เมื่อวาน เวลา 04:34 • ข่าวรอบโลก

ไอ้ทรัมป์นี่มันตัวตึงจริงๆ

ลองนึกภาพตามนะ ตอนนี้คนทำไวน์อย่างเจ๊เอโลดี โบเนต์ ต้องมานั่งยองๆ กลางสายฝนปรอยๆ ถอนยอดเถาองุ่นที่ไม่ต้องการออกทีละนิด ทีละนิด เพื่อให้องุ่นมันทุ่มเทพลังไปเลี้ยงช่อดอกที่จะกลายเป็นลูกองุ่นสุดแพง แล้วพอเดินไปคุยกับเจ้าของไร่และโรงไวน์อย่างเจ๊เซซิล เทรมเบลย์ เจ๊แกก็พาลงไปใต้ดิน ห้องเก็บไวน์ที่เต็มไปด้วยถังไม้โอ๊คเก่าๆ กับขวดไวน์ที่มีฉลากขึ้นรานิดๆ
แต่ชื่อบนฉลากนี่สิ... Nuits-Saint-Georges, Echezeaux, Vosne-Romanée, Clos-Vougeot, Chapelle-Chambertin โอ๊ยยย! แค่เห็นชื่อก็ขนลุกแล้ว นี่มันระดับตำนานชัดๆ พวกคอไวน์นี่เห็นแล้วคงเข่าอ่อน เดินเซกันไปหมด ไม่แน่ใจว่าไปเตะอะไรมาหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ คือเสียอาการ!
คุณเซซิลบอกว่าไวน์ของเธอส่วนใหญ่ส่งออกนอกประเทศนะ แล้วที่ส่งไปอเมริกาเนี่ยก็ปาไป 10% ของผลผลิตทั้งหมด ซึ่งสำหรับเธอแล้วคือเยอะมาก! ก็ไม่แปลกหรอก เพราะก่อนหน้านี้ไอ้ทรัมป์แกเคยขู่จะบวกภาษี 200% เลยนะเว้ย แล้วก็ลงมาเหลือ 20% เมื่อวันที่ 5 เมษาฯ สี่วันต่อมาลดเหลือ 10% พร้อมขู่ว่าเดือนกรกฎาคมอาจจะขึ้นไป 20% อีกที ขึ้นอยู่กับการเจรจาการค้า บอกเลยว่าแกเป็นคนไม่นิ่ง! แล้วตอนนี้ล่าสุดคือไอ้ทรัมป์แกขู่จะเก็บ 50% เลยนะ!
ฟังแล้วกุมขมับเลยจ้าาา อยากจะกรีดร้องเป็นภาษากอล! แต่ก็นะ บอยไม่ดื่มฮ่ะเลยไม่มีผลกระทบใดๆทั้งสิ้นกับอิฮั้น!
ผู้สื่อข่าวถามคุณเซซิลว่ากังวลไหม เธอตอบสั้นๆ ง่ายๆ ว่า "ใช่ กังวลแน่นอน ทุกคนก็เป็น" แต่เธอไม่พูดอะไรมากนะ สงสัยกลัวพูดอะไรผิดหูแล้วจะโดนไอ้ทรัมป์แกจัดหนักกว่าเดิม เหมือนหนังจีนกำลังภายในที่พวกจอมยุทธ์ต้องเดินบนไข่ กลัวทำแตกแล้วจะโดนวิชาฝ่ามืออรหันต์ซัดตูมเดียวดับ! หรืออาจจะกลัวโดนไม้กอล์ฟฟาดก็เป็นได้!
ตัวแทนชาวไวน์กับหายนะที่กำลังจะมา
พอคุณเซซิลไม่ยอมพูดอะไร ผู้สื่อข่าวก็เลยขับรถไปหาคุณฟรองซัวส์ ลาเบ็ต แกเป็นประธานคณะกรรมการไวน์เบอร์กันดี ซึ่งเป็นตัวแทนของคนทำไวน์ 3,500 รายในภูมิภาคนี้ แกยืนยันเสียงแข็งเลยว่า "อเมริกาคือตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้ ทั้งในแง่ปริมาณและมูลค่า"
และที่สำคัญนะเว้ย ก่อนไอ้ทรัมป์จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกรอบ ตลาดอเมริกานี่เฟื่องฟูสุดๆ คือยอดส่งออกไวน์และสุราของฝรั่งเศสโดยรวมตกลง 4% ในปีที่แล้วนะ แต่ยอดขายไวน์เบอร์กันดีไปอเมริกานี่พุ่งพรวดเลยจ้าาา ในเชิงปริมาณเพิ่มขึ้น 16% จากปี 2024 เป็น 20.9 ล้านขวด
คิดเป็นมูลค่า 370 ล้านยูโร (ประมาณ 415 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 312 ล้านปอนด์) ซึ่งสูงกว่าปี 2023 ถึง 26.2% เลยทีเดียว! คุณลาเบ็ตบอกว่าปีที่แล้วอเมริกาคิดเป็นประมาณหนึ่งในสี่ของการส่งออกไวน์เบอร์กันดีทั้งหมด ใครได้ยินก็ต้องอิจฉาตาร้อนผ่าวๆ อะแก!
เบอร์กันดีไม่ได้มีแค่สีแดง
หลายคนคงรู้จักเบอร์กันดีจากไวน์แดงที่ทำจากองุ่นปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) อันโด่งดัง จนในประเทศที่พูดอังกฤษ "burgundy" แทบจะเป็นชื่อสีไปแล้ว แต่คนฝรั่งเศสเค้าเรียกสีแดงแบบนี้ว่า "bordeaux" นะเว้ย แสดงว่าเค้ารู้เรื่องไวน์ดีกว่าพวกเรา เพราะถึงแม้ไวน์บอร์กโดซ์ส่วนใหญ่จะเป็นไวน์แดง แต่ไวน์เบอร์กันดีจริงๆ แล้วสองในสามคือไวน์ขาว!
ไวน์ขาวส่วนใหญ่ทำจากองุ่นชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay) โดยเฉพาะ ชาบลี (Chablis) ที่เป็นที่รู้จักกันดีและฮิตมากในอเมริกา นอกจากนี้ เบอร์กันดียังผลิตสปาร์คกลิ้งไวน์ที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยนะ ที่ชื่อว่า Crémant de Bourgogne และไวน์โรเซ่อีกเล็กน้อย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลดีต่อเบอร์กันดีมากๆ เพราะแนวโน้มการบริโภคไวน์แดงโดยทั่วไปลดลงเรื่อยๆ แต่ไวน์ขาวกลับคงที่ และสปาร์คกลิ้งไวน์ก็เพิ่มขึ้น! เหมือนดวงกำลังขึ้น!
แถมคุณลาเบ็ตยังบอกอีกว่าไวน์แดงจากเบอร์กันดีเป็นไวน์ที่ผู้บริโภคต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะโดยทั่วไปแล้วจะเบากว่าไวน์แดงจากโลกใหม่ (New World reds) "สิ่งที่น่าสนใจคือมีการลดการบริโภคไวน์แดงที่เราเรียกว่า 'ไวน์แดงใหญ่' ที่ผลิตในอเมริกา ไวน์ที่มีแอลกอฮอล์สูงๆ บ่มในถังไม้ใหม่ๆ" แกอธิบายว่าแสงแดดน้อยและอุณหภูมิต่ำกว่าในเบอร์กันดี แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ก็หมายถึงน้ำตาลในองุ่นน้อยลงและปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำลง สรุปง่ายๆ คือเบากว่า นุ่มกว่า ถูกปากกว่านั่นแหละ!
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
คุณลาเบ็ตเล่าให้ฟังว่าสมัยไอ้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีครั้งแรก แกเคยขึ้นภาษีนำเข้าไวน์ยุโรป 25% เป็นเวลา 18 เดือน ระหว่างข้อพิพาทเรื่องสายการบิน "เราเป็นตัวประกันของสถานการณ์นั้น และมันส่งผลกระทบต่อยอดขายของเราในอเมริกาจริงๆ เรามียอดส่งออกไปอเมริกาลดลงประมาณ 50%" ฟังแล้วก็นึกถึงตอนที่กวนอูไปติดอยู่กลางวงล้อมทัพโจโฉนั่นแหละ มันรู้สึกอึดอัดทำอะไรไม่ได้จริงๆ! ประมาณว่า "หนีไม่พ้นแน่ตู!" อะไรทำนองนั้น!
สำหรับภาษี 10% ของไอ้ทรัมป์ในปัจจุบัน คุณลาเบ็ตคาดการณ์ว่าผู้ผลิตไวน์ฝรั่งเศสและพ่อค้าในอเมริกาจะแบ่งรับภาระค่าภาษีนำเข้ากันเอง เพื่อรักษายอดขายไว้ ก็เหมือนต้องจำใจหารกันไปคนละครึ่งทางอะนะ! แต่ถ้าเดือนกรกฎาคมไอ้ทรัมป์ตัดสินใจเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากสหภาพยุโรปเป็น 20% อย่างที่แกขู่ไว้ล่ะ? "เราจะกลับไปสู่สถานการณ์ปี 2019 ที่ตลาดแทบจะหยุดชะงัก" คุณลาเบ็ตกล่าว เรียกได้ว่า "ตลาดวาย" กันไปเลย!
และสำหรับไวน์ฝรั่งเศสโดยรวม สถานการณ์อาจจะแย่ยิ่งกว่า!
คุณเจโรม บาวเออร์ ประธานสมาพันธ์ไวน์และสุราแห่งชาติฝรั่งเศส บอกว่า "เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้า 25% เป็นเวลาหนึ่งปีครึ่งในวาระแรกของเขา เราสูญเสียเงินไปประมาณ 600 ล้านดอลลาร์ [450 ล้านปอนด์] อย่างรวดเร็ว" แต่ตอนนั้นแชมเปญยังไม่รวมอยู่ในนั้น
และไวน์ที่มีแอลกอฮอล์เกิน 14 ดีกรีก็ไม่รวมด้วย "คุณจะเห็นขนาดของภัยคุกคามในวันนี้" งานนี้มีแต่คำว่า "บรรลัย!"
ทางออกที่คุณบาวเออร์สนับสนุนคือการค้าเสรี ไม่มีภาษี ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจหรอก เพราะฝรั่งเศสกับยุโรปได้เปรียบดุลการค้ากับอเมริกาเยอะมากเมื่อพูดถึงไวน์และสุรา พูดง่ายๆ คือวินวินทั้งคู่ ไม่มีใครเสีย!
อเมริกันชนก็ไม่โอเค
ที่น่าประหลาดใจกว่าอาจจะเป็นความเห็นของคู่แข่งชาวอเมริกันในแคลิฟอร์เนียและโอเรกอน ซึ่งเราอาจจะคิดว่าพวกเขาคงจะฉลองกันยกใหญ่ "เรื่องนี้มันแย่มากในมุมมองของเรา เราไม่ชอบเลยสักนิด" คุณเร็กซ์ สตอลท์ รองประธานฝ่ายความสัมพันธ์อุตสาหกรรมของ Napa Valley Vintners
ซึ่งเป็นตัวแทนโรงไวน์ 540 แห่งในภูมิภาคไวน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของแคลิฟอร์เนีย กล่าว "ไวน์เป็นสินค้าสากล แม้แต่ที่นี่ใน Napa Valley โรงไวน์ของเราก็ยังต้องนำเข้าจุกไม้ก๊อกจากโปรตุเกส และถังไม้โอ๊คซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำไวน์จากฝรั่งเศส"
คุณสตอลท์เสริมว่า "ของพวกนั้นมันแพงอยู่แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะแพงขึ้นไปอีก" งานนี้มีแต่ความซวยล้วนๆ!
ที่สำคัญคือสงครามการค้ามันเล่นงานกันไปมานะเว้ย! คุณสตอลท์บอกว่าภาษีที่ประกาศใช้กับแคนาดากำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการส่งออกไวน์ของอเมริกา "แคนาดาเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญที่สุดสำหรับไวน์แคลิฟอร์เนีย และเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกอันดับต้นๆ สำหรับไวน์ Napa Valley ตอนนี้ไวน์ Napa Valley ไม่มีวางขายบนชั้นวางของในแคนาดาเลยแม้แต่ขวดเดียว"
"พวกเขาได้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของอเมริกันทั้งหมดออกจากชั้นวางของในร้านค้าของพวกเขาแล้ว!" นี่มันแผนล่มสลายชัดๆ! เหมือนโดนดีดออกจากจักรวาล!
คุณสตอลท์สรุปว่า "เราแค่อยากแข่งขันกันอย่างยุติธรรมกับเพื่อนและเพื่อนบ้านทั่วโลก นั่นคือสิ่งที่เราขอและสิ่งที่เราหวัง" บอกเลยว่าพี่แกโคตรใจ!
มองดูแล้วไอ้เรื่องภาษีนำเข้านี่มันเหมือนโดมิโน่จริงๆ นะเว้ย ล้มตัวหนึ่งก็ล้มไปเป็นทอดๆ ไม่มีใครได้ประโยชน์หรอกสุดท้าย อย่างที่ภาษิตจีนโบราณว่าไว้ "สงครามการค้าไม่มีผู้ชนะที่แท้จริง" มันก็จริงอย่างที่เห็นนี่แหละทุกคน ไอ้ทรัมป์มันก็ช่างคิดได้นะเนี่ย! สุดท้ายแล้วก็ต้องมานั่งลุ้นกันว่าเดือนกรกฎาคมนี้ ไอ้ทรัมป์แกจะงัดไม้เด็ดอะไรออกมาอีก หรือจะใจเย็นลงบ้าง งานนี้คอไวน์อย่างเราก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับราคาไวน์ที่อาจจะแพงหูฉี่กันไปล่ะ! แต่ก็นะ สำหรับคนที่ไม่ดื่มอย่างกูแล้ว เรื่องนี้ก็เป็นแค่ลมตดผ่านหู!
โฆษณา