Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฐานเศรษฐกิจ_Thansettakij
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
29 พ.ค. เวลา 07:22 • ข่าวรอบโลก
จีนเร่งยกร่างยุทธศาสตร์ "Made in China" ยึดฐานการผลิตโลก
จีนเร่งยกร่างยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมใหม่ เน้นเทคโนโลยี-ชิปขั้นสูง ตอบโต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ พร้อมส่งสัญญาณยึดหัวหาดการผลิตโลกในทศวรรษหน้า
รัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กำลังเดินหน้าจัดทำยุทธศาสตร์การผลิตฉบับใหม่ เพื่อวางรากฐานอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขันด้านอำนาจเศรษฐกิจและเทคโนโลยีกับสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางแรงกดดันจากนโยบาย “แยกตัวเชิงยุทธศาสตร์” ที่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กำลังเร่งผลักดัน
แผนดังกล่าวเป็นการสานต่อโครงการ “Made in China 2025” ที่เคยเปิดตัวเมื่อหลายปีก่อน โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับขีดความสามารถของจีนในภาคการผลิต โดยเฉพาะในเทคโนโลยีสำคัญ 10 สาขา เช่น หุ่นยนต์ พลังงานใหม่ อากาศยาน และอุปกรณ์การแพทย์ โดยมีแรงบันดาลใจจากยุทธศาสตร์ Industry 4.0 ของเยอรมนี
ในรอบใหม่นี้ จีนให้ความสำคัญกับการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์เป็นพิเศษ หลังเผชิญแรงกดดันจากมาตรการจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ ที่พุ่งเป้าสกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ เครื่องมือลิโธกราฟีจากบริษัท ASML ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้สร้างลวดลายบนเวเฟอร์สำหรับผลิตชิปขนาดจิ๋ว ระดับ 7 นาโนเมตร หรือต่ำกว่า ที่จีนยังมีอัตราการพึ่งพาตนเองไม่ถึง 10%
แม้เผชิญข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีจากต่างชาติ จีนยังคงเดินหน้าทุ่มลงทุนในอุตสาหกรรมนี้อย่างไม่หยุดยั้ง โดยคาดว่าเฉพาะช่วงปี 2025-2027 จีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน จะใช้เงินรวมกันมากกว่า 400,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อจัดหาอุปกรณ์ผลิตชิป ขณะที่จีนยังครองแชมป์ประเทศที่มีการลงทุนด้านอุปกรณ์ผลิตชิปใหม่มากที่สุดในโลก แม้จะมีการชะลอตัวบ้างเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ความสำเร็จจากแผน Made in China 2025 ยังช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้นำจีนอย่างเห็นได้ชัด ข้อมูลจาก Bloomberg Intelligence ระบุว่า จีนขึ้นมาเป็นผู้นำระดับโลกในเทคโนโลยี 5 รายการ จากทั้งหมด 13 รายการที่ติดตาม โดยอีก 7 รายการ จีนก็กำลังไล่ทันอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น ความก้าวหน้าของบริษัท DeepSeek ด้านปัญญาประดิษฐ์ ที่ปรากฏในช่วงต้นปี 2025 ถือเป็นสัญญาณบวกต่อการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงของประเทศ แม้อยู่ท่ามกลางแรงกดดันจากภายนอก
ในระดับมหภาค เจ้าหน้าที่ของจีนกำลังเตรียมจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับใหม่ ซึ่งจะเริ่มใช้ในปี 2026 โดยมีเป้าหมายรักษาสัดส่วนภาคการผลิตให้คงที่ในระบบเศรษฐกิจในระยะกลางถึงยาว เพื่อลดความผันผวนและสร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจของประเทศ แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากสหรัฐฯ ให้จีนลดบทบาทภาคการผลิต และหันมาเน้นการบริโภคภายในประเทศให้มากขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม จีนยังไม่ตัดสินใจว่าจะกำหนดเป้าหมายเชิงตัวเลขด้านการบริโภคภายใน GDP หรือไม่ เนื่องจากยังขาดเครื่องมือในการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ต้องการผูกมัดตนเองกับตัวเลขที่อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ในอนาคต
นอกจากเรื่องเศรษฐกิจภายในประเทศ จีนยังเผชิญกับความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังรัฐบาลทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้าจีนสูงสุดถึง 145% ในเดือนเมษายน ก่อนจะลดลงเหลือเฉลี่ยประมาณ 40% ภายหลังการเจรจาในเจนีวาเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ขณะเดียวกันจีนยังคงใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญต่ออุตสาหกรรมชิป ตอบโต้การกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ระหว่างการเยือนโรงงานลูกปืนในมณฑลเหอหนานว่า จีนจะยังคงเดินหน้าเสริมแกร่งอุตสาหกรรมการผลิต “เราต้องพึ่งพาตนเอง พัฒนาตนเอง และเชี่ยวชาญเทคโนโลยีหลักที่สำคัญ” เขากล่าวอย่างชัดเจนว่าอุตสาหกรรมยังคงเป็นแกนหลักของยุทธศาสตร์จีน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ก็ยืนยันในทิศทางเดียวกัน ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติประจำปีเมื่อเดือนมีนาคมว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับ “การส่งเสริมการบริโภคอย่างจริงจัง” โดยเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อทำให้การบริโภคกลายเป็นเครื่องยนต์หลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
อีกด้านหนึ่งของเวทีการค้าระหว่างประเทศ สหภาพยุโรป (EU) พยายามเร่งเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้า หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาวิจารณ์ว่ายุโรปเอาเปรียบสหรัฐฯ และถ่วงเวลาเจรจา จนเกิดความไม่พอใจต่อกันอย่างชัดเจน
แม้จะมีสัญญาณผ่อนปรนจากสหรัฐฯ ที่ยืดเส้นตายเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปออกไปถึงวันที่ 9 กรกฎาคม แต่การเจรจายังคงเต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งความไม่ชัดเจนในท่าทีของสหรัฐฯ และความกังวลจากฝั่งยุโรปที่มองว่าสหรัฐฯ ใช้กฎหมายและคดีความเป็นเครื่องมือกีดกันทางการค้า
thansettakij.com
จีนเร่งยกร่างยุทธศาสตร์ “Made in China” ยึดฐานการผลิตโลก
จีนเร่งยกร่างยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมใหม่ เน้นเทคโนโลยี-ชิปขั้นสูง ตอบโต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ พร้อมส่งสัญญาณยึดหัวหาดการผลิตโลกในทศวรรษหน้า
3 บันทึก
9
1
2
3
9
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย