24 พ.ค. เวลา 16:04 • ข่าวรอบโลก

เรื่องที่โคตรจะจริงจัง แต่ฟังแล้วโคตรฮา คือเรื่อง "ขโมยลม"

ถึงทุกคน... วันนี้เราจะมาคุยเรื่องที่โคตรจะจริงจัง แต่ฟังแล้วโคตรฮา คือเรื่อง "ขโมยลม" ฟังดูเหมือนหนังจีนกำลังภายในใช่ปะ? แบบว่า "ยอดฝีมือวายุทมิฬ ดูดลมปราณอีกฝ่ายไปหมดสิ้น!" แต่เดี๋ยวก่อน... นี่มันเรื่องจริงในโลกของกังหันลมยักษ์เว้ยแก!
คืออย่างงี้... ทุกคนรู้ดีว่าโลกเรากำลังวิ่งเข้าหา Net Zero แบบสุดติ่งกระดิ่งแมว คือลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ให้ได้ แล้วพลังงานลมเนี่ยแหละคือหนึ่งในพระเอกหลัก โดยเฉพาะกังหันลมยักษ์ที่ตั้งอยู่กลางทะเลอะนะ แต่ปัญหามันเกิดเว้ย!
ไอ้เจ้ากังหันลมเนี่ย พอหมุนปั่นไฟ มันก็ดูดพลังงานจากลมไปใช่ปะ? ทีนี้ลมที่อยู่ข้างหลังกังหันแต่ละตัวมันก็จะช้าลง แล้วพอเป็นวินด์ฟาร์มใหญ่ๆ ที่มีกังหันเป็นร้อยๆ ตัวเนี่ย ลมที่ออกมาจากวินด์ฟาร์มทั้งชุดมันก็จะช้าลงไปอีก ไอ้ปรากฏการณ์นี้เขาเรียกว่า "Wake Effect" หรือถ้าจะให้ฮาคือ "ลมหมดแรง" นั่นเอง!
แล้วไอ้ลมหมดแรงเนี่ย มันไม่ใช่แค่ลมพัดแผ่วๆ เหมือนพัดลมเบอร์ 1 นะเว้ย แต่มันสามารถพัดไปได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตรเลยนะทุกคน! คือถ้าไปตั้งวินด์ฟาร์มอีกอันอยู่ใต้ลมไอ้วินด์ฟาร์มอันแรกเนี่ยนะ พลังงานที่ผลิตได้จะหายไปเป็น 10% หรืออาจจะมากกว่านั้นอีก!
ฟังดูเหมือนลมโดนขโมยไปใช่ปะ? เขาถึงเรียกกันติดปากว่า "Wind Theft" หรือ "ขโมยลม" แต่พี่ทนายคนนึงบอกว่า "ลมมันไม่มีเจ้าของโว้ย จะขโมยได้ไง?" เออ... ก็จริงของเขาอะนะ แต่ถึงจะขโมยไม่ได้ มันก็สร้างปัญหาให้เจ้าของวินด์ฟาร์มปวดกบาลกันเป็นแถว! เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะมันกระทบต่อผลผลิตไง! ผลิตได้น้อยลง เงินก็ได้น้อยลง ทีนี้ล่ะเรื่องใหญ่เลย!
ไอ้เรื่อง Wake Effect เนี่ยไม่ใช่เรื่องใหม่หรอกนะ แต่มันมาแรงแซงโค้งในช่วงหลังๆ เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะเรากำลังสร้างวินด์ฟาร์มกันเยอะขึ้น ใหญ่ขึ้น แถมยังอัดแน่นกันเหมือนปลากระป๋องอีกต่างหาก! คือในอีกไม่ถึง 5 ปีเนี่ย เราต้องสร้างกังหันลมเพิ่มอีกเป็นพันๆ ตัวเลยนะทุกคน ลองนึกภาพดูดิ เหมือนคนเยอะๆ อัดกันในลิฟต์อะ ออกซิเจนก็ไม่พอ ลมก็ไม่พอ!
อาจารย์ Pablo Ouro จากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์แกบอกว่า "เราเห็นผลกระทบจาก Wake Effect มาหลายปีแล้วก็รู้ว่ามันเกิดขึ้นจริง" แต่ปัญหาคือจะทำยังไงให้ได้พลังงานลมตามเป้าหมาย Net Zero ในเมื่อกังหันมันจะยืนเบียดกันจนลมไม่พอหายใจ!
ในอังกฤษตอนนี้ก็มีกรณีพิพาทเรื่องลมหมดแรงกันเพียบเลยนะทุกคน เหมือนนักเลงตีกันแย่งถิ่นเลยอะ! อาจารย์ Ouro แกบอกว่าบางทีระยะห่างของวินด์ฟาร์มที่ตั้งไว้ตอนนี้มันอาจจะไม่พอแล้วก็ได้ เพราะ Wake Effect มันไปได้ไกลกว่าที่คิด แล้วที่สำคัญคือกังหันมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ใบพัดนี่บางตัวยาวกว่าสนามฟุตบอลอีก! ยิ่งใหญ่ยิ่งกวนลมเยอะเว้ย!
ปัญหาไม่ได้อยู่แค่ในประเทศนะเว้ย มันข้ามประเทศได้ด้วยนะ! ลองนึกภาพวินด์ฟาร์มนอร์เวย์ไปดูดลมเดนมาร์กงี้ โอ้โห... เรื่องใหญ่ระดับชาติเลยนะเนี่ย! เหมือนเราเล่นเกมแล้วเพื่อนร่วมทีมแย่งไอเทมดีๆ ไปหมดอะ!
แล้วทำไมเรื่องนี้มันถึงสำคัญนักน่ะเหรอ? ก็เพราะการสร้างวินด์ฟาร์มนี่มันลงทุนมหาศาลเว้ยทุกคน เหมือนสร้างอาณาจักรเลยอะ! ถ้าพลังงานที่ได้ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ มันก็เจ๊งดิ! แล้วถ้าแต่ละประเทศพยายามจะแย่งทำเลทองกันหมด มันก็กลายเป็น "Race to the water" หรือ "ใครเร็วกว่าได้เปรียบ" แล้วมันจะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลได้อีกนะ! เหมือนเราจะไปเก็บเห็ดแล้วรีบวิ่งไปแย่งก่อนเพื่อนอะ!
แต่โชคดีที่ประเทศแถบยุโรปเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนะ อย่างน้อยก็ยังมีสติที่จะคุยกันได้! คือทุกคนรู้ว่าต้องรีบทำเรื่องพลังงานสะอาด แต่ก็ต้องหาทางออกที่ดีที่สุดให้ได้ด้วย เพราะมันไม่เป็นประโยชน์กับใครเลยที่จะมานั่งทะเลาะกันเรื่องลม! คิดดูดิ เหมือนโดเรมอนกับโนบิตะแย่งของวิเศษกันอะ สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้อะไรเลย!
อาจารย์ Ouro บอกว่าหลังจากที่ประกาศโครงการวิจัยเรื่อง Wake Effect ไป ก็มีคนติดต่อมาเพียบเลย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปัญหานี้มันเร่งด่วนแค่ไหน! คือเราต้องเข้าใจเรื่องนี้ให้ถ่องแท้ พัฒนาโมเดลให้แม่นยำ เพราะเราต้องการพลังงานลมจากทะเลจำนวนมหาศาลเพื่อไปสู่ Net Zero ให้ได้!
สรุปง่ายๆ คือ... ลมมันไม่ใช่ของใคร แต่มันก็สร้างปัญหาให้คนอื่นได้นะเว้ย! เหมือนกับที่เราขยับตัวเยอะๆ แล้วไปเบียดคนอื่นในที่แคบๆ นั่นแหละ! เพราะฉะนั้น... ก่อนจะสร้างวินด์ฟาร์มใหญ่ๆ อลังการงานสร้าง เราก็ต้องคิดถึงเพื่อนบ้านบ้างนะทุกคน ไม่งั้นลมไม่พอใช้กันทั้งแถบแน่! หวังว่าทุกคนจะได้สาระไปไม่มากก็น้อยนะเว้ย! ไปละ! บาย!
โฆษณา