29 พ.ค. เวลา 03:51 • ประวัติศาสตร์
มณฑลเสฉวน
1. ขอทบทวนอีกครั้งว่าสามก๊กคือ "วรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์" และสำหรับภาษาไทยนำมาแปลครั้งแรกโดยแม่กองแปล เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตามพระราชดำรัสรัชกาลที่ 1 เนื่องจากท่านก็เป็นเสนาบดีที่มีส่วนร่วมในการทำศึกสงครามสำคัญๆหลายครั้ง ดังนั้นเฉพาะฉบับนี้จึงเป็นฉบับที่ เป็นที่ยอมรับเอามาจัดทำเป็นหนังสือนอกตำรา สำหรับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมของไทย และสำหรับบรรดานายทหารชั้นสัญญาบัตร ฉบับแรกนี้จึงมีอายุกว่า 200 ปี เท่ากันกับอายุกรุงรัตนโกสินทร์เลยค่ะ
หากถามว่ารัชกาลที่ 1 ทรงไม่รู้ภาษาจีน แต่เหตุใดจึงทรงสนพระทัยพงศวดารนี้ เราสันนิษฐานว่า เพราะท่านทรงใกล้ชิดสมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่เป็นบุตรคนจีนเชื้อสายแต้จิ๋ว สมเด็จพระจ้าตากสิน จึงสามารถอ่านพงศวดารจีนได้ และคงนำมาบอกเล่าหรือสั่งสอนทหาร
2. ส่วนต้นฉบับคือพงศวดารจีน เป็นการเล่าบรรยายเหตุการณ์ในปลายสมัยราชวงศ์ฮั่น หลัว กว้านจง หรือ ล่อกวนตง ที่คนไทยมักเอ่ยปากเรียก เป็นคนแต่งขึ้นมา แต่เขาเป็นคนที่เกิดยุคปลายราชวงศ์หยวนนะคะ เท่ากับว่า ประวัติศาสตร์สามก๊กจริงๆ เกิดมาก่อนเขามากกว่า 1,000 ปีเลยนะคะ คิดดู๊!
3. ดังนั้น คำถามที่คุณถามก็อาจจะมีการเล่าบรรยายไว้โดยสั้น เพื่อให้ผู้อ่านมีอารมณ์ร่วมถึงความสาหัสสากรรจ์ของการทำศึกสงครามกู้ชาติ แต่เมื่อนำมาแปลโดยเจ้าพระยาพระคลัง ภายใต้พระราชดำรัสรัชกาล 1 ก็อาจมีการแต่งเติม เสริม หรือตัดทอน อย่างแน่นอนเลยทีเดียวเชียวค่ะ
พงศวดารจีนบอกเพียงว่า ศพที่นอนตายเกลื่อนนั้น จะเป็นของฝ่ายชนะเสมอ นัยยะตรงนี้เพียงบอกว่า ฝ่ายชนะจะต้องเอาศพทั้งหมดมาตรวจสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกศัตรูนั้นตายเรียบแหงแก๋ ไม่ได้เสแสร้งแกล้งตาย เพื่อมาเป็นไส้ศึกในภายหลัง แต่ไม่ได้มีนัยยะว่าจะเอาไปทำอาหารค่ะ
แต่เราเคยไปนั่งฟังสารคดีประวัติศาสร์เมกา
ที่รัฐเวอร์จิเนียร์ ต้นกำเนิดเมกาโน่นเลยค่ะ
เขาบรรยายว่าในการบุกเบิกและต่อสู้กับขนเผ่านั้น
อดอยากมาก ศพแร้ง ศพสัตว์ ศพคน เอามากินหมด
หากไม่มีศพให้กิน ก็เอารองบู๊ทมากินประทังชีวิตกันเลย
คำถามคือ เขาบรรยายไว้แบบนั้นคุณเชื่อไหมล่ะ
และหากเชื่อ คุณจะได้สาระอะไรจากการกินศพหรือ?
เราเคยทำหน้าที่เป็นแอดมินในกลุ่มสามก๊ก แต่ขอถอนตัวออกมา เพราะขัดแย้งทางความคิดกับแอดมินด้วยกันนี่แหละค่ะ
โฆษณา