24 พ.ค. เวลา 14:50 • ข่าวรอบโลก

เปลี่ยนเส้นทางน้ำจากแม่น้ำในไซบีเรียที่ปกติไหลลงเหนือ ไปไหลลงใต้ด้วยหัวรบ

ทุกคน วันนี้เรามีเรื่องสุดปั่นมาเล่าให้ฟัง คือเรื่องมันเริ่มมาจากว่า ตอนเรานั่งดูหนังไอ้พวกสายลับรัสเซียอะ แล้วมันชอบมีฉากอลังการงานสร้าง เราก็คิดว่ามันเวอร์ไปป่าววะ แต่พอมาเจอเรื่องจริงของอดีตสหภาพโซเวียตเท่านั้นแหละ… โธ่เอ๊ย! ไอ้ยอดมนุษย์ในหนังยังต้องชิดซ้าย!
รู้กันไหมว่าสมัยปี 70s โซเวียตแม่งบ้าพลังขนาดไหน? คือพี่แกอยากจะเปลี่ยนเส้นทางน้ำจากแม่น้ำในไซบีเรียที่ปกติไหลลงเหนือ ไปไหลลงใต้เว้ย! มึงคิดดูดิ! แค่เราจะตักน้ำจากกะละมังเทลงกระถางต้นไม้ยังหก แต่นี่พี่แกจะเปลี่ยนทิศทางแม่น้ำทั้งสาย! คือตอนแรกเราก็นึกว่านี่มันแผนการร้ายของ Dr. Evil ใน Austin Powers รึเปล่า จะยึดครองโลกด้วยการเปลี่ยนทิศน้ำอะไรแบบนั้น แต่เปล่าเลย! นี่มันเรื่องจริง!
และไอ้โปรเจกต์บ้าพลังอันหนึ่งเนี่ย มันก็คือการสร้าง 'Nuclear Lake' หรือทะเลสาบนิวเคลียร์นี่แหละครับทุกคน! ฟังไม่ผิดหรอกครับ 'นิวเคลียร์' คือพี่แกเล่นเอาหัวรบนิวเคลียร์ไปฝังใต้ดิน 127 เมตร แล้วจุดพร้อมกัน 3 ลูก! บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม! อย่างกับฉากระเบิดในหนังฮอลลีวูด
แต่นี่มันคือการสร้างคลอง! เพื่อเชื่อมแม่น้ำ Pechora กับ Kama แล้วจะผันน้ำไปเลี้ยงพื้นที่แล้งๆ ทางตอนกลางของเอเชียและรัสเซียใต้ มึงคิดดูดิ ความคิดสร้างสรรค์ระดับไหนวะเนี่ย! คือถ้ามีรางวัลอัจฉริยะในการหาเรื่องบ้าพลังให้ตัวเอง โซเวียตคงกวาดเรียบทุกสาขา
แล้วผลเป็นไงรู้ปะ? ปี 1971 วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พี่แกก็กดปุ่ม! “3, 2, 1, 0… บึ้มมมมมมมม!” เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว ดินน้ำกระจายไปทั่วโลก! ความแรงแต่ละลูกพอๆ กับระเบิดฮิโรชิม่าเลยนะเว้ย! คือแค่นึกภาพก็ขนลุกแล้ว และใช่ครับ! แม่งดังไปถึงอเมริกา กับสวีเดน จนโดนฟ้องร้องไปเลยทีเดียว ข้อหาละเมิดสนธิสัญญาห้ามทดลองอาวุธนิวเคลียร์ แบบว่า 'มึงทำอะไรของมึงวะเนี่ย!'
แต่ที่พีคกว่านั้นคือ ไอ้นักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในเหตุการณ์อย่าง Leonid Volkov ยังบอกว่า 'มันเป็นภาพที่น่าประทับใจ' โอโห! พี่ครับ! ถ้าเป็นหนังนี่คือตัวละครที่โดนไล่ไปรักษาอาการทางจิตแล้วนะครับ! คือคนธรรมดาอย่างเราๆ ได้ยินเสียงจุดดอกไม้ไฟยังสะดุ้ง แต่นี่พี่แกเล่นระเบิดนิวเคลียร์ แล้วบอก 'น่าประทับใจ' นี่มันระดับ Terminator ชัดๆ!
แล้วไอ้การระเบิดครั้งนี้เนี่ย ตั้งใจจะใช้ขุดคลองเว้ย! แต่ผลลัพธ์คือ หลุมที่เกิดจากการระเบิดมันไม่ใหญ่พอที่จะเป็นคลองอย่างที่ตั้งใจไว้! คือระเบิดซะขนาดนั้น แต่ทำได้แค่นั้นเอง! เหมือนกับตอนที่เราพยายามจะยกของหนักๆ เพื่อโชว์พาว แต่สุดท้ายก็ยกไม่ขึ้นนั่นแหละ! สุดท้ายไอ้แม่น้ำ Pechora ก็ยังไหลลงมหาสมุทรอาร์กติกตามเดิม ไม่ได้เปลี่ยนทิศไปไหนเลย!
50 ปีผ่านไป ไอ้ Nuclear Lake นี่ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแปลกๆ ที่ต้องเดินเท้าลุยป่า พลางป้ายเตือนรังสีก็ขึ้นสนิม มันดูเหมือนฉากใน The Last of Us ที่ทุกอย่างมันพังพินาศ แต่ธรรมชาติกลับเข้ามายึดคืน นาย Andrei Fadeev บล็อกเกอร์สายลุยแกไปมาเมื่อปีที่แล้ว แกบอกว่า 'น้ำใสแจ๋ว'
แถมยังรู้สึกว่า 'ป่าไซบีเรียกลับมาครอบครองพื้นที่' ทั้งๆ ที่เครื่องวัดรังสีแกก็ร้องจี๊ดๆ อยู่บางจุด แบบว่า 'พี่ครับ! นี่ยูยังยิ้มได้อีกเหรอครับ! รังสีมันฟ้องนะครับ!' แต่แกก็บอกว่า 'ไม่เห็นมีบรรยากาศคุกคามอะไร' เรานี่อยากจะบอกว่า 'พี่ครับ! บางทีพี่อาจจะกลายเป็นฮัลค์ไปแล้วก็ได้นะครับ!'
ทำไมต้องเปลี่ยนทิศน้ำ?
แต่ก่อนอื่น เราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่าทำไมโซเวียตถึงอยากเปลี่ยนทิศทางแม่น้ำกันนักหนา? คือไอเดียนี้มันมีมาเป็นร้อยปีแล้วนะ ตั้งแต่สมัยซาร์นู่น! มีนักเขียนคนหนึ่งชื่อ Igor Demchenko เสนอว่าให้ท่วมที่ลุ่ม Aral-Caspian เพื่อปรับปรุงสภาพภูมิอากาศ! โอ้โห! นี่มันไม่ใช่แค่การผันน้ำแล้วนะ นี่มันระดับ Terraforming โลกเลยนะนั่น! คือมันเป็นความคิดที่ยิ่งใหญ่ แบบที่ Thanos อยากจะดีดนิ้วล้างโลกเพื่อสร้างสมดุล แต่โซเวียตอยากเปลี่ยนทิศทางน้ำเพื่อพัฒนาการเกษตร!
แนวคิดหลักๆ เลยก็คือ น้ำมหาศาลที่ไหลลงมหาสมุทรอาร์กติกมัน 'ไม่มีประโยชน์' สำหรับพี่แกไง! เหมือนกับมีเพชรเม็ดใหญ่ๆ อยู่ตรงหน้า แต่ใช้ไม่เป็น ก็เลยอยากจะเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่เกษตรกรรมทางใต้ที่มีประชากรเยอะกว่า คือมันเป็นความคิดที่ 'ใหญ่' มากๆ และมันก็ตอบโจทย์อุดมการณ์สังคมนิยมที่เชื่อว่ามนุษย์สามารถควบคุมธรรมชาติได้ เพื่อสร้างสังคมที่สมบูรณ์แบบ มันคือโปรเจกต์แสดงแสนยานุภาพในช่วงสงครามเย็น ที่จะบอกตะวันตกว่า 'พวกเรานี่แหละของจริง! ไม่ได้มาเล่นๆ!'
แล้วมันก็มีนักวิชาการบางคนเสนอว่า การลดน้ำอุ่นที่ไหลลงอาร์กติกอาจช่วยบรรเทาภาวะโลกร้อนได้! คือเราอ่านแล้วก็แบบว่า 'อะไรวะเนี่ย!' ถ้ามันง่ายขนาดนั้นจริง ป่านนี้เราคงได้เห็น Captain Planet ออกมาเต้นแร้งเต้นกาฉลองแล้วมั้ง! แต่ศาสตราจารย์ Tom Rippeth แกบอกเลยว่า 'ถ้าไปกวนสมดุลธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจมันเยอะมาก' คือแกวิเคราะห์แล้วว่ามันจะทำให้น้ำอุ่นขึ้นและเค็มขึ้นในอาร์กติก และเร่งการละลายของน้ำแข็งทะเล! เราว่าจริง! อย่างที่เขาว่ากันว่า 'อย่าหาทำ!'
โปรเจกต์ที่ยังไม่จบ
แต่ทุกคนเชื่อมั้ย? แม้โปรเจกต์นี้จะถูกยกเลิกไปในปี 1986 โดยกอร์บาชอฟ อาจจะเพราะปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเสียงคัดค้านจากนักวิทยาศาสตร์ที่มองว่ามันจะสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาล หรือเพราะเงินหมดจากวิกฤตราคาน้ำมันตกต่ำ รวมถึงหายนะเชอร์โนบิลที่ทำให้คนหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (คือแบบว่า 'นิวเคลียร์แม่งน่ากลัวจริงๆ ว่ะ!' หลังจากที่ก่อนหน้านี้คิดว่ามันเจ๋ง!) แต่ไอ้ความคิดที่ว่า 'กูต้องผันน้ำให้ได้!' มันก็ยังไม่ตายไปจากใจพวกรัสเซีย!
ย้อนไปปี 2008 อดีตนายกเทศมนตรีมอสโก Yuri Luzhkov ยังเขียนหนังสือเชียร์ให้ผันน้ำไซบีเรียไปเอเชียกลางอยู่เลย! แล้วเมื่อไม่นานมานี้เอง เดือนกุมภาพันธ์ 2025 (ซึ่งสำหรับเราตอนนี้ก็คือ 'อนาคตอันใกล้') ยังมีนักวิทยาศาสตร์รัสเซีย 2 คนเขียนบทความว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่มันทำให้การผันน้ำทำได้จริงมากขึ้น และมันสอดคล้องกับนโยบาย 'หันไปทางตะวันออก' ของมอสโกด้วย!
เราอ่านแล้วก็แบบว่า 'โอ้ยยยย! นี่มันยังไม่จบอีกเหรอเนี่ย!' คือมันเหมือนกับไอ้ตัวร้ายในหนังที่ไม่ว่าจะแพ้ไปกี่ภาค มันก็จะกลับมาด้วยแผนการใหม่ที่ร้ายกาจกว่าเดิม! Professor Paul Josephson นักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันแกยังทำนายเลยว่า 'โครงการนี้จะไม่มีวันตาย'
แล้วแกก็คิดว่ารัสเซียอาจจะจับมือกับจีนในการผันน้ำจากไซบีเรียข้ามพรมแดนไปให้จีน! โอ้โห! นี่มันจะเป็นโปรเจกต์ 'ผันน้ำโลก' แล้วนะ! ถ้าเป็นไปได้จริงคงเหมือนกับตอนที่ Darth Vader บอก Luke Skywalker ว่า 'ฉันคือพ่อของแก' นั่นแหละ! พีคกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!
บทสรุป
สรุปแล้วนะทุกคน เราว่าไอ้เรื่องผันน้ำนี่มันเป็นตัวสะท้อนความคิดของมนุษย์ได้ดีเลยนะ บางทีเราก็เชื่อมั่นในเทคโนโลยีและความสามารถของตัวเองมากเกินไป จนลืมไปว่าธรรมชาติมันมีสมดุลของมันอยู่
การไปยุ่งกับมันแบบบ้าบิ่น อาจจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เราคาดไม่ถึง เหมือนกับที่เราดูหนังแล้วเห็นตัวละครที่คิดว่าตัวเองเก่งกาจเหนือใคร แต่สุดท้ายก็โดนธรรมชาติเอาคืนนั่นแหละ! คือจะทำอะไรก็ให้คิดหน้าคิดหลังดีๆ นะ อย่าให้เหมือนพี่โซเวียตในอดีตนะเว้ย!"
โฆษณา