21 พ.ค. เวลา 12:41 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ความตั้งใจเดิมคือ ผมกะจะหยุดพักการเขียนสักหลายเดือน เพราะผมเหนื่อยมาก
แต่วันนี้เพิ่งนึกอะไรได้นิดหน่อย เลยอยากจะมาเขียนนิดหน่อย ๆ
ผมจำได้ว่า สมัยผมเข้าตลาดมาใหม่ ๆ หุ้นตัวนี้เคยร้อนแรงมาก เคยเป็นหุ้นที่ขึ้นไปได้ถึง 10 เด้งด้วย
แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงเคยขึ้นไปได้ขนาดนั้น
ผมจำได้ ผมเคยฟังพี่นักลงทุนคนหนึ่งผ่านรายการ ที่มีแนวทางการลงทุนโดดเด่นมาก คือถ้าชอบบริษัทไหน มั่นใจแล้ว จะเข้าไปถือหุ้น จนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 และคอยช่วยเหลือกลุ่มเจ้าของเดิมของบริษัทต่อไป
ทำแบบนี้ เพื่อเหมือนเราได้เป็น Partner ธุรกิจกันจริง ๆ โดยที่เจ้าของเดิมจะยังต้องเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 อยู่ และยังตั้งใจทำงานอยู่
ตอนได้ยิน ผมก็รู้สึกว่า แนวทางนี้มันดูเจ๋งมาก เจ้าของเดิมยังถือหุ้นเยอะอยู่ ยังมีการ Skin in the Game อยู่ ส่วนเราที่เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ก็เข้าไปคอยช่วยเสนอแผนการ
ถ้าสำเร็จ พวกเราก็จะรวยไปด้วยกัน
และด้วยหุ้น RS ครั้งนึงเคยพีคมาก ผมก็นึกว่า แนวทางนี้คงจะประสบความสำเร็จดี
แต่ใครจะคิด เวลาผ่านมาอีกหลายปี หุ้นที่เคยขึ้นไป 10 กว่าบาท ตอนนี้ราคาเหลือ 0.3
และความมั่งคั่งจากการถือหุ้นตัวนี้ เมื่อก่อนคือประมาณสองพันล้านบาท มาตอนนี้ ถ้ายังถืออยู่ จะเหลือแค่ประมาณ 60 ล้านบาทเท่านั้น
ผมเห็นแล้ว ผมรู้สึกช้ำใจมากครับ เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้ดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งที่เราเห็นในตลาดหุ้น มันเรื่องมายาหรืออย่างไร
จากประมาณ 2,000 ล้านบาท ตอนนี้เหลือประมาณ 60 ล้านบาท
เงินเป็น 1,000 ล้านบาท มันสามารถหายไปได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้เลยหรือ
เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ผมได้รับรู้เรื่องนึงมา ยังไม่ได้ปักใจเชื่อมากนัก แม้มันจะดูน่าเชื่อถือมาก
ไม่ใช่เรื่องของพี่ผู้ถือหุ้นคนนี้หรอกนะครับ แต่อาจจะเกี่ยวข้องกับหุ้น RS
เรื่องที่ทำให้ผมตกใจก็คือ “คนเรามันจะมาเสียผู้เสียคนตอนแก่ได้ขนาดนี้จริงหรือ ?“
เรื่องที่ทำให้ผมช้ำใจยิ่งกว่าก็คือ ผมได้เห็นพี่ ๆ นักลงทุน ที่ดูเป็นคนดีมาก บางคนก็เป็นชาวพุทธที่ดี บางคนก็เป็นคริสต์ชนที่ดี
พวกเค้ามีความมั่งคั่งเพิ่มพูนอย่างก้าวกระโดดจากหุ้นตัวนึง และความมั่งคั่งนั้น ก็สลายหายไป จากหุ้นตัวเดียวกัน
โฆษณา