25 พ.ค. เวลา 06:48

ถังสองใบ

ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง มีชายชราผู้หนึ่งชื่อว่า ลุงมี ลุงมีมีอาชีพหาบน้ำจากลำธารกลับไปที่บ้านของท่านทุกวัน โดยใช้ถังไม้สองใบหาบไว้บนบ่า
วันหนึ่ง ลุงมีสังเกตเห็นว่า ถังใบหนึ่งมีรอยรั่ว ทำให้ระหว่างทางที่หาบน้ำกลับบ้าน น้ำจะหยดหายไปเรื่อย ๆ จนเมื่อไปถึงบ้าน น้ำในถังใบที่รั่วจะเหลือน้อยกว่าอีกใบหนึ่งเสมอ ลุงมีพยายามหาวิธีซ่อมแซมแต่ก็ไม่สำเร็จ
ทุกวันลุงมีก็ยังคงหาบน้ำด้วยถังสองใบนี้ต่อไป โดยที่ถังใบที่รั่วก็ยังคงรั่วอยู่เช่นเดิม แต่ลุงมีก็ไม่ได้ย่อท้อ ท่านยังคงทำหน้าที่ของท่านอย่างสม่ำเสมอ
วันหนึ่ง เพื่อนบ้านได้ทักท้วงลุงมีว่า "ลุงมีน่าจะหาถังใบใหม่ได้แล้วนะ ดูสิ ถังใบนั้นรั่วไปหมดแล้ว น้ำก็หกเสียของเปล่า ๆ" ลุงมีเพียงยิ้มและตอบว่า "จริงอยู่ที่ถังใบนี้รั่ว แต่ก็มีประโยชน์ในแบบของมันนะ"
เพื่อนบ้านสงสัยจึงถามกลับไปว่า "ประโยชน์อะไรกันลุงมี น้ำมันรั่วหายไปตั้งเยอะแยะ"
ลุงมีจึงพาเพื่อนบ้านเดินกลับบ้านพร้อมกับท่าน และระหว่างทาง ลุงมีก็ชี้ให้เห็นว่า บริเวณที่น้ำจากถังใบที่รั่วหยดลงไปนั้น ต้นไม้ ดอกไม้ และพืชพรรณต่าง ๆ เจริญงอกงาม เขียวขจี แตกต่างจากอีกฝั่งหนึ่งที่น้ำไม่เคยหยดถึงเลย
ลุงมีอธิบายว่า "ถังใบที่รั่วนี้ ถึงแม้มันจะกักเก็บน้ำได้ไม่เต็มที่ แต่มันก็ได้แบ่งปันน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นไม้และดอกไม้เหล่านี้ ทำให้ข้างทางที่เราเดินมีชีวิตชีวาและสวยงาม"
เรื่องเล่าของลุงมีสอนให้เราเห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้มีคุณค่าและมีประโยชน์ในแบบของมันเอง แม้ว่าบางสิ่งอาจจะไม่สมบูรณ์แบบ หรือมีข้อบกพร่อง แต่หากเรามองในมุมที่ต่างออกไป เราก็จะเห็นถึงคุณค่าและความงามที่ซ่อนอยู่ได้เสมอ เหมือนกับถังที่รั่วของลุงมี ที่ถึงแม้จะเก็บน้ำได้ไม่เต็มที่ แต่ก็สร้างชีวิตชีวาให้กับดอกไม้ข้างทางได้นั่นเอง
นอกจากนี้ เรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบ และการมองหาข้อดีในสิ่งที่เรามีอยู่ แทนที่จะมุ่งแต่จะแก้ไขหรือแสวงหาสิ่งที่สมบูรณ์แบบอยู่เสมอ
โฆษณา