26 พ.ค. เวลา 04:30 • ข่าวรอบโลก

เฮียทรัมป์ ไม่ปลื้ม ปูติน เหตุยิงขีปนาวุธใส่ยูเครนอีกระลอก

เออ เอาวะ! นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ยทุกคน! คือนั่งไถ BBC อยู่ดีๆ เจอข่าวนี้เข้าไปนี่ถึงกับต้องยกมือทาบอกแล้วอุทานว่า "นี่มันอะไรกันนักหนา!"
เรื่องของเรื่องคืออีตา "เฮียทรัมป์" ประธานาธิบดีของอเมริกาเราเนี่ย แกถึงกับออกโรงมาบ่นอุบอิบว่า "ไม่ปลื้ม" คุณ "ปูติน" ประธานาธิบดีรัสเซียเอาซะเลยเว้ย! คือแกใช้คำว่า "What the hell happened to him? He's killing a lot of people." (เกิดอะไรขึ้นกับเขา? เขากำลังฆ่าคนมากมาย)
แล้วก็บอกว่า "Putin is absolutely crazy" (ปูตินบ้าไปแล้วจริงๆ) โอ้โห นี่มันไม่ใช่แค่ไม่ปลื้มธรรมดาแล้วนะ นี่มันระดับขั้นที่เรียกว่า "ฉุนกึก" เลยทีเดียว ปกติเฮียทรัมป์แกจะดูเหมือนซี้ปึ้กกับปูตินอยู่นะ แกเคยบอกว่า "I've known him a long time, always gotten along with him" (ผมรู้จักเขามานานแล้ว เข้ากันได้ดีเสมอ) แต่วันนี้แกพลิกลิ้นแบบ 180 องศาเลยจ้าาา เหมือนประมาณว่า "นายท่านจงบอกมาว่านี่เป็นความจริงรึ!" มุกจากหนังจีนกำลังภายในน่ะ 555
สาเหตุที่เฮียทรัมป์แกเดือดจัดก็เพราะรัสเซียเล่นใหญ่ไฟกะพริบ ส่งโดรนกับขีปนาวุธถล่มยูเครนหนักสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 367 ลูกในคืนเดียว! คิดดูดิ 367 ลูก! นี่มันไม่ใช่สงครามแล้วนะ นี่มันเหมือนปูตินแกนั่งกดปุ่มเล่นเกมแล้วยิงรัวๆ เลยอะ บอกตรงๆ ว่าแอบนึกถึงฉากในหนังแอคชั่นที่พระเอกงัดปืนใหญ่มาถล่มผู้ร้ายเลยนะ (แต่ในความเป็นจริงมันเศร้ากว่าเยอะ) มีคนตายไป 12 คน บาดเจ็บอีกเพียบ แถมไซเรนเตือนภัยก็ดังระงมอีกในหลายพื้นที่ นี่มันเหมือนเรื่องในหนังดิสโทเปียชัดๆ ที่คนต้องอยู่ท่ามกลางเสียงไซเรนเตือนภัยตลอดเวลา
บทบาทของเซเลนสกี้กับเสียงที่เงียบงัน
แล้วประเด็นที่น่าคิดก็คือ คุณ "เซเลนสกี้" ประธานาธิบดียูเครนแกก็ออกมาบ่นว่า "ความเงียบ" ของอเมริกาเนี่ยแหละที่ยิ่งทำให้ปูตินได้ใจ แกเลยเรียกร้องให้มีการ "กดดันอย่างหนัก" รวมถึงคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้นกับรัสเซีย โอ้โห ฟังแล้วก็แบบว่า "เออว่ะ" มันก็จริงของแกนะ เหมือนเวลาเราไปโรงเรียนแล้วเพื่อนแกล้งเราแล้วครูไม่ทำอะไร สุดท้ายเพื่อนมันก็แกล้งหนักขึ้นเรื่อยๆ อะแหละ
แต่เฮียทรัมป์แกก็ใช่ว่าจะเข้าข้างยูเครนไปซะหมดนะ แกก็มีมุมมองอีกแบบ แกบอกว่า "Zelensky is doing his country no favors by talking the way he does." (เซเลนสกี้ไม่ได้ทำประโยชน์ให้ประเทศของเขาเลยด้วยการพูดแบบนั้น) แล้วก็บอกว่า "Everything out of his mouth causes problems, I don't like it, and it better stop." (ทุกอย่างที่ออกมาจากปากเขาล้วนก่อปัญหา ผมไม่ชอบเลย และมันควรจะหยุดได้แล้ว)
โหด! คือประมาณว่า "ปากพาซวย" งี้เหรอ? ฟังแล้วก็งงๆ เหมือนกันนะว่าตกลงเฮียแกจะยังไงกันแน่? เดี๋ยวก็บอกว่าปูตินบ้า เดี๋ยวก็มาบอกว่าเซเลนสกี้พูดมากไปอีก เหมือนดูหนังเรื่องเดียวกันแต่ตีความคนละแบบยังไงยังงั้นเลย
ดาบสองคมของมาตรการคว่ำบาตรและการเจรจา
ส่วนเรื่องการคว่ำบาตร เฮียทรัมป์แกก็บอกว่าจะ "Absolutely" (แน่นอน) พิจารณาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียนะ แต่ก็ต้องรอดูกันไป เพราะแกก็เคยขู่แบบนี้มาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยอะ เหมือน "หมาเห่าไม่กัด" งี้ปะ? แต่ก็ต้องยอมรับนะว่าการคว่ำบาตรเนี่ยมันเป็นดาบสองคมจริงๆ เหมือนในเกมวางแผนที่เราต้องคิดหนักว่าใช้สกิลนี้ไปแล้วมันจะส่งผลยังไงกับคู่ต่อสู้และตัวเราเองบ้าง
ที่สำคัญคือ เฮียทรัมป์กับปูตินเพิ่งจะโทรคุยกันเรื่องข้อตกลงหยุดยิงไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วด้วยนะ เฮียทรัมป์บอกว่าคุยกันเป็นไปด้วยดีมาก แล้วก็บอกว่ารัสเซียกับยูเครนจะเริ่มทันที เจรจาหยุดยิงและยุติสงคราม ฟังแล้วก็นึกถึงพวกตัวละครในหนังที่คุยกันเรื่องข้อตกลงสันติภาพอะนะ
แต่ดูเหมือนทางยูเครนจะตกลงหยุดยิง 30 วัน แต่ปูตินแค่บอกว่าจะ "work with Ukraine to craft a 'memorandum' on a 'possible future peace'" (จะทำงานร่วมกับยูเครนเพื่อร่าง 'บันทึกความเข้าใจ' เกี่ยวกับ 'สันติภาพที่เป็นไปได้ในอนาคต') ซึ่งฝั่งยูเครนกับยุโรปมองว่าเป็นแค่ "delaying tactics" หรือ "กลยุทธ์ถ่วงเวลา" นั่นเอง เหมือนที่เราเล่นซ่อนหาแล้วเพื่อนบอกว่า "เดี๋ยวแป๊บนะ" แล้วก็วิ่งหนีไปเลยอะไรแบบนั้นอะ!
บทสรุปและมุมมองส่วนตัว
สรุปแล้วสถานการณ์นี้มันก็เหมือนหนังเรื่องหนึ่งที่ตัวละครแต่ละคนมีบทบาท มีเป้าหมาย และมีวิธีการของตัวเอง การที่เฮียทรัมป์ออกมาพูดแบบนี้มันแสดงให้เห็นว่าถึงแม้เขาจะเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับปูติน แต่เมื่อสถานการณ์มันเลยเถิดจนมีการทำร้ายผู้บริสุทธิ์ เขาก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป อย่างที่ว่า "ความสัมพันธ์ส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัว แต่เรื่องมนุษยธรรมมันต้องมาก่อน" ไงล่ะพวกเรา
แล้วไหนจะเรื่องการเจรจาสันติภาพที่ดูเหมือนจะไปไม่ถึงไหนซะที นึกถึงฉากในหนังที่พระเอกกับผู้ร้ายนั่งโต๊ะคุยกันว่าจะสงบศึก แต่สุดท้ายก็ชักปืนใส่กันอยู่ดีนั่นแหละ มันสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาความขัดแย้งมันซับซ้อนกว่าที่คิดเยอะ ไม่ใช่แค่มานั่งคุยกันแล้วจะจบได้ง่ายๆ เพราะแต่ละฝ่ายต่างก็มีผลประโยชน์ของตัวเองที่ต้องรักษาไว้ เหมือนเล่นหมากรุกที่แต่ละตาเดินต้องคิดให้รอบคอบที่สุด
สุดท้ายนี้เราก็คงได้แต่ภาวนาให้สถานการณ์มันดีขึ้น และหวังว่าผู้นำทุกคนจะใช้สติและปัญญาในการแก้ไขปัญหาจริงๆ ไม่ใช่เอาแต่สร้างความวุ่นวายเพิ่มขึ้นไปอีกนะทุกคน เฮ้อ! ชีวิตมันไม่ง่ายเลยจริงๆ วะเว้ย!
โฆษณา