ธุรกิจพนันออนไลน์ในไทย อาจมีมูลค่าสูงถึง 300,000 ล้านบาท
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ สำหรับคนเล่นโซเชียลมีเดียเป็นประจำ คงไม่มีใครไม่เคยเห็น โฆษณาเว็บไซต์พนันออนไลน์บนหน้าจอโทรศัพท์
จากการที่เจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ต่าง ๆ ต้องแข่งกันหาลูกค้าอย่างดุเดือด เพื่อแย่งชิงเม็ดเงินมหาศาลในตลาดแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม เงินเหล่านี้ก็ไม่ใช่เงินที่อยู่ในระบบฐานภาษีของภาครัฐ ทำให้รัฐบาลไม่สามารถจัดเก็บภาษีจากธุรกิจการพนันออนไลน์ได้เลย
แถมธุรกิจนี้ยังสร้างปัญหาทางสังคมตามมาอีกด้วย ทั้งปัญหาในสถาบันครอบครัว และปัญหาในระดับสังคม เช่น อัตราการก่ออาชญากรรมที่พุ่งสูงขึ้น
แต่รู้ไหมว่า ในประเทศพัฒนาแล้ว หลายประเทศ เปิดโอกาสให้ธุรกิจการพนันออนไลน์ เป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมาย
คำถามที่หลายคนน่าจะสงสัยกันก็คือ ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ธุรกิจการพนันออนไลน์ใหญ่ขนาดไหน ?
แล้วในประเทศอื่น ๆ เขามีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสังคมที่อาจตามมาพร้อมกับธุรกิจการพนันอย่างไร ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
สถานการณ์ในประเทศไทย ดูเหมือนว่าเราจะมีทางเลือกอยู่ 2 ทางในการแก้ปัญหาธุรกิจการพนันออนไลน์ นั่นก็คือ
1. ปราบปรามธุรกิจการพนันออนไลน์อย่างจริงจัง ไม่เปิดโอกาสให้ธุรกิจการพนันออนไลน์เป็นธุรกิจถูกกฎหมาย
2. แก้ไขกฎหมายให้ธุรกิจการพนันออนไลน์เป็นธุรกิจถูกกฎหมาย และเดินตามรอยประเทศที่มีมาตรการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ
โดยมีการคาดการณ์จากสำนักวิจัยต่างประเทศว่า หากรัฐบาลเลือกทางเดินที่ 2 มูลค่าธุรกิจการพนันออนไลน์ในไทยอาจสูงถึง 300,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
และถ้าหากเป็นแบบนั้นจริง เราก็อาจจะได้เห็นธุรกิจการพนันออนไลน์มูลค่าหมื่นล้าน แสนล้านบาท จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทยก็เป็นได้
ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่า การมีมาตรการควบคุมการพนันออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างไร
เราจึงต้องเรียนรู้จาก ศูนย์กลางของการพนันออนไลน์ อย่างทวีปยุโรป
เพราะจากมูลค่าตลาดการพนันออนไลน์ทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2,600,000 ล้านบาท
ในกว่า 2,600,000 ล้านบาทนั้น จะคิดเป็นมูลค่าตลาดการพนันออนไลน์ในทวีปยุโรปไปแล้วถึง 41%
ซึ่งก็มีหลายเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจการพนันออนไลน์ในยุโรปเฟื่องฟูกว่าที่อื่น ๆ บนโลกใบนี้ อย่างเช่น..
- การออกกฎหมายในหลาย ๆ ประเทศ ให้การพนันออนไลน์ เป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมาย เช่น สหราชอาณาจักร, อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส และเยอรมนี
- มีการจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจนี้อย่างจริงจัง ทั้งในระดับทวีป และระดับประเทศ
เช่น Gaming Regulators European Forum ซึ่งเป็นเครือข่ายของหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจการพนันในแต่ละประเทศของยุโรป เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลต่อกัน
ส่วนหน่วยงานกำกับดูแลในแต่ละประเทศ ก็อย่างเช่น UK Gambling Commission ของสหราชอาณาจักร
- โครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมพื้นที่ทั่วยุโรป
จาก 3 ปัจจัยที่ว่ามา ก็ทำให้การพนันออนไลน์ในยุโรปเฟื่องฟูถึงขีดสุด
สะท้อนได้จากธุรกิจการพนันออนไลน์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นทั่วโลก 2 ใน 3 บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นบริษัทจากยุโรป
อันดับ 1 คือบริษัท Flutter Entertainment จากไอร์แลนด์ มีมูลค่าบริษัท 1,463,000 ล้านบาท
อันดับ 2 คือบริษัท DraftKings จากสหรัฐอเมริกา มีมูลค่าบริษัท 613,000 ล้านบาท
อันดับ 3 คือบริษัท Evolution Gaming จากสวีเดน มีมูลค่าบริษัท 457,000 ล้านบาท
การที่ธุรกิจการพนันออนไลน์จากยุโรป มีมูลค่าสูงจนติดอันดับโลกแบบนี้ ก็แสดงให้เห็นถึงความนิยมในการเล่นพนันออนไลน์ของชาวยุโรปได้เป็นอย่างดี
โดยเคยมีผลสำรวจออกมาว่า 4 ใน 10 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักร ต้องเคยข้องแวะกับกิจกรรมการพนันออนไลน์มาบ้าง
พอชาวยุโรปเข้ามาเล่นพนันออนไลน์กันเป็นล่ำเป็นสันขนาดนี้ แล้วยุโรปจัดการไม่ให้มีปัญหาสังคมตามมาอย่างไร ?
เรื่องนี้เราอาจจะต้องถาม รัฐบาลของประเทศนอร์เวย์ หนึ่งในประเทศที่ได้รับการยอมรับว่า มีมาตรการควบคุมการพนันออนไลน์ดีที่สุดในโลก
ตัวอย่างนโยบายควบคุมที่น่าสนใจ ก็เช่น..
- ใช้ระบบผูกขาด โดยรัฐจะเป็นผู้เปิดกาสิโนออนไลน์ให้ประชาชนเล่นเอง ผ่านรัฐวิสาหกิจที่ชื่อ Norsk Tipping และ Norsk Rikstoto
- พอบริษัทเป็นเจ้าของธุรกิจการพนันออนไลน์ทั้งหมด ก็ง่ายต่อการควบคุมการโฆษณา
- มีการใช้กฎ Loss Limit หรือการจำกัดความสูญเสียให้ผู้เล่น ยิ่งผู้เล่นอายุน้อย ก็ยิ่งจำกัดเงินที่ผู้เล่นจะเล่นเสียได้น้อยลง
เช่น คนในวัย 20 ถึง 21 ปี เมื่อเล่นการพนันออนไลน์ในนอร์เวย์ จะเสียเงินได้สูงสุดไม่เกินคนละประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน เมื่อเกินแล้วต้องหยุดพักการเล่น
เพราะรัฐบาลนอร์เวย์มีข้อมูลการวิจัยออกมาว่า คนที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี มีโอกาสสูงมากที่จะมีปัญหาติดการพนัน จึงต้องมีการจำกัดการเล่นในกลุ่มคนอายุน้อย
ส่วนคนที่อายุเกิน 25 ปี ก็มีการกำหนดวงเงินสูญเสียต่อเดือนไว้เช่นกัน โดยสามารถเสียได้สูงสุดประมาณ 65,000 บาทต่อเดือน
แต่ถ้าไม่ใช้ระบบผูกขาดโดยรัฐบาล สวีเดนก็เป็นอีกประเทศที่เปิดเสรีให้เอกชนเข้ามาทำธุรกิจ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีมาตรการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมการโฆษณาไม่ให้เข้าถึงเยาวชนอย่างเข้มงวด หรือการสร้างระบบตรวจสอบพฤติกรรมการพนันที่เชื่อมโยงกับทุกแพลตฟอร์มพนันออนไลน์ในประเทศ
นอกจากนี้การผลักดันธุรกิจการพนันออนไลน์ให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ก็เป็นมาตรการที่ดีในการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของธุรกิจนี้ต่อสาธารณชน
อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบจากหลายฝ่าย ทั้งนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อย ผู้ตรวจสอบบัญชี และสำนักงานกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดทุน
อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็น่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า ประเทศไทยมีทางเลือกในการจัดการกับธุรกิจการพนันออนไลน์อย่างไรบ้าง
แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน หัวใจสำคัญของการแก้ปัญหานี้ อาจจะอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเข้มแข็ง
เพราะตัวบทกฎหมายแบบเดียวกับนอร์เวย์ หรือสวีเดน เลียนแบบกันได้ไม่ยาก แต่การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็ง เหมือนประเทศพัฒนาแล้วเหล่านั้นต่างหาก
ที่จะช่วยให้การพนันที่ถูกกฎหมาย ไม่ลุกลามบานปลาย กลายเป็นปัญหาสังคมในอนาคต..
#เศรษฐกิจ
#เศรษฐกิจไทย
#ยุโรป
- 48
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
