22 พ.ค. เวลา 04:14 • การศึกษา
1. ทบทวนความเข้าใจโครงสร้างการทำงานภาครัฐกันก่อนค่ะ ดอยภูกระดึงนั้น อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติ จ.เลย ซึ่งอุทยานแห่งชาติอยู่ภายใต้สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ มีภารกิจ "เกี่ยวกับการอนุรักษ์ ส่งเสริม และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในเขตพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์ โดยการควบคุม ป้องกัน พื้นที่ป่าอนุรักษ์เดิมที่มีอยู่ ให้เกิดความยั่งยืน" และกรมอุทยานแห่งชาติ ก็อยู่ภายใต้กระทรวงทรัพยากรฯ มิใช่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแต่อย่างใด
เมื่อเราวิเคราะห์โครงสร้างการบริหารจัดการภาครัฐ ก็จะทำให้เข้าใจได้ว่า มีการจัดโครงสร้างเพื่อการคานอำนาจไว้ดีแล้ว ดังนั้น การจะดำเนินโครงการใดๆ จึงย่อมเป็นไปบ่ได้ที่จะรวดเร็วได้อย่างจัยย์!
2. ภารกิจตามข้อ 1 ต้องใช้เงินเน้นๆ โดยแหล่งที่มาของรายได้มาจากงบประมาณภาครัฐ จากกระทรวงต้นสังกัดเป็นผู้จัดสรรงบประมาณประจำปี และการจัดเก็บรายได้ในเขตพื้นที่ของอุทยานนั้นๆ ดังนั้นหากมีกระเช้าไควคว้าขึ้นไปบนดอยได้อย่าง amazing ย่อมมีฝ่ายได้ประโยชน์และฝ่ายเสียประโยชน์ และย่อมมีส่วนที่ได้ และย่อมมีส่วนที่เสีย (โปรดกลับไปอ่านภารกิจหลักของกรมอุทยานฯ ตามข้อ 1)
3. โดยปกติแล้ว การดำเนินโครงการต่างๆของภาครัฐ ที่ใช้คำว่า "เพื่อการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์" จะเริ่มจากการทำประชาพิจารณ์ (Public Hearing) หรือการฟังเสียงคนในพื้นที่ (ซึ่งไม่ใช่การฟังความเห็นผู้คนบนโลกโซเชี่ยล) เพื่อการรับฟังผลกระทบในด้านต่างๆ ทั้งสิ่งแวดล้อม และการทำมาหากินของคนในพื้นที่
แต่คำถามที่สำคัญที่สุดคือ
จะเอางบประมาณมาจากกระเป๋าไหน
การพิจารณาความคุ้มค่าในการลงทุนเป็นอย่างไร
กระเช้าไม่ได้มีไว้สำหรับชาวบ้านที่แข้งขาไม่ดี
แต่มีไว้เพื่อให้ง่ายดายในการเข้าถึงพื้นที่ ซึ่งจะตามมาด้วย
"ผลประโยชน์"
….
แต่เมื่อเกิดความง่าย ความมักง่ายก็จะต้องตามมา
เมื่อความมักง่ายตามมา ก็ง่ายที่จะเกิดความเสื่อมโทรม
เมื่อเกิดความเสื่อมโทรมง่ายๆ ก็ต้องใช้งบประมาณดูแล
(ค่าไควคว้า ฟามสะอาด ทำนุบำรุงกระเช้า)
หากมีคนตกกระเช้าตาย กรมฯต้องรับผิดชอบเต็มๆ
แต่หากมีคนตกภูกระดึงตาย กรมฯไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ
แค่ติดต่อสายด่วนกู้ภัยเก็บศพก็จบแล้วค่ะ
โฆษณา