อะไรทำให้ประเทศหนึ่ง รุ่งเรืองและล่มสลาย?
สรุปบางส่วนจากหนังสือ Changing World Order 8 ปัจจัยที่กำหนดชะตาของทุกประเทศ
📈 ประเทศไทยจะถึงคราวล่มสลายหรือไม่? ไม่มีใครรู้
แต่ก่อนที่จะตอบคำถามนี้ได้ เราต้องรู้ก่อนว่า "อะไร" ที่ทำให้ประเทศหนึ่งๆ สามารถรุ่งเรืองและล่มสลายได้ครับ
ในช่วงที่ผ่านมา เรากลัวกันมากว่าด้วยปัญหาต่างๆ ที่สั่งสม ทั้งการเมืองในประเทศ การคอรัปชั่น การเมืองระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ จะทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ขาลง บางคนอาจบอกว่าเรากำลังอยู่ในช่วงขาลงแล้วด้วยซ้ำไป
แต่การที่จะบอกได้ว่าเราอยู่ในช่วงขาลงหรือไม่ ประเทศจะล่มสลายจริงไหม ไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้ดีไปกว่าคุณ เรย์ ดาลิโอ (Ray Dalio)
ทุกวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักคุณเรย์
เพราะเขาคือหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเรื่องเศรษฐกิจอันดับต้นๆ ของโลก ก่อตั้งกองทุนระดับแสนล้านดอลลาร์ และใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ ว่าอะไรที่ทำให้ประเทศหนึ่งรุ่งเรืองและล่มสลาย
คุณเรย์เขียนไว้ในหนังสือ Changing World Order ว่า ปัจจัยที่กำหนดชะตาของทุกประเทศ ประกอบด้วยปัจจัย 8 อย่าง
ซึ่งปัจจัยทั้ง 8 อย่าง เคยทำให้หลายประเทศก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจ ทำให้ตอนนี้สหรัฐฯ เป็นมหาอำนาจ
แต่มันก็มีความเป็น "วัฏจักร" เพราะไม่มีประเทศใดรุ่งเรืองได้อย่างถาวร แม้กระทั่งสหรัฐฯ ตอนนี้ก็ด้วย
คุณเรย์ไม่ได้บอกโดยตรงว่าประเทศไทยจะล่มสลายจริงไหม
แต่จากข้อมูลในหนังสือเล่มนี้ เราต้องตัดสินใจกันเองว่าเรากำลังอยู่ตรงไหนของวัฏจักรกันแน่
วันนี้เลยนำข้อมูลสรุปแก่นสำคัญบางส่วนของเนื้อหาในหนังสือ Changing World Order มาให้อ่านฟรีกันว่าอะไรที่ทำให้ประเทศหนึ่งรุ่งเรืองและล่มสลายได้ (สามารถดูภาพประกอบได้ที่ลิงก์อ้างอิงนะครับ)
1) ระเบียบอำนาจโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่เคยเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเรา แต่เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์
2) สิ่งสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อคนส่วนใหญ่ในทุกประเทศคือความดิ้นรนเพื่อสร้าง ได้มา และกระจายความมั่งคั่งและอำนาจ
3) คนมั่งคั่งที่ครอบครองปัจจัยการสร้างความมั่งคั่งมักร่วมมือกับผู้มีอำนาจทางการเมืองเพื่อกำหนดและบังคับใช้กฎเกณฑ์ต่างๆ
4) พลวัตนี้ทำให้คนกลุ่มเล็กควบคุมความมั่งคั่งและอำนาจส่วนใหญ่ จนเกิดช่วงเวลาเลวร้ายที่สร้างความเสียหายต่อคนยากจน นำไปสู่ความขัดแย้ง ปฏิวัติ และสงครามกลางเมือง
5) วัฏจักรหลักที่สำคัญมี 3 วัฏจักร คือ วัฏจักรหนี้ระยะยาวและตลาดทุน วัฏจักรความเป็นระเบียบและความโกลาหลภายใน และวัฏจักรความเป็นระเบียบและความโกลาหลภายนอก
6) ศักยภาพการผลิตของมนุษย์เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ยกระดับความมั่งคั่ง อำนาจ และคุณภาพชีวิตโดยรวมขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
7) การเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพการผลิตทำให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และรวดเร็วมาจากความเฟื่องฟู การล่มสลาย การปฏิวัติ และสงคราม
8 ) ประเทศที่มีการออมสูง หนี้ต่ำ และมีเงินทุนสำรองแข็งแกร่ง สามารถต้านทานการพังทลายของเศรษฐกิจได้ดีกว่าประเทศที่มีการออมน้อย หนี้สูง และเงินทุนสำรองอ่อนแอ
9) จีนเคยเรืองอำนาจเป็นเวลาหลายร้อยปี โดยเหนือกว่ายุโรปทั้งในด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ก่อนเข้าสู่ช่วงเสื่อมถอยอย่างมากตั้งแต่ศตวรรษ 1800
10) เนเธอแลนด์ แม้เป็นประเทศขนาดเล็ก แต่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นประเทศเจ้าของสกุลเงินสำรองหลักในช่วงศตวรรษ 1600
11) อังกฤษตามรอยเนเธอแลนด์ในรูปแบบคล้ายๆ กัน และรุ่งเรืองที่สุดในช่วงศตวรรษ 1800
12) สหรัฐฯ ผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจโลกในช่วง 150 ปีล่าสุด โดยเด่นชัดในช่วงระหว่างและหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
13) ปัจจุบันสหรัฐฯ เริ่มเสื่อมถอย ในขณะที่จีนกำลังผงาดขึ้นอีกครั้ง
14) ประเทศมหาอำนาจไม่จำเป็นต้องเป็นประเทศที่ดีที่สุดเสมอไป เพราะบางประเทศอาจไม่ได้มองว่าความมั่งคั่งและอำนาจสำคัญที่สุด จึงไม่ได้แข่งขันเพื่อสิ่งเหล่านี้
15) มีปัจจัย 8 อย่างที่กำหนดความมั่งคั่งและอำนาจ คือ การศึกษา ความสามารถการแข่งขัน นวัตกรรมและเทคโนโลยี ผลผลิตทางเศรษฐกิจ ส่วนแบ่งการค้าโลก ความเข้มแข็งทางทหาร ความเข้มแข็งในการเป็นศูนย์กลางการเงิน และสถานะการเป็นสกุลเงินสำรองหลัก
16) วัฏจักรของประเทศมหาอำนาจมี 3 ช่วง คือ การผงาด จุดสูงสุดของอำนาจ และการเสื่อมอำนาจ
17) ช่วงการผงาดเกิดเมื่อประเทศมีผู้นำเข้มแข็ง การศึกษาดี มีนวัตกรรม เปิดรับความคิดที่ดี และทุกภาคส่วนทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น
18) ช่วงจุดสูงสุดของอำนาจมีลักษณะของความมากเกินพอดี มีหนี้สูง ช่องว่างความมั่งคั่งมาก การศึกษาและโครงสร้างพื้นฐานเสื่อมโทรม และมีความขัดแย้งระหว่างชนชั้น
19) ช่วงเสื่อมอำนาจเกิดเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว มีการผิดนัดชำระหนี้ การพิมพ์เงินจำนวนมาก เกิดความขัดแย้งรุนแรงภายในประเทศระหว่างคนรวยและคนจน และมักนำไปสู่การปฏิวัติหรือสงครามกลางเมือง
20) ประเทศที่เสื่อมอำนาจมักเผชิญความท้าทายจากมหาอำนาจใหม่ ต้องตัดสินใจว่าจะสู้หรือถอย เศรษฐกิจอ่อนแอทำให้การแย่งชิงทรัพยากรรุนแรงขึ้น จนอาจนำไปสู่สงคราม
21) เมื่อผู้ถือสกุลเงินสำรองหลักและหนี้ของจักรวรรดิที่กำลังเสื่อมถอยสูญเสียความเชื่อมั่นและขายทิ้ง นั่นคือการจบรอบวัฏจักรครั้งใหญ่
แต่ถ้าใครอยากอ่านแบบละเอียด อยากเข้าใจความเป็นไปของประเทศหนึ่งๆ ว่าปัจจัยแต่ละอย่างส่งผลกับประเทศยังไง และจะเตรียมตัวรับมือ "วัฏจักร" ยังไง
สามารถติดตามอ่านกันได้ในหนังสือ "Changing World Order” เลยครับ
- ทีมงานสนพ. Investing
#aomMONEY #MakeRichGeneration #การเงินการลงทุน #RayDalio #WorldChangingOrder #NationFaiils
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
