25 พ.ค. เวลา 14:14 • ปรัชญา

การอ่าน การเขียน และการเรียนรู้ เป็นทักษะและกระบวนการที่เชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง

ทอย กษิดิศ DataRockie พูดไว้น่าสนใจ
1. การเขียน (Writing)
ทักษะเปลี่ยนชีวิตและเปิดประตูสู่โอกาส คุณทอยเน้นย้ำว่าทักษะการเขียนคือ "สิ่งเดียวที่ได้กลับมา" อย่างเป็นรูปธรรมจากการไปเรียนต่อที่อังกฤษ และเป็นทักษะที่ทำให้เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ในเวลาต่อมา เขาเชื่อว่า "ยิ่งเราเขียนเก่งเท่าไหร่ เรายิ่งเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มากขึ้นเท่านั้น" การเขียนทำให้คนรู้จักผลงานและความคิดของเขามากขึ้น
เครื่องมือสะท้อนความเข้าใจที่แท้จริง (Writing as a tool for thinking) คุณทอยมองว่า "ถ้าเกิดเราเขียนสิ่งนั้นได้ แปลว่าเราเข้าใจสิ่งนั้นจริง" การที่ไม่สามารถเขียนอธิบายเรื่องใดเรื่องหนึ่งออกมาได้ อาจหมายความว่าเรายังไม่ได้เข้าใจเรื่องนั้นอย่างลึกซึ้งเพียงพอ
ทักษะเมตา (Meta-skill) เขาให้ความสำคัญกับการเขียนในฐานะทักษะพื้นฐานที่ช่วยปลดล็อกการเรียนรู้ทักษะอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น และเป็นเครื่องมือในการสื่อสารความคิด
การประยุกต์ใช้จริง ทักษะการเขียนเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างคอนเทนต์ให้กับ DataRockie และการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ
2. การอ่าน (Reading)
แหล่งความรู้และแรงบันดาลใจ การอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่สร้างอิทธิพลต่อความคิดและมุมมองของคุณทอย ดังที่เขากล่าวถึงหนังสือ "How to be better at the most Everything" ที่เปิดโลกทัศน์ของเขาเรื่องการเป็น "มนุษย์เป็ด"
ทักษะเมตาที่จำเป็น เช่นเดียวกับการเขียน คุณทอยมองว่าการอ่านเป็น "สกิลหนึ่งที่เราจำเป็นต้องมีติดตัว" เป็นทักษะพื้นฐานสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
เปลี่ยนการอ่านให้เป็นงานอดิเรก ไม่ใช่ภาระ เพื่อให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างยั่งยืน คุณทอยแนะนำให้มอง "การอ่านหนังสือเป็นงานอดิเรก เป็นฮอบบี้ เป็นการพักผ่อน" แทนที่จะมองว่าเป็นงานหรือการบ้านที่น่าเบื่อ
สร้างนิสัยการอ่าน แม้จะมีเวลาน้อย การอ่านเพียงวันละ 15 นาที ก็สามารถสะสมความรู้ได้อย่างมหาศาลในระยะยาว เขาใช้เวลาว่างเช่น ระหว่างเดินทาง ("death time") ในการอ่านผ่าน Kindle
3. การเรียน (Learning/Studying)
กระบวนการตลอดชีวิต (Lifelong Learning) คุณทอยมีความเชื่อมั่นว่า "ชีวิตเราไม่สามารถจะหยุดเรียนรู้ได้เลย การศึกษามีจุดเริ่มต้น...แต่ไม่มีวันจบ" ความรู้จากสถาบันการศึกษาเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
การเรียนรู้ด้วยตนเองและเชิงรุก (Self-directed & Active Learning):** เขาชื่นชมโมเดลการเรียนแบบที่ผู้เรียนต้องค้นคว้า อ่าน และถกเถียง (discuss) เพื่อสร้างความเข้าใจด้วยตนเอง มากกว่าการรอรับความรู้จากผู้สอนเพียงฝ่ายเดียว "การศึกษาไม่ได้เกิดขึ้นในโรงเรียน...การศึกษาเกิดขึ้นตอนนี้เลย"
เลือกเรียนในสิ่งที่จำเป็นและตอบโจทย์ชีวิต "เรียนทุกอย่างที่ใจเรารู้สึกว่าแบบถ้าเกิดเรารู้สิ่งนี้ มันจะช่วยให้เราแก้ปัญหาในชีวิตเราได้ง่ายขึ้น" และ "เราต้องเป็นคนเลือกว่าเราจะเรียนสิ่งนั้นด้วยตัวเอง" ไม่ใช่ให้สังคมหรือใบปริญญากำหนด
"Learning how to learn" คือทักษะสูงสุด การรู้วิธีที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้วยตนเอง เป็นทักษะที่สำคัญที่สุดในยุคนี้
การเรียนรู้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต การพัฒนาตนเองอยู่เสมอคือวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับความไม่แน่นอนและวิกฤตที่อาจเกิดขึ้น "ทำไมเราไม่ทำตัวเองให้พร้อมวันนี้เลย"
การเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงหรือเป็นทางการเสมอไป:** ปัจจุบันมีแหล่งเรียนรู้ฟรีและเข้าถึงง่ายมากมาย เช่น YouTube, คอร์สออนไลน์ต่างๆ หรือบทความดีๆ
โดยสรุป ในมุมมองของคุณทอย การอ่านและการเขียนเป็นทักษะพื้นฐาน (meta-skills) ที่สำคัญยิ่ง ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการ "เรียนรู้" สิ่งต่างๆ ตลอดชีวิต การเรียนรู้ไม่ใช่สิ่งที่สิ้นสุดในห้องเรียน แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ขับเคลื่อนด้วยความอยากรู้ การตระหนักถึงความจำเป็น และการเลือกเรียนในสิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิตของตนเอง เพื่อพัฒนาศักยภาพและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
โฆษณา