วิธีสร้าง Branding แบบ ‘ฮิโรชิมะ’ จากเมืองที่แหลกสลาย สู่ฐานที่ตั้งแบรนด์ดัง Mazda, Calbee,
Daiso, Uniqlo
- ซีรีส์บทความ Japan Branding โดยเพจ BrandCase
ฮิโรชิมะ (Hiroshima) หนึ่งในเมืองหลักของญี่ปุ่น ที่เคยถูกสหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
จากเมืองที่แทบไม่เหลืออะไรเลย ถ้าให้คนสมัยนั้นมองมา คงคิดไม่ถึงว่าเมืองที่เคยพังพินาศด้วยสงคราม
จะกลายเป็นจุดเริ่มต้น และฐานที่ตั้งสำคัญ ของแบรนด์ดังระดับโลกมากมายในตอนนี้
- Uniqlo
- Mazda
- Calbee
- Daiso
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ ซีรีส์บทความ Japan Branding ตอน ฮิโรชิมะ โดยเพจ BrandCase..
- ฮิโรชิมะ (Hiroshima) เป็นเมืองใหญ่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะฮอนชู เกาะหลักของประเทศญี่ปุ่น
เมืองนี้มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 1,170,000 คน หรือพอ ๆ กับจังหวัดชัยภูมิ ของประเทศไทย
โดยฮิโรชิมะ ก็เป็นอีกเมืองที่มีความสำคัญของจักรวรรดิญี่ปุ่น ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการทหาร มาตั้งแต่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
ในด้านเศรษฐกิจ ฮิโรชิมะ เคยเป็นเมืองท่าของญี่ปุ่น ที่เอาไว้ค้าขายกับชาวต่างชาติมาตั้งแต่สมัยยุคเมจิ
เมืองนี้ มีการพัฒนาอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไล่ตั้งแต่อุตสาหกรรมเบา เช่น การทอผ้า
ไปจนถึงอุตสาหกรรมหนัก เช่น การผลิตเครื่องจักรและการต่อเรือ
จึงทำให้ ฮิโรชิมะ กลายเป็นอีกเมืองหนึ่งที่โครงสร้างพื้นฐานถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือ สถานศึกษาและโรงพยาบาล ระบบสาธารณูปโภค ถนนหนทางต่าง ๆ
ไปจนถึงระบบขนส่งสาธารณะ อย่างเช่น รถรางเบา หรือที่เรียกกันว่า Tram ก็ได้ถูกพัฒนาขึ้น
และเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1910 หรือเมื่อราว ๆ 115 ปีก่อน
เรียกได้ว่าฮิโรชิมะ มีระบบขนส่งสาธารณะอย่าง รถรางเบา มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ของประเทศไทย โดยรถรางเบาของเมืองฮิโรชิมะ จะใช้ชื่อเรียกว่า Hiroden
ด้วยความที่ฮิโรชิมะ มีโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจ ที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมืองนี้ ได้ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของกองทัพ
มีโรงงานผลิตอุปกรณ์และอาวุธต่าง ๆ มาตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
นั่นจึงทำให้ฮิโรชิมะ กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของสหรัฐอเมริกา ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับจักรวรรดิญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2
ฮิโรชิมะ โดนทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ในปี 1945 และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งนั้น พร้อมกับความพ่ายแพ้ของจักรวรรดิญี่ปุ่นและฝ่ายอักษะ
หลังจากเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลญี่ปุ่น มีความต้องการที่จะฟื้นฟูประเทศให้กลับมาผงาดในระดับโลกอีกครั้ง
หนึ่งองค์ประกอบสำคัญ ในการฟื้นฟูประเทศก็คือ
การออกแบบสร้างเมืองใหม่ ด้วยการวางผังเมืองให้เป็นระบบและทันสมัย
และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ และวางรากฐานธุรกิจ และอุตสาหกรรมที่อยู่ภายในเมืองนั้น ๆ
แน่นอนว่า ฮิโรชิมะ ก็กลายเป็นหนึ่งในเมืองหลัก ที่รัฐบาลต้องการฟื้นฟู
โดยวางเป้าหมายให้กลายเป็นเมืองท่าและเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญ ประจำภูมิภาคชูโกกุ หรือภูมิภาคที่อยู่ทางด้านตะวันตกของญี่ปุ่น
โดยตั้งแต่ปี 1949 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออก “กฎหมายพิเศษเพื่อการฟื้นฟูฮิโรชิมะ” หรือ Hiroshima Peace Memorial City Construction Law
กฎหมายนี้ ทำให้รัฐบาลสามารถอนุมัติงบประมาณเพื่อการก่อสร้างและวางผังเมืองใหม่
รวมถึงฟื้นฟูธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีอยู่ภายในเมืองให้กลับมาก้าวกระโดดอีกครั้ง
ซึ่งนอกจากการพัฒนาเมืองแล้ว รัฐบาลก็มีแผนต้องการให้ ฮิโรชิมะ กลายเป็นเมืองแห่งสันติภาพ
ด้วยการสร้างพิพิธภัณฑ์สงครามโลก เพื่อให้ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากสงคราม
หลังจากที่เมืองฮิโรชิมะได้ฟื้นฟูแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเมือง ก็เริ่มพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
จึงทำให้ฮิโรชิมะ มีจุดเด่นทั้งในด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมหนักภายในเมือง
และที่สำคัญคือ เป็นต้นกำเนิดของแบรนด์ดังที่คนทั้งโลกรู้จักมาทุกยุคทุกสมัย..
- Mazda
แบรนด์รถยนต์ชื่อดังที่เกิดในฮิโรชิมะ ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อตั้งโดย คุณจูจิโร มัตสึดะ
ก่อนจะเป็นรถยนต์แบรนด์ Mazda คุณจูจิโร มัตสึดะ ได้เปิดโรงงานผลิตจุกคอร์กสำหรับขวดไวน์ ในเมืองฮิโรชิมะขึ้นมาก่อน
ซึ่งคุณจูจิโร ก็ได้ต่อยอดจากการผลิตสินค้าง่าย ๆ อย่างจุกคอร์กขวดไวน์ ไปเป็นการผลิตสินค้ายาก ๆ อย่างเครื่องเจาะหิน และเครื่องยนต์
จนกระทั่งสามารถต่อยอดองค์ความรู้ ไปสู่การออกแบบและผลิตรถยนต์แบรนด์ Mazda ตั้งแต่ปี 1931
ถึงแม้ว่าโรงงานผลิตรถยนต์ของ Mazda จะได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่ Mazda เองก็ได้ร่วมมือกับรัฐบาล ในการฟื้นฟูเมืองที่เสียหายหนักจากสงคราม
และฟื้นฟูบริษัทให้กลับมาเติบโตอย่างรวดเร็ว จนสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
รวมถึงประเทศไทย จนกลายเป็นแบรนด์ดังระดับโลกได้
- Calbee
แบรนด์ข้าวเกรียบกุ้ง ที่เกิดในฮิโรชิมะ หลังโดนระเบิดนิวเคลียร์
จุดเริ่มต้นของ Calbee เกิดขึ้นจากนักธุรกิจชื่อ คุณทากาชิ มัตสึโอะ ในปี 1949
โดยเขาได้ตัดสินใจใช้เงินทุนที่ตัวเองมีอยู่ ทำโรงงานแปรรูปอาหารที่มีประโยชน์ให้แก่ชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก ที่กำลังอยู่ในภาวะอดอยากในช่วงหลังสงครามโลก
ชื่อของ Calbee มาจากการผสมคำกันระหว่างคำว่า
- ‘Cal’ สื่อถึงคำว่า แคลเซียม (Calcium)
- ‘bee’ มาจากคำว่า วิตามินบี 1 (Vitamin B1)
สินค้าตัวแรกของแบรนด์ที่ผลิตออกมา คือ Calbee Caramel ซึ่งเป็นขนมขบเคี้ยวที่ทำจากแป้งมันเทศและธัญพืช โดยนำมาขายในราคาที่ใคร ๆ ก็สามารถซื้อได้
ผลปรากฏว่า สินค้าของ Calbee ได้รับการตอบรับอย่างดีมาก ทำให้ Calbee ตัดสินใจขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
รวมถึงได้ขยายตลาดมายังประเทศไทย ภายใต้การร่วมทุนกับ กลุ่มธนาวัธน์อุตสาหกรรม
แล้วก่อตั้งเป็น บริษัท คาลบี้ธนาวัธน์ จำกัด ผลิตขนมขบเคี้ยวในเครือ Calbee เพื่อจัดจำหน่ายในไทยและส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย
- Maruni
แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้งานคราฟต์ระดับพรีเมียมในญี่ปุ่น ที่ได้รับการการันตีคุณภาพจากทั่วโลก
สินค้าหลัก ๆ ของแบรนด์นี้ ก็คือเฟอร์นิเจอร์อย่าง โซฟา โต๊ะ และเก้าอี้ไม้
โดยออกแบบผสมผสานระหว่าง ทักษะของช่างไม้ญี่ปุ่น กับดิไซน์แบบสแกนดิเนเวีย
สินค้าของแบรนด์ ก็จะขายในราคาพรีเมียม อย่างเช่น เก้าอี้ไม้ ในราคาเริ่มต้นที่ 30,000 บาท, โซฟา ในราคาเริ่มต้นที่ 100,000 บาท
ปัจจุบัน มีตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ Maruni กว่า 30 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
- ISSEY MIYAKE
แบรนด์เครื่องแต่งกายสุดเรียบหรู ที่ผสานความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ก่อตั้งโดยคุณอิซเซ มิยาเกะ เจ้าพ่อแฟชั่นสไตล์ญี่ปุ่น
คุณอิซเซ มิยาเกะ เกิดในปี 1938 ที่เมืองฮิโรชิมะ และได้รอดชีวิตจากระเบิดนิวเคลียร์ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ
คุณอิซเซ มิยาเกะ เขามีความหลงใหล ในด้านงานแฟชั่นดิไซน์ และศิลปะตั้งแต่เด็ก
จึงได้ไปเรียนต่อทางด้านนี้ และก่อตั้งแบรนด์ ISSEY MIYAKE ขึ้นในปี 1971
ปัจจุบัน แบรนด์ ISSEY MIYAKE เป็นหนึ่งในแบรนด์หรูระดับโลก โดยแบรนด์ได้ผสมผสานทั้งศิลปะ เทคโนโลยีการถักทอ และอัตลักษณ์ในแบบของญี่ปุ่น
ซึ่งแบรนด์นี้ ก็มีช็อปประจำอยู่ที่ประเทศไทยด้วย
นอกจากที่เมืองฮิโรชิมะ จะเป็นต้นกำเนิดของแบรนด์ต่าง ๆ แล้ว
เมืองฮิโรชิมะ ก็ยังเป็นสถานที่ชุบตัว และเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ดังในระดับโลกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- Daiso
ร้านขายสินค้าเริ่มต้น 60 บาท ที่เรารู้จักกันดีในประเทศไทย
ก่อตั้งโดยคุณยาโน ฮิโรทาเกะ ในปี 1972
แรกเริ่ม Daiso มาจากการเป็นร้านขายของท้ายรถธรรมดา ๆ ในเมืองทากามัตสึ โดยเน้นขายของใช้ที่มีคุณภาพในราคาถูกเพียง 100 เยน
เมื่อร้านขายของท้ายรถประสบความสำเร็จอย่างมาก คุณยาโน ฮิโรทาเกะ
จึงได้ขยับขยาย มาเป็นการเปิดร้าน Daiso ของตัวเองเป็นร้านแรก ก่อนที่จะขยายไปยังทั่วประเทศ และทั่วโลกในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน Daiso มีจำนวนร้านค้าอยู่มากกว่า 6,000 ร้านใน 27 ประเทศทั่วโลก
และเมืองฮิโรชิมะ ถูกเลือกให้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ Daiso
- Uniqlo
แบรนด์เสื้อผ้า Casual Wear อันดับ 1 ของโลก ก่อตั้งโดยคุณทาดาชิ ยานาอิ
โดย Uniqlo ได้เริ่มต้นมาจากร้านตัดสูทดั้งเดิมของคุณพ่อชื่อ Ogori Shoji ในจังหวัดยามากูจิ ใกล้ ๆ กับจังหวัดฮิโรชิมะ
จากร้านตัดสูท ก็นำมาสู่ไอเดียในการทำธุรกิจปั้นแบรนด์เสื้อผ้าแนว Casual Wear ซึ่งเป็นเสื้อผ้าคุณภาพดี ที่สามารถใส่ได้ในทุก ๆ วัน
โดยร้าน Uniqlo ก็ได้ทดลองเปิดร้าน Casual Wear สาขาแรกชื่อร้านว่า Unique Clothing ที่เมืองฮิโรชิมะในปี 1984 และประสบความสำเร็จอย่างมาก
ปัจจุบันแบรนด์เสื้อผ้า Uniqlo กลายเป็นแบรนด์เสื้อผ้า Casual Wear ที่แมสมาก ๆ
จนมีสาขารวมกันมากกว่า 2,400 สาขาทั่วโลก
และบริษัทก็เติบโตจนมีมูลค่ามากถึง 3,400,000 ล้านบาท
ทั้งหมดนี้ ก็เป็นเรื่องราวของฮิโรชิมะ เมืองที่ผู้คนในอดีต เต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากสงคราม
แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ พยายามฟื้นฟู สร้างใหม่ ไม่ยอมแพ้ แบบคนญี่ปุ่น
ก็สามารถทำให้เมืองนี้ กลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของหลายแบรนด์ดัง ๆ ระดับโลกได้อย่างภาคภูมิ
ถ้าฟ้าหลังฝน มันสวยงาม.. ฮิโรชิมะ ก็คงเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน..
References
- 28
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
