คุณทอยได้ให้นิยามของ "มนุษย์เป็ด" ในมุมมองของเขา ซึ่งได้รับอิทธิพลจากหนังสือ "How to be better at the most Everything" ว่าไม่ใช่แค่การรู้หลายอย่างแบบผิวเผิน แต่คือ "คนที่ทำได้หลายสกิล จะมีทักษะในการเอาตัวรอดได้ค่อนข้างดีกว่า ทริกมันคือการเอาสกิลหลายๆ อย่างที่เรามี มาใช้ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาสักอย่างหนึ่ง"
เขายกตัวอย่างรูปธรรมถึงการผสานทักษะการเขียนเข้ากับความรู้ด้านการตลาด จนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญในการทำ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งทำให้คอนเทนต์ของเขาติดอันดับต้นๆ บน Google ได้อย่างสม่ำเสมอ "เว็บไซต์ Toy DataRockie ตอนนี้ ถ้าเสิร์ช One Person Business ก็จะเห็นเป็นอันดับ 1-2"
เมื่อกล่าวถึงเทคโนโลยี AI ที่กำลังเป็นที่จับตามอง คุณทอยมีมุมมองที่ชัดเจนว่า AI คือเครื่องมืออันทรงพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษาและการพัฒนาตนเอง "สำหรับผม AI เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นผู้ช่วยเรา ไม่ใช่มาทดแทนเรา มนุษย์กับ AI สามารถเป็นเพื่อนอยู่ในโลกนี้ด้วยกันได้"
เขาเผยว่าตนเองใช้ AI "ช่วยหาข้อมูล ช่วยทำรีเสิร์ช ทำให้เราเก่งขึ้น" โดยมี prompt ประจำตัวคือ "Teach me" หรือ "Explain this concept to me" เพื่อให้ AI ช่วยสอนเรื่องใหม่ๆ "ถ้าเราให้มันสอนเราวันละ 1 เรื่อง ปีนั้นเราจะได้เรียน 365 เรื่องใหม่"
อย่างไรก็ตาม คุณทอยได้เตือนสติถึงการใช้ AI อย่างมีวิจารณญาณ "พอยต์ของผมคือ A ตัวแรก (ใน AI) ย่อมาจาก Artificial แปลว่าสำหรับผม Real Intelligence สำคัญกว่ามาก เราควรใช้ AI ยังไงเพื่อช่วยให้เราเก่งขึ้น" เขายกตัวอย่างสถานการณ์หากอินเทอร์เน็ตล่มแล้วไม่สามารถเข้าถึง AI ได้
จะทำให้การทำงานหยุดชะงักหรือไม่ "ถ้าวันหนึ่งไม่มี AI เราควรจะต้องทำงานสิ่งนั้นได้เหมือนเดิม" สำหรับประเทศไทย เขาเสนอว่า "การเป็น User ที่ดี เรียนรู้ทักษะการใช้งาน AI ให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ ก็น่าจะดีกว่าการพยายามสร้างโมเดล AI ของเราเองในทุกเรื่อง เพราะ Resource เราอาจไม่เท่าเขา"
คุณทอยยังชี้ให้เห็นถึงเจตนา (Intention) ในการใช้ AI ว่ามีความสำคัญ "Use case ที่สำคัญที่สุดของ AI คือการใช้เพื่อช่วยให้เราเก่งขึ้น เพื่อการศึกษา ไม่ใช่แค่เอาไปใช้ทำการตลาดสร้างรูปสวยๆ เพื่อดึงดูด Attention เพียงอย่างเดียว"