26 พ.ค. เวลา 13:00 • ไลฟ์สไตล์

อยู่เชียงใหม่แต่บินไปทำงานสิงคโปร์ อาทิตย์ละ 3 ชั่วโมง

รู้จักกับการทำงานแบบ Super Commuting บินไปกลับต่างประเทศหรือต่างเมือง ทำงานในพื้นที่ ที่มีค่าแรงสูง แล้วใช้ชีวิตในที่ ที่มีค่าครองชีพต่ำ
ถ้าพูดถึง “รูปแบบการทำงาน” ในยุคนี้ คนรุ่นเรามีทางเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Hybrid, Remote, หรือ Freelance แต่วันนี้เราจะชวนมารู้จักอีกหนึ่งวิธีทำงาน–ทำเงินที่น่าสนใจ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า Super Commuter
คำว่า Commuting แปลตรงตัวว่า “การเดินทางไปกลับที่ทำงานทุกวัน”
ส่วน Super Commuting ก็คือการเดินทางไกลกว่าเดิมมากๆ บางคนต้องใช้เวลาเดินทางข้ามเมือง เกิน 90 นาทีต่อเที่ยว เลยทีเดียว
ฟังดูเหนื่อยใช่ไหม? แต่คนจำนวนไม่น้อยก็เลือกใช้ชีวิตแบบนี้ เพราะมันช่วยให้เขาสามารถ
✅ อยู่ในเมืองที่ค่าครองชีพถูกลงได้
✅ เพื่อรับรายได้จากเมืองใหญ่หรือประเทศที่เงินแข็งกว่า
✅ หรือแค่ได้อยู่ใกล้ครอบครัวและคนที่รักมากขึ้น
จริงๆ แล้วเทรนด์นี้ไม่ใช่ของใหม่ และมีมาตั้งแต่ปี 2014 นำเสนอโดย BBC Worklife ที่เล่าเรื่องของนักฝังเข็มคนหนึ่ง ที่บินจากตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสไปทำงานที่ลอนดอนทุก 2 สัปดาห์
แต่นับตั้งแต่โควิดเริ่มซา เทรนด์นี้ก็เริ่มกลับมาแรงอีกครั้ง
ข้อมูลจาก Euromonitor ระบุว่า คนทั่วโลกที่เดินทางไกล 90–120 นาทีต่อเที่ยว อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพิ่มจาก 2.4% ในปี 2020 เป็น 4% ในปี 2024 และยังมีมากกว่า 3% ที่เดินทางไกล เกิน 2 ชั่วโมง ต่อเที่ยวเป็นประจำ
เบื้องหลังของปรากฏการณ์นี้คือ การเติบโตของรูปแบบการทำงานแบบ Hybrid เมื่อเราไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน การเดินทางไกลๆ แค่ สัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง ก็กลายเป็นอะไรที่ “พอรับได้” และคุ้มค่ากว่าเดิม โดยเฉพาะกับคนที่ทำงานในเมืองใหญ่ที่ค่าครองชีพสูงๆ
[ ✈️ อาศัยอยู่เชียงใหม่ แต่ไปทำงานไกลถึงสิงคโปร์ ]
ทำงานแค่ 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่เลี้ยงดูทั้งครอบครัวที่ไทยได้ นี่ไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือชีวิตของ เซา ชุน เฉิน (Shao Chun Chen) ชายวัย 39 ปี ให้สัมภาษณ์ไว้กับ CNBC Make it ว่า เขาเคยเป็นมนุษย์เงินเดือนในสิงคโปร์ ทำงานในองค์กร 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ไม่มีเวลา ไม่มีอิสระ และไม่เคยได้พักจริงๆ
จนกระทั่งวันหนึ่ง…เขาถูกเลย์ออฟ
1
หลายคนอาจมองว่านี่คือจุดจบ แต่นั่นกลับเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่
หลังจากทบทวนตัวเองอย่างลึกซึ้ง คุณเฉินตัดสินใจย้ายมาอยู่เชียงใหม่กับภรรยาในเดือนพฤศจิกายน 2024 และเริ่มชีวิตใหม่ในฐานะ “Super Commuter” คนที่บินกลับไปทำงานในสิงคโปร์สัปดาห์ละครั้ง เพื่อสอนคลาสการตลาดดิจิทัลที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) เพียง 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
โดยเขาได้รายได้จากการสอนเดือนละ 2,000 - 4,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (หรือประมาณ 50,000 - 100,000 บาท) ซึ่งเงินจำนวนนี้เพียงพอสำหรับค่าตั๋วเครื่องบิน และยังเหลือใช้จ่ายเลี้ยงดูชีวิตสงบๆ ในไทยได้ทั้งบ้าน
“ผมเหมือนกำลังเล่นเกมกับระบบ – ผมทำงานแค่ 3 ชั่วโมงในสิงคโปร์ ก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตในไทยได้ทั้งเดือน” คุณเฉินบอกกับ CNBC Make It
[ 💰ตกงานแต่เหมือนได้ชีวิตใหม่เพราะมีต้นทุนไปลองใช้ชีวิต ]
ก่อนหน้านี้ ครั้งหนึ่งคุณเฉิน ใช้เวลา 10 ปีทำงานที่ Google เขาใช้ชีวิตแบบต่ำกว่าฐานรายได้ของตัวเอง และลงทุนอย่างสม่ำเสมอโดยกันเงินสูงสุดถึงคือ ‘ครึ่งหนึ่งของเงินเดือน ไว้ลงทุน’
ดังนั้นเมื่อเขาถูกปลดจากงานในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 เขาก็พบว่า พอร์ตลงทุนที่เขาสร้างมากว่า 10 ปีซึ่งมีมูลค่าราว 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เขา ไม่ต้องพึ่งพาเงินเดือนอีกต่อไปในระยะยาว
เขาบอกว่า เขาได้ใช้ “กฎ 4%” เป็นแนวทาง เขาสามารถถอนเงินออกมาใช้ได้ปีละ ประมาณ 80,000 ดอลลาร์ และถอนจำนวนเท่านี้ไปได้ทุกปีโดยไม่ทำให้พอร์ตเสียหาย ซึ่งโดยทฤษฎีแล้วก็เพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในระยะเวลา 30 ปี
ดังนั้น แทนที่จะรีบหางานองค์กรใหม่ เขาจึงตัดสินใจเปิดโอกาสให้ตัวเองลองใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่
“ผมทำงานมาตลอด 14 ปี และเพราะการถูกเลย์ออฟ มันบังคับให้ผมหยุดพัก – มันเป็นช่วงที่หนักมาก กระทบทั้งความมั่นใจและตัวตนของผม …แต่พอเวลาผ่านไป มันก็บังคับให้ผมคิดว่า ชีวิตที่ผมต้องการจริง ๆ คืออะไร”
แม้ว่าเขาจะสามารถอยู่ได้ด้วยดอกเบี้ย ปันผล และกำไรจากการลงทุนได้อย่างสบาย คุณเฉินเลือกที่จะใช้รายได้นั้น เป็นรายได้แบบ Passive Income เท่านั้น และจะถอนมาใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น เพื่อเสริมกับรายได้จากการทำงาน
เขาบอกว่า CNBC Makeit ไว้ว่า ในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา เขาได้สร้างแหล่งรายได้แบบใหม่ทั้ง รายได้แบบ Active และ Passive Income
นอกจากการสอนหนังสือสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมงแล้ว เขายังมีรายได้จากการ ทำคอนเทนต์การศึกษาใน YouTube และจากธุรกิจ โค้ชชิ่ง ที่สามารถเรียกเก็บค่าบริการได้ถึง 500 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ขึ้นกับลูกค้า)
นอกจากนี้ เขายังเลือกใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียกว่า “Geographical Arbitrage” หรือการทำงานในประเทศที่มีค่าแรงสูง แล้วไปใช้ชีวิตในประเทศที่มีค่าครองชีพต่ำ เช่น เขาสอนหนังสือที่สิงคโปร์ซึ่งเงินแข็งกว่า แล้วนำเงินนั้นมาใช้ในไทยที่ค่าใช้จ่ายในการครองชีพต่ำกว่า
[ 📍อยากเป็น Super Commute เหมือนคุณเฉินต้องทำยังไง? ]
สำหรับคนที่อยากเป็น Super Commute คุณเฉินได้ทิ้งคำแนะนำไว้ดังนี้
1. หาทักษะให้ตัวเอง หรือสร้างคุณค่าให้ตัวเองจนสามารถเรียกเงินต่อชั่วโมงได้สูง ๆ เพราะเมื่อมีค่าตอบแทนสูงเข้ากับค่าครองชีพที่ต่ำ คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำงานเยอะเลยเพื่อจะอยู่ได้
2. อย่าฟุ้งเฟ้อตามรายได้ แม้จะหาเงินเป็นดอลลาร์ แต่ใช้เงินเป็นบาท
ในสิงคโปร์ เขาเคยเช่าคอนโด 2 ห้องนอนอยู่ในราคา ประมาณ 2,450 ดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ 61,250 บาท) แต่ตอนนี้เขาอยู่ในคอนโดใหม่เอี่ยมแบบ 1 ห้องนอนที่เชียงใหม่ ในราคาค่าเช่าเพียง 450 ดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ 11,250 บาท) เท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้วเขาสามารถที่จะเช่าแพงกว่านี้ได้
แต่ด้วยความเป็นคอนโดเชียงใหม่ เขาบอกว่า คอนโดที่เชียงใหม่ที่เขาเช่าอยู่ด้วยราคาเท่านี้ สิ่งที่เขาได้มามันก็เว่อร์มากแล้ว เพราะมันมีทั้งสระว่ายน้ำหลายแห่ง มีสไลเดอร์น้ำ ยิมพร้อมเครื่องมือ โคเวิร์กกิ้งสเปซขนาดใหญ่ และยังมีสตูดิโอพิลาทิสด้วย
3. ย้ายไปที่ไหน ให้ปรับตัวใช้ชีวิตแบบคนท้องถิ่น ไม่ต้องพยายามยกไลฟ์สไตล์เดิมมาทั้งหมด
“ผมเจอชาวต่างชาติหลายคนที่ไม่ค่อยมีความสุข เพราะเขามาที่นี่เพราะค่าครองชีพถูกอย่างเดียว – พวกเขาบ่นว่า ครัวซองต์ไม่อร่อยเหมือนที่บ้าน ใช้เนยปาล์ม ไม่ใช่เนยแท้… แล้วก็ต้องไปหาร้านกาแฟเฉพาะที่ราคาแพงกว่าปกติ”
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเลือกกินของไทย ใช้ของไทย เช่น อาหารไทย ยาไทย เบียร์ไทย ทุกอย่างก็จะ ราคาถูกมาก แต่ถ้าอยากได้ของนำเข้า เช่น ไวน์ฝรั่งเศส ก็จะ แพงมากขึ้นทันที
🔚 สรุป: Commuting เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการทำงานยุคใหม่ ที่เปิดโอกาสให้คนมีทักษะเลือกใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้มากขึ้น จะอยู่ที่ไหนก็ได้ ถ้ามีงานให้ทำ และมีไฟพอจะเดินทางไปกลับระยะไกลสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง
ฟังดูเหมือนอิสระ แต่ความจริงก็มีแลกเหมือนกัน บางคนอาจได้เวลาชีวิตคืน แต่ก็เสียโครงสร้างแบบเดิมๆ ที่เคยมี การต้องบินบ่อย อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ก็เหนื่อยไม่เบา
สุดท้าย มันจึงไม่ใช่แค่เรื่องของรายได้ แต่เป็นเรื่องของการเลือก “ชีวิตแบบไหนที่เราอยู่แล้วรู้สึกว่าคุ้ม”
เขียนโดย กนกจันทร์ เรืองวัฒนานนท์, Content Creator aomMONEY
อ้างอิง:
Three-minute explainer on… super commuting
He lives in Thailand but ‘supercommutes’ to Singapore—living off what he makes from 3 hours a week
#aomMONEY #Commuting #ทำงานไกลบ้าน #SuperCommuter #การเงินส่วนบุคคล
โฆษณา