24 พ.ค. เวลา 07:23 • ความคิดเห็น
1. ตระหนักไว้เสมอว่า "แม่ก็คือแม่" และเราไม่จำเป็นต้องถกเถียงเพื่อเอาชนะ หรือเพื่อสอนแม่ แม่ก็ไม่ต่างจากเจ้านาย เวลาที่คุณต้องไปทำงานเป็นลูกจ้าง หากไม่มีหัวหน้าคอยควบคุมคุณ ก็ต้องมีฝ่ายบุคคล หรือไม่ก็เจ้านายคอยควบคุมความประพฤติคุณอยู่เป็นปกติ คำถามคือคุณกล้าเถียงเจ้านายไหม? เคยเถียงเจ้านายชนะไหมคะ? นี่เรายังไม่พูดถึงกรณีคุณมี "คนรัก" ซึ่งท้ายที่สุดพวกเราก็มักจะยอมให้คนรักคอยควบคุมเราตลอดเวลา จริงไหมคะ? ยอมได้ที่จะให้คนรักเอาเปรียบ พวกเราก็มักเป็นแบบนี้....
2. ลองใคร่ครวญว่า อะไรทำให้แม่เป็นแบบนั้น แม่เครียดอะไรอยู่ไหม แม่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือเปล่า แม่ต้องทำงานหนักตลอดเวลาเพียงคนเดียวหรือไม่ แม่เป็นผู้นำในบ้านหรืออย่างไร นี่ยังไม่นับรวม "ประวัติชีวิตของแม่ ที่คุณอาจไม่เคยได้ล่วงรู้" ว่าแม่อาจมีโชคชะตาที่ไม่สู้ดีนัก เหล่านี้ล้วนมีผลต่อความคิด ทัศนคติและอุปนิสัยของแม่ทั้งสิ้น
3. อุปนิสัยแม่ทั้งหมดที่คุณเล่ามา ลองตรองดูให้ดีค่ะ มันเป็นอุปนิสัยของผู้มีความวิตกกังวลสูงมาก แม่กำลังหวาดกลัว กลัวการสูญเสียอำนาจการควบคุม แม่กำลังกลัวที่จะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไร้คนสนใจ มันอาจมีคุณเพียงคนเดียวที่จำต้องใกล้ชิดแม่ คุณก็เลยต้องรับแรงกระแทก แต่....
เทคนิคคือลองหยุดตัวเองให้ได้
หยุดเถียง ไม่ตอบ ไม่สอน ไม่อธิบาย
ไม่ให้เหตุผลอะไรใดๆ วางสีหน้าราบเรียบ แต่ไม่บึ้งตึง
ถ้าแม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือ ให้หนีออกจากตรงนั้นก่อน
วันไหนที่สังเกตว่า แม่อยู่ในอารมณ์คงที่
ลองซื้อขนมที่แม่ชอบไปยื่นให้ แล้วบอกว่า
"แม่,หนูรักแม่นะ" แค่นี้เลยค่ะ เราก็เคยใช้วิธีนี้
.....แต่เราพูดว่า....
"ม๊า..Eing รักม๊านะ ซื้อหนมมาฝาก"
ย้ำอีกครั้ง "หยุดเป็นตัวสำเร็จ"
ถ้าคุณยังโต้ใส่แม่ไม่ยั้ง มันจะเกิดแรงผลักทันทีค่ะ
โฆษณา