป็นต้องก้าวต่อไป
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนออกเดินทางไปปารีส ซึ่งเขาได้จัดการเจรจาระดับสูงกับเจ้าหน้าที่จากยุโรปและยูเครน
ต่อมา ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในห้องรูปไข่ว่ารูบิโอพูดถูก แต่กล่าวว่า ไม่มีจำนวนวันที่เจาะจง แต่ต้องการให้ให้จบโดยเร็ว
22 เมษายน
เซเลนสกีกล่าวว่ายูเครนจะไม่ยอมรับต่อการยึดครองไครเมีย ซึ่งรัฐบาลทรัมป์ได้เสนอไว้เป็นหนึ่งในเงื่อนไขเพื่อยุติความขัดแย้ง
23 เมษายน
1
ทรัมป์โยนภาระให้เซเลนสกียอมรับข้อตกลง โดยกล่าวว่าผู้นำยูเครนไม่มีไพ่ในมือและกำลังยืดเยื้อสงครามผ่านคำพูดยั่วยุ ขณะที่สหรัฐฯ พยายามเจรจาเพื่อยุติข้อขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย
ในช่วงกลางคืน รัสเซียเปิดฉากโจมตีกรุงเคียฟที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2024
24 เมษายน
ทรัมป์ไม่พอใจกับการโจมตีของรัสเซีย
มันไม่จำเป็นเลย และเป็นช่วงเวลาที่แย่มาก หยุดซะ มีทหารเสียชีวิตสัปดาห์ละ 5,000 คน ได้โปรดทำข้อตกลงสันติภาพให้เสร็จ
ทรัมป์ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวในห้องรูปไข่ว่าปูตินเสนอการยอมถอย ด้วยการไม่ยึดยูเครนทั้งหมด
25 เมษายน
ทรัมป์กดดันยูเครนให้ลงนามข้อตกลงด้านแร่หายากกับสหรัฐฯ โดยเขียนใน Truth Social ว่า
ยูเครน ซึ่งมีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีเป็นผู้นำ ยังไม่ลงนามในเอกสารสุดท้ายของข้อตกลงแร่หายากที่สำคัญมากกับสหรัฐฯ ซึ่งล่าช้ามาอย่างน้อยสามสัปดาห์ หวังว่าจะมีการลงนามทันที
ขณะเดียวกัน วิตคอฟฟ์ ผู้แทนตะวันออกกลางของทรัมป์ ก็พบกับปูตินที่รัสเซียเป็นเวลา 3 ชั่วโมง นับเป็นการเดินทางไปรัสเซียครั้งที่ 4 ของเขาตั้งแต่ทรัมป์เริ่มดำรงตำแหน่ง
26 เมษายน
ทรัมป์และเซเลนสกีพบกันตัวต่อตัวที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เป็นเวลา 15 นาที ก่อนพิธีศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
2
เราคุยกันตัวต่อตัวหลากหลายเรื่อง หวังว่าจะมีผลลัพธ์ในทุกประเด็นที่เราหารือกัน ปกป้องชีวิตประชาชนของเรา หยุดยิงโดยสมบูรณ์และไม่มีเงื่อนไข สันติภาพที่มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งจะป้องกันไม่ให้เกิดสงครามใหม่ การพบกันที่มีสัญลักษณ์สำคัญ และอาจกลายเป็นประวัติศาสตร์ได้หากเราทำให้เกิดผลร่วมกันได้
ไม่นานหลังจากนั้น ทรัมป์โพสต์บน Truth Social ตั้งคำถามว่าปูตินไม่อยากหยุดสงครามและกำลังเล่นเกมอยู่ พร้อมขู่ว่าจะมีมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อรัสเซีย
28 เมษายน
ปูตินประกาศแผนการหยุดยิง 3 วันกับยูเครน ตั้งแต่วันที่ 8-11 พฤษภาคม ระหว่างวันรำลึกชัยชนะสงครามโลกครั้งที่สองของรัสเซีย โฆษกทำเนียบขาว แคโรไลน์ ลีวิตต์ ตอบกลับว่า ทรัมป์ต้องการหยุดยิงถาวรระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่ใช่ชั่วคราว
30 เมษายน
สหรัฐฯ และยูเครนลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่เรียกว่า ข้อตกลงแร่หายาก รัฐมนตรีคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ ระบุในแถลงการณ์หลังลงนามว่า เพื่อเป็นการยอมรับถึงการสนับสนุนด้านการเงินและวัตถุอย่างมีนัยสำคัญที่ประชาชนชาวอเมริกันมอบให้แก่การป้องกันประเทศของยูเครน นับตั้งแต่การรุกรานเต็มรูปแบบของรัสเซีย ข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจนี้จะทำให้สองประเทศของเราทำงานและลงทุนร่วมกัน เพื่อเร่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยูเครน
1 พฤษภาคม
รูบิโอกล่าวในรายการ Fox News ว่า ขยับเข้าใกล้การเจรจาสันติภาพมากขึ้นแต่จุดยืนของยูเครนและรัสเซียยังห่างกันอยู่พอสมควร
เราไม่ยอมแพ้ในความพยายามนี้ ในแง่ที่ว่าเราจะยังพร้อมให้ความช่วยเหลือหากสามารถทำได้ แต่สุดท้ายแล้ว ประธานาธิบดีจะต้องเป็นผู้ตัดสินว่า จะทุ่มเวลาและทรัพยากรระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อไปอีกแค่ไหน
2 พฤษภาคม
รองประธานาธิบดีแวนซ์ให้สัมภาษณ์กับ Fox News ว่าสงครามนี้จะไม่จบลงในเร็ววัน
4 พฤษภาคม
ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับรายการ Meet the Press โดยกล่าวว่าสหรัฐฯ เข้าใกล้การตกลงกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ระบุว่าฝ่ายใดเป็นอุปสรรคต่อความคืบหน้า
บางครั้งผมรู้สึกว่าอยากถอนตัวจากการเจรจาสันติภาพ แล้วก็เกิดบางอย่างในแง่บวกขึ้นมา ผมคิดว่าเรามีโอกาสที่ดีมากในการทำให้มันสำเร็จ
7 พฤษภาคม
ที่ประชุม Munich Leaders Meeting ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แวนซ์กล่าวว่ารัสเซียเรียกร้องมากเกินไปในการยุติสงครามกับยูเครน และเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายควรเข้าสู่การเจรจาโดยตรง รองประธานาธิบดียังเสนอว่าการเจรจาได้เคลื่อนออกจากประเด็นการหยุดยิง 30 วันแล้ว
สิ่งที่รัสเซียบอกคือ หยุดยิง 30 วันไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของพวกเขา เราพยายามขยับออกจากความหมกมุ่นกับการหยุดยิง 30 วัน และไปโฟกัสที่ภาพรวมของข้อตกลงระยะยาวแทน
8 พฤษภาคม
ทรัมป์เรียกร้องให้มีการหยุดยิง 30 วันผ่าน Truth Social ซึ่งดูเหมือนจะขัดแย้งกับคำกล่าวของแวนซ์เมื่อวันก่อน
10 พฤษภาคม
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันว่าทรัมป์ได้เข้าร่วมในการประชุมทางโทรศัพท์ร่วมกับผู้นำของยูเครน ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และโปแลนด์ โดยย้ำว่าสหรัฐฯ จะช่วย รับประกันสันติภาพระยะยาว หากมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน
11 พฤษภาคม
ทรัมป์สนับสนุนข้อเสนอของปูตินให้มีการเจรจาโดยตรงที่ตุรกีเพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติสงครามอย่างถาวร แทนที่จะเป็นเพียงการหยุดยิงชั่วคราว
เซเลนสกีตอบกลับใน X โดยท้าทายปูตินให้เข้าร่วมการเจรจาโดยตรงว่า จะรอปูตินที่ตุรกีในวันพฤหัสฯ ด้วยตัวเอง หวังว่าครั้งนี้ชาวรัสเซียจะไม่หาข้ออ้างอีก
12 พฤษภาคม
ทรัมป์เสนอเป็นครั้งแรกว่าอาจเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพที่ตุรกี ระหว่างที่อยู่ในทริปตะวันออกกลาง
14 พฤษภาคม
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวแจ้งกับ CNN ว่า ทรัมป์จะไม่เข้าร่วมการเจรจาสันติภาพที่ตุรกีในช่วงที่เขาอยู่ในทริปตะวันออกกลาง รายชื่อของผู้แทนจากรัสเซียที่เข้าร่วมการเจรจาในตุรกีไม่มีชื่อของปูติน เซเลนสกีกล่าวว่าจะเข้าร่วมการเจรจาที่ตุรกี ก็ต่อเมื่อปูตินมาด้วยเท่านั้น
15 พฤษภาคม
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันไม่นานก่อนลงจอดที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกว่าเขากับปูตินจะได้คุยกัน
ในท้ายที่สุด การเจรจาระหว่างเซเลนสกีกับปูตินไม่ได้เกิดขึ้นที่ตุรกี แต่คณะผู้แทนของทั้งสองฝ่ายได้วางแผนจะพบกัน แม้เซเลนสกีจะวิจารณ์ว่าฝั่งรัสเซียส่งคนที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ
16 พฤษภาคม
การเจรจาโดยตรงระหว่างคณะผู้แทนจากรัสเซียและยูเครนเกิดขึ้นและสิ้นสุดลงที่อิสตันบูล โดยไม่มีปูตินหรือเซเลนสกีเข้าร่วม แต่ทั้งสองฝ่ายตกลงเรื่องการแลกเปลี่ยนเชลยในระดับใหญ่ เซเลนสกี ทรัมป์ และผู้นำยุโรปคนอื่น ๆ ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ไม่นานหลังจากการเจรจาสิ้นสุด
ทรัมป์กล่าวว่า วางแผนจะพบกับประธานาธิบดีรัสเซียทันทีที่สามารถนัดหมายได้และกล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างโดยสารอยู่บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันว่า อาจโทรหาปูติน
17 พฤษภาคม
ทรัมป์กล่าวว่า จะโทรหาปูตินในวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่าหัวข้อในการโทรจะเป็นเรื่องการหยุดการนองเลือดที่คร่าชีวิตทหารรัสเซียและยูเครนมากกว่า 5,000 คนต่อสัปดาห์ และเรื่องการค้า เเละยังเสริมว่า จะพูดคุยกับเซเลนสกีและสมาชิกนาโตบางรายด้วย
18 พฤษภาคม
แวนซ์และรูบิโอพบกับเซเลนสกีในอิตาลี ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้นำทั้งสามหารือถึงเป้าหมายร่วมกันในการยุติการนองเลือดในยูเครน และให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของการเจรจาเรื่องการหยุดยิงและสันติภาพ
ในภาพถ่ายของการประชุมส่วนตัวที่ถูกเผยแพร่โดยสำนักงาน พบว่าแวนซ์และเซเลนสกียิ้มแย้ม อันดรีย์ เยอร์มัค หัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดียูเครน ก็เข้าร่วมการประชุมนี้ด้วย
เซเลนสกีกล่าวใน X ว่า ระหว่างการพูดคุย ได้หารือเกี่ยวกับการเจรจาในอิสตันบูล ซึ่งฝ่ายรัสเซียส่งตัวแทนระดับที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจมา โดยย้ำว่ายูเครนพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการทูตอย่างแท้จริง และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการหยุดยิงโดยสมบูรณ์และไม่มีเงื่อนไขให้เร็วที่สุด
เราได้พูดถึงความจำเป็นของการคว่ำบาตรรัสเซีย การค้าทวิภาคี ความร่วมมือด้านการป้องกัน สถานการณ์ในสนามรบ และการแลกเปลี่ยนเชลยที่กำลังจะเกิดขึ้น เราจำเป็นต้องเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซีย จนกว่าจะเต็มใจหยุดสงคราม และแน่นอนว่า เราพูดถึงแนวทางร่วมกันในการสร้างสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน
19 พฤษภาคม
ทรัมป์โทรศัพท์กับปูตินนาน 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการโทรที่ได้รับการจับตาอย่างมาก และหลังจากนั้นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียและยูเครนจะเริ่มต้นการเจรจาสู่การหยุดยิงทันที และที่สำคัญกว่านั้นคือ การยุติสงคราม เขาเสริมว่าเงื่อนไขต่าง ๆ จะถูกเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่าย
ทรัมป์แจ้งเซเลนสกีเกี่ยวกับเนื้อหาการโทรกับปูตินในภายหลัง พร้อมทั้งแจ้งผู้นำประเทศอื่น ๆ ด้วย โดยเซเลนสกีกับทรัมป์ก็ได้พูดคุยกันก่อนที่ทรัมป์จะโทรหาปูตินเช่นกัน ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า วาติกันแสดงความสนใจอย่างยิ่งในการเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจา
ปูตินกล่าวว่าการโทรกับทรัมป์เป็นการสนทนาที่ตรงไปตรงมาและมีเนื้อหา ตามรายงานของสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงจุดยืนเกี่ยวกับการยุติปฏิบัติการ การหยุดยิง และฝั่งของผม ผมได้เน้นย้ำว่ารัสเซียยืนหยัดในแนวทางสันติภาพเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตยูเครน เราแค่ต้องกำหนดเส้นทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเดินหน้าไปสู่สันติภาพ
โฆษณา