รู้จัก 13 ตัวเลขเศรษฐกิจ (Economic Indicators)
ต่อไปนี้คือ รายการตัวเลขเศรษฐกิจ (Economic Indicators) ที่สำคัญซึ่งส่งผลโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อ:
• เศรษฐกิจของประเทศนั้นเอง
• ค่าเงินของประเทศนั้น
• ราคาทองคำ
• เศรษฐกิจโลก
ผมได้จัดหมวดหมู่และอธิบายผลกระทบอย่างครบถ้วน พร้อมลิงก์ความสัมพันธ์แต่ละด้าน:
1. GDP (Gross Domestic Product)
คือ: มูลค่ารวมของสินค้าและบริการที่ผลิตในประเทศช่วงเวลาหนึ่ง
มีผลต่อ: เศรษฐกิจประเทศ, ค่าเงิน, เศรษฐกิจโลก
รายละเอียด:
• การเติบโตของ GDP = สัญญาณของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
• GDP สูงขึ้น → ค่าเงินแข็งค่าขึ้น
• ประเทศใหญ่เช่นสหรัฐฯ, จีน, ยูโรโซน มีผลต่อเศรษฐกิจโลก
• หาก GDP โตต่ำ → ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นในฐานะ Safe Haven
2. CPI (Consumer Price Index) / อัตราเงินเฟ้อ
คือ: การวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของสินค้าผู้บริโภค
มีผลต่อ: ค่าเงิน, ทองคำ, การตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย
รายละเอียด:
• CPI เพิ่มสูง = เงินเฟ้อสูง → ธนาคารกลางอาจขึ้นดอกเบี้ย → ค่าเงินแข็ง
• เงินเฟ้อสูงนาน = ลดค่าเงิน → นักลงทุนหันไปถือทองคำ
• CPI มีผลต่อการคาดการณ์นโยบายการเงินทั่วโลก เช่น Fed
3. Interest Rate / Policy Rate
คือ: อัตราดอกเบี้ยนโยบายจากธนาคารกลาง
มีผลต่อ: ค่าเงิน, การลงทุน, ทองคำ, สินทรัพย์เสี่ยง
รายละเอียด:
• ดอกเบี้ยสูง → ค่าเงินแข็ง, นักลงทุนถือสกุลเงินนั้นมากขึ้น
• ดอกเบี้ยต่ำ → ทองคำพุ่ง (เพราะต้นทุน Opportunity Cost ต่ำลง)
• การขึ้นหรือลดดอกเบี้ยของ Fed มีผลกระทบทั่วโลก
4. Unemployment Rate / อัตราการว่างงาน
คือ: สัดส่วนผู้ว่างงานในระบบเศรษฐกิจ
มีผลต่อ: ค่าเงิน, ความมั่นใจของตลาด
รายละเอียด:
• ว่างงานต่ำ → เศรษฐกิจดี, ความเชื่อมั่นสูง → เงินแข็ง
• ว่างงานสูง → สะท้อนภาวะถดถอย → เงินอ่อน, ทองคำแข็ง
5. Non-Farm Payroll (NFP) - เฉพาะสหรัฐ
คือ: ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
มีผลต่อ: ดอลลาร์สหรัฐ, ตลาดหุ้น, ทองคำ
รายละเอียด:
• ตัวเลขจ้างงานมากกว่าคาด = เศรษฐกิจแข็งแรง → ดอลลาร์แข็ง → ทองลง
• ตัวเลขต่ำกว่าคาด = ความกังวลเศรษฐกิจ → ทองพุ่ง
6. Trade Balance / ดุลการค้า
คือ: ผลต่างมูลค่าการส่งออก - นำเข้า
มีผลต่อ: ค่าเงิน, การเติบโต GDP
รายละเอียด:
• ดุลบวก (เกินดุล) → เงินแข็ง เพราะความต้องการเงินสกุลนั้นมาก
• ดุลลบ (ขาดดุล) → เงินอ่อนค่าลง
• ประเทศผู้ส่งออกทอง (เช่น ออสเตรเลีย) หากส่งออกทองน้อยลง → ทองคำผันผวน
7. Retail Sales / ยอดขายปลีก
คือ: การวัดการใช้จ่ายของผู้บริโภค
มีผลต่อ: ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ, ค่าเงิน, ทองคำ
รายละเอียด:
• ยอดขายสูงขึ้น = ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ → ค่าเงินแข็ง
• ยอดขายลดลง = ความเสี่ยงถดถอย → หนุนทองคำ
8. Manufacturing PMI / ภาคการผลิต
คือ: ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคการผลิต (เกณฑ์ > 50 = ขยายตัว)
มีผลต่อ: ความเชื่อมั่นตลาด, ค่าเงิน
รายละเอียด:
• PMI > 50 → แนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น → ค่าเงินแข็ง
• PMI < 50 → เศรษฐกิจชะลอ → หนุนทองคำ
9. Consumer Confidence / ความเชื่อมั่นผู้บริโภค
คือ: ดัชนีวัดความรู้สึกของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจ
มีผลต่อ: การใช้จ่าย, ค่าเงิน, ตลาดหุ้น
รายละเอียด:
• ความเชื่อมั่นสูง → ใช้จ่ายมาก → เศรษฐกิจขยาย
• ความเชื่อมั่นต่ำ →หนุนทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
10. Crude Oil Inventories / ราคาน้ำมัน
คือ: ปริมาณน้ำมันคงคลัง
มีผลต่อ: เงินสกุลสินค้าโภคภัณฑ์ (CAD, NOK, RUB), ทองคำ, เงินเฟ้อ
รายละเอียด:
• ราคาน้ำมันสูง = ต้นทุนการผลิตสูง → เงินเฟ้อสูง → หนุนทองคำ
• ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันจะได้ประโยชน์ เช่น แคนาดา (CAD แข็ง)
11. Central Bank Statements / คำแถลงจากธนาคารกลาง
คือ: ท่าทีเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคต
มีผลต่อ: ความคาดหวังตลาด, ค่าเงิน, ทองคำ
รายละเอียด:
• หากคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย → ค่าเงินแข็ง, ทองคำอ่อน
• หากคาดว่าจะลดดอกเบี้ย → ค่าเงินอ่อน, ทองคำพุ่ง
12. Geopolitical Risk / ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
เช่น: สงคราม, ความขัดแย้งโลก
มีผลต่อ: ทองคำ (Safe Haven), USD, CHF, JPY
รายละเอียด:
• ความไม่แน่นอนสูง → นักลงทุนถือทองคำและเงินเยนญี่ปุ่นเพื่อความปลอดภัย
13. Federal Reserve Balance Sheet / ขนาดงบดุล Fed
คือ: ขนาดการถือครองสินทรัพย์ของ Fed
มีผลต่อ: ดอกเบี้ย, เงินดอลลาร์, สินทรัพย์เสี่ยง
รายละเอียด:
• หาก Fed ลดงบดุล (QT) → ค่าเงินแข็ง → ทองคำร่วง
• หาก Fed เพิ่มงบดุล (QE) → ค่าเงินอ่อน → ทองคำแข็ง
“ตัวเลขเศรษฐกิจไม่ใช่แค่สถิติ — แต่คือสัญญาณที่บอกอนาคตของเศรษฐกิจโลก การเงิน และการลงทุน ใครเข้าใจก่อน ย่อมตัดสินใจก่อน”
เติมความรู้ด้านเศรษฐกิจวันละนิด เพื่อมองเกมการเงินให้ขาดในโลกที่เปลี่ยนเร็วแบบไม่มีสัญญาณเตือน
#รู้ทันการเงิน
#ลงทุนอย่างมีข้อมูล
#ProjectCWF
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
