หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ยังหาจุดต่ำสุดไม่เจอ 🥺
ปัจจัยที่กดสภาพเศรษฐกิจไทยรอบนี้คือเรื่องที่เคยเป็นยาสามัญประจำชาติที่ช่วยเราทุกรอบ 🙄 เฮียมองการท่องเที่ยวไทยแบบห่างๆมาซัก 4-5 ปีแล้วนะ และก็มักจะพูดกับกลุ่มนักเรียนทุกครั้งที่มีโอกาสว่าระวังๆไว้ก็ดี ไม่งั้นมันจะกลายเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สูญเสียความได้เปรียบไปตลอดกาล เหมือนกับหลายๆอย่างที่มั่นใจว่าไม่มีใครโค่นได้ รู้ตัวอีกที แม่งรั้งท้ายชาวบ้านเฉย
ด้วยความที่เคยใช้ชีวิตที่ Australia ช่วงหนึ่งของชีวิตนะครับ อาจจะเป็นจังหวะที่ดีที่ได้เห็นวิธีในการมองการจัดการ tourism industry ที่ทำเงินเป็นลำดับต้นๆให้กับประเทศเหมือนไทย แต่มีความแตกต่างแบบบางๆคั่นอยู่พอสมควร ที่นั่นคือดีนะ ดีแบบดีมาก ดีจนคิดว่าเออนี่แหละการใช้การท่องเที่ยวเป็นจุดขายของประเทศได้จริงๆ (ติดว่ามันไกล บินที 8 ชั่วโมง ไม่งั้นคนไทยต้องชอบที่นั่นมากๆๆๆๆครับ)
การท่องเที่ยวไทยมันอยู่ในช่วงกำลังวิวัฒนาการว่าจะเอายังไงกันแน่ระหว่างเป็นศูนย์กลางความบันเทิงในราคาที่จับต้องได้ของชาวต่างชาติหรือจะขึ้นชั้นไปรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเทียบชั้น Hong Kong หรือ Singapore ด้วยความที่มันก้ำกึ่งแบบนี้ มันเลยเปิดช่องให้ผู้ท้าชิงเข้ามาแย่งส่วนแบ่งนักท่องเที่ยวไปได้เยอะ
เฮียนะอ่านความเห็นพวกนี้ทั้งหมดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ(ล้วนๆ) และสรุปออกมาคร่าวๆเป็นข้อๆดังนี้
เรื่องแรกคือ ไทยไม่ถูก(อีกต่อไป) ความคิดเห็นส่วนนี้จะออกตัวให้แล้วว่าตอนนี้เงินเฟ้อมันสูงไปทั่วโลก(เขาเข้าใจ) แต่ที่มันทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าทุกอย่างในไทยมันไม่ถูกอีกต่อไปคือ “การแข่งขันจากเพื่อนบ้านครับ” เน้นไปที่ประเทศเวียดนามที่ปีนี้สามารถทำตัวเลขนักท่องเที่ยวได้โตขึ้นอย่างมีนัยยะ
เวียดนามมันตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มแบกเป้ได้เหมือนเราเมื่อ 20-30ปีก่อนเลยนะครับ ที่พักราคาไม่แพง อาหารราคาถูก ธรรมชาติพอมี และความบันเทิงตอนดึกๆก็ไม่ได้เงียบเหงา คนต่างชาติที่เฮียรู้จัก ปีนี้ไปเวียดนามกันเยอะนะ เฮียถามว่าเพราะอะไร เขาบอกว่าไม่เคยไป หรือที่เคยไปแล้วก็บอกว่ามันโอเค แต่สิ่งที่พูดตรงกันคือมันราคาไม่แพงถ้าเทียบกับมาไทย
อีกอย่างนะ สถานทีท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างนี่คือ “ดี” ว่ะ ไปเที่เขาของเขามันนั่งกระเช้าเสร็จแล้วต่อรถราง ความสะดวกเหล่านี้ทำให้เขาทำการท่องเที่ยวบางจุดให้มัน mass ได้ แล้วเว้นจุดที่จะอนุรักษ์ไว้ ส่วนของเราก็ตามนั้น 😌 เข้าใจว่าบางที่มันต้องอนุรักษ์แต่บางที่ที่เห็นคืออนุรักษ์กันจนปากมันกันไปทุกภาคส่วนเลยนะ แยกให้ออกว่าจุดไหนจะเอามาทำการค้า จุดไหนห้ามแตะครับ
อีกทั้งเฮียเคยคุยกับคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านเราที่ตีกันหนักๆนั่นแหละ 😌 แนวคิดในการสร้างแม่เหล็กเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มองหาวัฒนธรรมใหม่แปลกใหม่ เขามองว่าเขาก็มีทรัพยากรคล้ายๆเราในเรื่องการแต่งกายประเพณี ดังนั้นทางที่ง่ายที่สุดคือ “โตตามประเทศไทยโดยเลียนแบบ”ไปเลย ทำเป็นเล่นนะ ได้ผลนะนั่น แล้วนักท่องเที่ยวที่มีความอ่อนไหวด้านราคาสูงๆก็มองว่าเออ คล้ายๆกันแหละ แต่ถูกกว่าเยอะ 55
ถามเขาแย่ไหมที่เลียนแบบเรา อืมม “แย่ดิ” มาก็อปกู เคลมกูทุกเรื่อง แต่มันได้ผลนะสำหรับประเทศเขาที่ไม่มแต้มต่ออะไรเลย ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ได้สร้างการรับรู้อย่างถาวรจริงๆจังๆว่าที่คือประสบการณ์ที่คุณหาได้ในไทยเท่านั้น พอเจอกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หาของก็อปราคาถูก แม้ว่ามันไม่ตรงปกแต่ก็พอหยวนๆไปได้
โรงแรมในไทยเดี๋ยวนี้ห้องละ 20,000-40,000 นี่เปิดกันเป็นดอกเห็ดเลยนะครับ แสดงว่ามันมีตลาดสำหรับกลุ่มกลางค่อนบนเข้ามาเยอะจริง แต่ถ้าเทียบกันจริงๆ เราก็ยังสร้างมาตรฐานหลายๆอย่างไม่ทันที่จะรองรับลูกค้ากลุ่มนี้จริงจัง แถมค่าเงินบาทไทยก็ไม่ได้ช่วยในช่วงนี้
เรื่องต่อมาคือเราขายแต่สิ่งเดิมๆ มันเดิมๆจริงๆนะตลอด 30 ปีมานี้ ที่บอกเดิมๆไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวเดิมๆเท่านั้นแต่จุดขายทั้งหมดของเรามันแทบไม่มีอะไรใหม่เลย บางท่านอาจจะแย้งว่าก็มันไม่แย่ก็ไม่ต้องเปลี่ยน อย่างหลายๆประเทศในยุโรปก็ไม่เห็นว่าจะมีจุดขายอะไรใหม่ๆเลย ทำไมการท่องเที่ยวไม่กระทบอะไรมาก
การท่องเที่ยวมันแยกเป็นกลุ่มพักผ่อนหย่อนใจ กับแสวงหาอะไรแปลกใหม่ คนถามเฮียว่าบางครั้งทำไมเฮียไปบางที่ซ้ำๆ คำตอบคือก็ไปพักผ่อน ไม่อยากทำอะไรที่มันยากมาก ชีวิตกูยากพอละ เลยเลือกจะไปในบางที่ที่มันคุ้นเคย ไปแล้วสบายใจ ได้กินอาหารอย่างที่ชอบ แล้วไปนอนโง่ๆหรือไม่ต้องทำอะไรมาก เฮียว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็เจอแย่งไปเยอะนะ
ส่วนพวกกลุ่มที่มองการท่องเที่ยวเป็นอะไรที่ได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อนบ้านที่น่ารักก็ดัดแปลงของเราไปคล้ายๆกัน ฝรั่งบางคนเวลาอยู่ที่บ้านมันนี่ไม่ได้กินเหล้าขนาดนี้นะ แต่พอมาเมืองไทยนี่คือกินจนไม่มีสติ อารมณ์คงเหมือนพวกเราไปเที่ยวทองหล่อ พอไปเที่ยวทีก็ปล่อยตัวให้สุด นักท่องเที่ยวพวกนี้มักจะหาความคุ้มค่าในรูปแบบที่คล้ายๆกันได้
ทีนี้เฮียก็ไม่ได้เห็นว่าการท่องเที่ยวเรามันมีอะไรที่ต่างจากเดิมไปมากๆ อีกทั้งนโยบายก็เน้นไปทางเพิ่มปริมาณมากกว่าคุณภาพ แบบนี้มันก็จบละครับ ตอนเฮียนะ อาจารย์สอนเฮียว่าถ้าธุรกิจไหนเริ่มใช้สงครามราคา ธุรกิจนั้นก็เริ่มนับถอยหลังละ
สมมุตินะแทนที่จะตั้งเป้านักท่องเที่ยว 40 ล้านคนและใช้จ่ายคนละ 1000 บาท กับอีกเป้านึงขอนักท่องเที่ยว 20 ล้านคนแต่ใช้จ่ายคนละ 2000 บาท ☺️ จะไม่ถามว่าเป้าไหนดีกว่ากัน แต่อยากจะถามว่าเป้าไหนทำได้ยากกว่ากัน และแน่นอน โครงสร้างเราเอียงไปทางอันง่าย
ถ้าจะขึ้นไปจับตลาดบนหน่อยจริงๆนะ เราต้องเสนออะไรที่มันเป็นเอกลักษณ์ให้ได้มากกว่านี้ เวลาคนถามว่าการท่องเที่ยวสิงคโปร์มีอะไร คิดจะวัดรอยเท้าไทย (ไปหาน้ำจืดดื่มให้พอก่อนเหอะมึง 😄) คิดอย่างนี้ไปเรื่อยๆไม่ได้นะ ตอนไปค่อนแคะเขาว่ามีแต่สิงโตพ่นน้ำ เขาเนรมิต Marina bay(ไม่ดราม่านะ ไม่ได้พูดถึงโรงแรมกลุ่ม Sands) เรียบร้อย เฮียเคยไปนั่งดื่มไวน์กับไอ้จัมป์ที่ร้านริมอ่าว เออบรรยากาศดีว่ะ แพงไหมแพงแต่ร้านในไทยเดี๋ยวนี้ไม่ได้ถูกกว่าเท่าไหร่ แต่บรรยากาศคนละแบบเลย
เรื่องสุดท้ายนะ และอันนี้ต่างชาติพูดถึงเยอะมากจริงๆ พวกพรี่ๆก็ไปเล่นนักท่องเที่ยวเขาไว้เยอะ ถึงจังหวะเอาได้นี่ก็เอากันจนสุด โดยเฉพาะแท็กซี่นี่ขึ้นชื่อมากนะครับ เฮียเคยไปญี่ปุ่นรอบนึง 2 อาทิตย์ ขากลับก็ต้องไปขึ้นรถไฟ เฮียก็ใช้แท็กซี่ที่นั่นไปส่ง โอ้โห ทำเกินซะเฮียเกรงใจ พอลงมาถึงสุวรรณภูมิกดตั๋วเพื่อนั่งแท็กซี่กลับคอนโดฯ กูนึกว่าอยู่กันคนละกาแล็กซี่ รายละเอียดเป็นไงไม่ต้องเล่านะ ทราบๆกันดีหมด
ทุกที่เขาเห็นนักท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้ทั้งนั้นแหละ และย้ำว่าเฮียก็เคยเจอคนเวียดนามปล่อยลงกลางทางก่อนต่อรถทัวร์กลับฮานอยมาแล้ว(น่ากลัวฉิบหาย 😌) แต่อย่างที่บอกว่าเราอยู่ในฝ่ายที่เป็นคนรักษาแชมป์ เราต้องทำให้ได้ดีกว่าผู้ท้าชิงแล้วนะครับ นักท่องเที่ยวเขาไม่เคยไปประเทศ X เขาไม่เคยโดนโกงแต่รู้ว่าถ้ามาเมืองไทย อะไรที่มันต้องเจอแน่ๆ บางทีเขาก็หนีไปให้คนอื่นโกงบ้าง
สรุป: การท่องเที่ยวไทยไม่เจ๊งหรอก แต่ที่ผ่านมามันถูกใช้เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบฉาบฉวยมาตลอด นี่ก็เป็นสาเหตุนึงที่เราพึ่งการท่องเที่ยวมากจนไม่กล้าแตะหรือแก้ปัญหาจริงๆซักที คนที่ไล่นักท่องเที่ยวที่ทำตัวไม่น่ารักก็มักจะไม่ใช่คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ส่วนคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บางกลุ่มนี่ก็อุ้มพวกนักเที่ยวตกเกรดมากเกินไปเพราะทำรายได้ดี
เดี๋ยวเวลาก็จะเป็นตัวปรับให้ไทยชัดขึ้นเอง แต่จะไปพึ่งเวลาอย่างเดียวก็สงสัยว่าเราจะมีรัฐบาล ข้าราชการที่เกี่ยวข้องไปทำไม ระยะสั้นจะอุดหนุนโครงการท่องเที่ยวอะไรก็ออกมาแต่มันก็ไม่ใช่ต้นตอของปัญหา อยากเห็นคนที่กล้าแตะปัญหาอะไรจริงๆบ้าง
เฮียไปเชียงใหม่ล่าสุดนี่ชอบเลยนะ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีแต่ขนาดเฮียเป็นคนไทย(หน้าจีน) แต่บอกเลยว่าไอ้ทุกข้อที่เขียนมาข้างบน เฮียเจอหมด 55 ดีๆทั้งนั้น ประทับใจทั้งนั้น แต่มันชินไงเลยไม่คิดอะไร แต่ถ้านักท่องเที่ยวเจอตอดเล็กตอดน้อย เฮียก็ไม่รู้ว่าเราจะยังเป็นจุดหมายปลายทางที่คนคิดถึงอันดับแรกๆอีกไหม
30 ปีมานี้ อะไรๆหลายๆอย่างมันดีขึ้นเยอะนะ ปัญหาคือประเทศอื่นมันก็ดีขึ้นเหมือนกัน แล้วเขาเป็นผู้ท่าชิง เขาทำทุกอย่างเพื่อโค่นเราอยู่แล้ว คำถามคือพวกเราทำส่วนของเราเพื่อรักษานักท่องเที่ยว“ดีๆ” ไว้หรือเปล่า
ที่เขียนมาทั้งหมดเพื่อจะบอกว่า เห็นราคา AOT แล้วกูเหนื่อยว่ะ 😄😄
เฮียใช้คนซื่อ คนเดิมครับ
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
