Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PPTV Wealth
•
ติดตาม
28 พ.ค. เวลา 09:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
SET วิเคราะห์หุ้น Amazon กับ Alibaba คู่เทียบหุ้นเทคโนโลยีโลก
SET วิเคราะห์หุ้น Amazon กับ Alibaba คู่เทียบหุ้นเทคโนโลยีโลก พร้อมช่องทางลงทุนผ่าน DR กระดานหุ้นไทย
นายฐิติเมธ โภคชัย ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วิเคราะห์หุ้น Amazon กับ Alibaba ภายใต้การเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ (e-commerce) ไว้อย่างน่าสนใจ โดยมองว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซ (e-commerce) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากผู้บริโภคจำนวนมากชื่นชอบความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าออนไลน์ บริษัทหลายแห่งทั้งขนาดใหญ่และเล็กได้นำข้อดีของการผสมผสานระหว่างร้านค้ามีหน้าร้าน (Brick-and-Mortar) กับหน้าร้านเสริมบนอินเทอร์เน็ตมาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
การซื้อของออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน โดยมีผู้กุมบังเหียนตลาดอีคอมเมิร์ซระดับโลก คือสองยักษ์ใหญ่แห่งเทคโนโลยี Amazon และ Alibaba
ซึ่งยักษ์ใหญ่ในวงการ e-commerce บางราย เช่น Amazon (AMZN) และ Alibaba (BABA) ได้กลายเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในตลาดด้วยการดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว แม้ว่า Amazon และ Alibaba ต่างมีลักษณะเฉพาะที่ทำให้เป็นบริษัท e-commerce แต่รูปแบบธุรกิจของทั้งสองแห่งมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดย Amazon เป็นผู้ค้าปลีกขนาดใหญ่สำหรับสินค้าทั้งใหม่และมือสอง ในขณะที่ Alibaba ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
รูปแบบธุรกิจของ Amazon
Amazon เป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดำเนินธุรกิจแบบผู้ค้าปลีกโดยตรง (B2C) ขายสินค้าเองและให้บริการกับลูกค้าปลายทาง รวมถึงเปิดแพลตฟอร์มให้ผู้ขายรายอื่นเข้ามาขายสินค้า (Marketplace) โดย Amazon จะดูแลเรื่องคลังสินค้า การขนส่ง และบริการหลังการขายเองทั้งหมด
ปัจจุบัน Amazon มีฐานลูกค้าทั่วโลก
โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซในสหรัฐอเมริกาสูงถึง 40% โดยมีบัญชีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 310 ล้านบัญชี ส่วนใหญ่เป็นผู้บริโภคทั่วไป จึงได้ชื่อว่าเป็น “ร้านค้าทุกอย่าง” มีสินค้าหลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า หนังสือ อาหาร ไปจนถึงคอนเทนต์ดิจิทัล โดยมี Amazon Pay สำหรับการชำระเงินทั้งในและนอกแพลตฟอร์ม
การซื้อของออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน โดยมีผู้กุมบังเหียนตลาดอีคอมเมิร์ซระดับโลก คือสองยักษ์ใหญ่แห่งเทคโนโลยี Amazon และ Alibaba
รูปแบบธุรกิจของ Alibaba
ขณะที่ Amazon เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคชาวอเมริกันส่วนใหญ่ในฐานะยักษ์ใหญ่ด้านตลาดอีคอมเมิร์ซ ส่วนตลาดอีคอมเมิร์ซของจีนก็ต้องยกให้ Alibaba แม้ว่าบริษัทจะดำเนินงานผ่านการผสมผสานรูปแบบธุรกิจที่เฉพาะ แต่ธุรกิจหลักของ Alibaba มีลักษณะคล้ายกับ eBay โดย Alibaba เน้นเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B)
ซึ่งไม่ถือครองสต๊อกสินค้าเอง แต่ให้บริการแพลตฟอร์มและเครื่องมือสำหรับการทำธุรกรรม โดยมีรายได้จากค่าคอมมิชชัน โฆษณา และบริการเสริม Alibaba มีเว็บไซต์ที่ใหญ่ที่สุดชื่อ Taobao (เถาเป่า) เป็นเว็บไซต์สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนและเอเชียแปซิฟิก โดยมีลักษณะคล้ายกับ Lazada หรือ Shopee ในไทย และยังมีเว็บไซต์ชื่อ Tmall ที่เน้นขายสินค้าคุณภาพสูงและแบรนด์เนมทั้งจากจีนและต่างประเทศ เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในจีน
นอกเหนือจากเว็บไซต์คอมเมิร์ซแล้ว Alibaba ยังได้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งในระบบการเงินของจีน เพื่อแก้ไขความกังวลของลูกค้าเกี่ยวกับความปลอดภัยและความถูกต้องของธุรกรรมที่ทำออนไลน์ จึงได้สร้าง Alipay ระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย ปกป้องผู้ซื้อในกรณีที่ผู้ขายไม่สามารถหรือปฏิเสธที่จะส่งมอบสินค้าที่ขาย
ปัจจุบัน Alibaba ครองตลาดอีคอมเมิร์ซกว่า 80% ในจีน มีผู้ซื้อที่ใช้งานมากกว่า 443 ล้านบัญชี โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในจีนและกลุ่มธุรกิจ เน้นเชื่อมโยงผู้ซื้อกับผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ เหมาะกับการสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากหรือแบบขายส่ง และแพลตฟอร์มสำหรับผู้บริโภคอย่าง AliExpress ก็มีสินค้าให้เลือกมาก แต่ยังไม่หลากหลายเท่า Amazon
ผลการดำเนินงาน
รายได้ของ Amazon เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2563 – 2567) มีการเติบโตถึง 127% โดยรายได้ปี 2567 ทำได้ 638 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงความสามารถในการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดและขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกำไรสุทธิมีการเติบโตสูงถึง 411% ในช่วง 5 ปี (2563 – 2567)
สะท้อนว่าบริษัทมีความสามารถในการสร้างผลกำไรสุทธิให้กับผู้ถือหุ้นได้ดีและรวดเร็ว แสดงถึงพัฒนาการที่ก้าวกระโดดในการแปลงรายได้ไปเป็นกำไรสุทธิ หลังจากหักค่าใช้จ่ายและภาษีทั้งหมดแล้ว เป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งสำหรับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท โดยกำไรสุทธิปี 2567 ทำได้ 59.2 พันล้านดอลลาร์
สำหรับกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เติบโต 201% ในช่วง 5 ปี (2563 – 2567) สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างเงินสดจากการดำเนินธุรกิจหลักได้ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจและการเติบโตในระยะยาว เพราะเงินสดนี้สามารถนำไปใช้ในการลงทุน ขยายธุรกิจ หรือชำระหนี้ได้ โดยกระแสเงินสดจากการดำเนินงานปี 2567 อยู่ที่ 115.9 พันล้านดอลลาร์
ส่วนกระแสเงินสดอิสระ พบว่าในช่วง 5 ปี (2563 – 2567) เติบโต 51% แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดอิสระที่ดี หลังจากผ่านช่วงการลงทุนขนาดใหญ่หรือการลงทุนที่ผ่านมาเริ่มให้ผลตอบแทนเป็นเงินสดมากขึ้น โดยกระแสเงินสดอิสระปี 2567 อยู่ที่ 32.9 พันล้านดอลลาร์
ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 รายได้อยู่ที่ระดับ 156 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และทำกําไรได้ 17.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 64% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าด้านอัตรากําไรจากการดําเนินงานอยู่ที่ 11.8% ปัจจัยสำคัญมากจากยอดขายโฆษณาออนไลน์ และรายได้จากอเมริกาเหนือเติบโตโดดเด่น
ประมาณการกำไรของ Amazon (AMZN) ในปี 2568 โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ากำไรต่อหุ้นตลอดทั้งปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 6.11 - 6.31 ดอลลาร์สหรัฐ ด้านรายได้รวมคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 694.93 พันล้านดอลลาร์ หากเป็นไปตามนี้จะเติบโตประมาณ 9% เมื่อเทียบกับรายได้ปีที่ผ่านมา โดยแนวโน้มกำไรจากการดำเนินงานของ Amazon ในปีนี้ค่อนข้างระมัดระวังมากกว่าที่นักวิเคราะห์บางรายคาดไว้ ส่วนหนึ่งมาจากความไม่แน่นอนเรื่องภาษีศุลกากร นโยบายการค้า และภาวะเศรษฐกิจโลก
ธุรกิจโฆษณาและ Cloud ของ Amazon ยังเติบโตแข็งแกร่ง แม้ว่าบริการการประมวลผลบน Cloud (AWS) จะเติบโตต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เล็กน้อยในไตรมาสแรก
สำหรับ Alibaba พบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2563 – 2567) รายได้เติบโตถึง 150% เป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งและน่าประทับใจ สะท้อนให้เห็นว่ามีความสามารถในการขยายขนาดธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง บ่งชี้ถึงความสำเร็จในการขยายฐานผู้ใช้ ขยายบริการ และเจาะตลาดใหม่ ๆ ทั้งในธุรกิจตัวเองอย่าง Taobao และ Tmall รวมถึงธุรกิจ Cloud Computing ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยรายได้ปี 2567 ทำได้ 941.2 พันล้านดอลลาร์
เช่นเดียวกับกำไรจากการดำเนินงานที่เติบโต 107% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าไม่ได้แค่เพิ่มยอดขายได้เท่านั้น แต่ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดีในภาพรวม ทำให้ความสามารถในการสร้างกำไรจากการดำเนินธุรกิจหลักเติบโตตามไปด้วยอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับปี 2567 ทำได้ 123.9 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณากำไรสุทธิ พบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาลดลง 9% สะท้อนว่าบริษัทเผชิญกับความท้าทายในการแปลงรายได้และกำไรจากการดำเนินงานมาเป็นกำไรสุทธิที่แท้จริงให้กับผู้ถือหุ้นในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และการแข่งขันในตลาด Cloud ในจีนยังคงรุนแรง โดยกำไรสุทธิปี 2567 ทำได้ 79.7 พันล้านดอลลาร์
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ยังคงเติบโตเป็นบวก 21% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าแม้จะมีปัญหาเรื่องกำไรสุทธิ แต่บริษัทยังคงมีความสามารถในการสร้างเงินสดจากการดำเนินธุรกิจหลักได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงอยู่และการลงทุนในอนาคต โดยปี 2567 อยู่ที่ระดับ 182.6 พันล้านดอลลาร์
ส่วนกระแสเงินสดอิสระที่เติบโต 40% ในช่วง 5 ปี แสดงให้เห็นว่ายังคงมีความสามารถในการสร้างเงินสดส่วนเกินหลังจากหักค่าใช้จ่ายในการลงทุน ซึ่งเงินสดนี้สามารถนำไปใช้ในการชำระหนี้ ซื้อหุ้นคืนหรือจ่ายปันผลได้ โดยปี 2567 อยู่ที่ระดับ 149.7 พันล้านดอลลาร์
ผลประกอบการไตรมาสถัดไป Alibaba จะประกาศวันที่ 13 สิงหาคม 2568 โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้น สำหรับไตรมาสสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2568 (ไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2569) จะอยู่ที่ประมาณ 2.44–2.49 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนรายได้คาดว่าจะอยู่ในช่วง 35.21 – 35.69 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขประมาณการผลประกอบการ ที่ไม่หวือหวา สะท้อนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์จับตาการฟื้นตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ Cloud และตลาดต่างประเทศ
สำหรับการลงทุนใน หุ้น Amazon และ Alibaba ผ่านตลาดหุ้นไทยด้วย DR (Depositary Receipt) โดยหุ้น Amazon เช่น DR AMZN01 และ DR AMZN80 และหากสนใจหุ้น Alibaba เช่น DR BABA01 DR BABA13 และ DR BABA80
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
https://www.pptvhd36.com/wealth/stock-investment/249567
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์
https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTV Wealth :
https://www.facebook.com/PPTVWealth/
YouTube Wealth :
www.youtube.com/@PPTVWealth
หุ้น
amazon
อีคอมเมิร์ซ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย