25 พ.ค. เวลา 14:18 • หนังสือ

มุมมองเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและการทำงานของ ทอย กษิดิศ DataRockie

บทสัมภาษณ์ของ ทอย กษิดิศ DataRockie
มุมมองต่อการใช้ชีวิต (Living/Life)
1. ชีวิตคือการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด (Lifelong Learning as a Core Principle)
คุณทอยมองว่า "ชีวิตเราไม่สามารถจะหยุดเรียนรู้ได้เลย" การศึกษาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่องตั้งแต่เกิดจนตาย เขาเชื่อว่าการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์
2. การค้นหาความหมายและเป้าหมายของตนเอง (Purpose and Self-Direction)
เขาเน้นย้ำให้แต่ละคนค้นหาว่า "จริงๆแล้วเราอยากได้อะไรในชีวิต" และตั้งคำถามว่าความฝันที่เรามีนั้นเป็นของเราจริงๆ หรือเป็นความคาดหวังของคนอื่น การเลือกเส้นทางชีวิตด้วยตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ "อย่าใช้ใบปริญญาเราเป็นตัวกำหนดว่าเราต้องทำอะไร"
3. ปรัชญา "Give to Grow" (ยิ่งให้ยิ่งได้รับ)
ความสำเร็จในชีวิตสำหรับคุณทอยไม่ได้วัดด้วยตัวเงินเป็นหลัก แต่วัดจาก "จำนวนคนที่เราช่วยได้ให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้นได้" การช่วยเหลือผู้อื่นทำให้ชีวิตมีความหมายมากขึ้น
4. การตัดสินใจอย่างมีหลักการ (Principled Decision Making)
ด้วยพื้นฐานด้านเศรษฐศาสตร์ คุณทอยมองว่าการตัดสินใจของมนุษย์มักมาจากการประเมิน "benefit (ผลประโยชน์) กับ cost (ต้นทุน)" และพยายามมองการณ์ไกลถึงผลกระทบในอนาคต รวมถึงเข้าใจเรื่อง "ค่าเสียโอกาส (opportunity cost)" ของทุกการตัดสินใจ
5. เวลาคือชีวิต (Time is Life)
เขามองว่า "เวลากับชีวิตสำหรับพี่คือเรื่องเดียวกัน" การใช้เวลาอย่างคุ้มค่าและเลือกทำในสิ่งที่มีความหมายจึงสำคัญมาก เขาพยายามใช้ "death time" (เวลาที่อาจสูญเปล่าเช่นระหว่างเดินทาง) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
6. การเตรียมพร้อมและความยืดหยุ่น (Preparedness and Resilience)
คุณทอยไม่กลัววิกฤตหรือการเปลี่ยนแปลง แต่กลัว "ตัวเองไม่พร้อม" มากกว่า จึงเน้นการพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้นอยู่เสมอเพื่อพร้อมรับมือกับอนาคต เขามีแนวคิดที่สอดคล้องกับปรัชญาสโตอิกคือการโฟกัสในสิ่งที่ควบคุมได้ (คือการพัฒนาตัวเอง)
7. ความสมดุลและการพักผ่อน (Balance and Rest)
แม้จะเน้นการทำงานและการเรียนรู้ แต่เขาก็ให้ความสำคัญกับการพักผ่อน โดยกล่าวว่า "การทำงานจะไม่มีความหมายเลยถ้าเราไม่ได้พักผ่อน" และแต่ละคนต้องหา "บาลานซ์ของตัวเองให้เจอ"
มุมมองต่อการทำงาน (Working)
1. การเป็น "มนุษย์เป็ด" (Embracing Generalism/Multi-potentiality)
คุณทอยมองว่าการมีความรู้และทักษะหลากหลาย (เป็นเป็ด) และสามารถนำทักษะเหล่านั้นมา "combine เข้าด้วยกัน" โดยใช้ "ความคิดสร้างสรรค์" เป็นกาวเชื่อม จะทำให้เกิดความได้เปรียบและสร้างโอกาสใหม่ๆ เขาไม่ยึดติดกับนิยามอาชีพเดียว "พอเราเป็นเป็ดเราจะเรียกตัวเองว่าอะไรก็ได้"
2. ทำงานในสิ่งที่รักจนไม่รู้สึกว่าเป็นงาน (Intrinsic Motivation)
เขายกคำพูดของ Naval Ravikant ว่า "ให้ทำในสิ่งที่คนอื่นมองว่าเป็นงาน แต่สำหรับเราไม่ใช่งาน" การเขียนคอนเทนต์ หรือการสอนผ่าน DataRockie สำหรับเขาคือ "การได้ใช้ชีวิต" ไม่ใช่ภาระงาน
3. การสร้างคุณค่าและผลกระทบ (Value Creation and Impact)
งานของเขาผ่าน DataRockie มุ่งเน้นการสร้างคอมมูนิตี้และแหล่งเรียนรู้ เพื่อช่วยให้คนอื่นมีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญา "Give to Grow"
4. การทำงานคือการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Continuous Development in Work)
งานไม่ได้เป็นเพียงแหล่งรายได้ แต่เป็นเวทีสำหรับการนำความรู้และทักษะมาประยุกต์ใช้ เรียนรู้ และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
5. ความยืดหยุ่นในการทำงาน (Work Flexibility)
จากบทบาทที่หลากหลาย ทั้งการทำงานประจำที่ Samsung การดูแลครอบครัว (เลี้ยงลูก) และการทำ DataRockie สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการและสร้างสมดุลในรูปแบบของตนเอง
โดยสรุป มุมมองของคุณทอยต่อการใช้ชีวิตและการทำงานนั้นแทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน โดยมีหัวใจสำคัญคือการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง การค้นหาความหมายและเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต การสร้างคุณค่าให้แก่ผู้อื่น การเป็น "มนุษย์เป็ด" ที่ยืดหยุ่นและสร้างสรรค์ และการบริหารจัดการเวลาและชีวิตให้สมดุลตามแบบฉบับของตนเอง
โฆษณา