30 พ.ค. เวลา 03:23 • ความคิดเห็น
เราแอบขำรายละเอียดขยายกระทู้ 555 แต่หัวข้อตามกระทู้มันคือประสบการณ์ตรงเราเลยค่ะ แต่สำหรับกรณีของเรานั้น เราพอจะรู้เลาๆ จากการเอื้อนเอ่ย เสียงแซวเสียงเชียร์ ท่าทางกุลีกุจอของแม่และอาอี๊ เพราะทั้งสองคนไม่เคยเก็บความลับอะไรให้เรา Surprise ได้เลยสักครั้ง
ครั้งนั้นพ่อเจ้าประคุณมากับแม่ และผู้หญิงสูงอายุอีกคนหนึ่ง พร้อมกระเช้าผลไม้ เมื่อรถคันงามมาถึง เราบอกให้ลูกจ้างเตรียมเสริ์ฟน้ำและผลไม้ให้แขกเหรื่อตามปกติ เราจำแม่นว่า วันนั้นลูกจ้างปอกฝรั่งและชมพู่สีแดง เพราะลูกจ้างบอกว่า แม่เราสั่งไว้แล้ว ว่าฝรั่งสีเขียวธาตุไม้และชมพู่สีแดงธาตุไฟ จากนั้นเราไถ่ถามทราบว่ามาหาแม่และอาอี๊ เรารับตะกร้าผลไม้จากมือพ่อเจ้าประคุณ แล้วส่งยิ้มพร้อมกับขอบคุณ แล้วก็เชิญทุกคนไปนั่งที่ห้องโถง แล้วก็ให้ลูกจ้างไปเรียกแม่และอาอี๊ ส่วนเราไปนั่งในห้องทำงาน ซึ่งเป็นห้องกระจกใส
สารภาพว่าเราไม่มีสมาธินั่งทำงานเลย เพราะแอบสังเกตว่า ทุกคนในห้องโถงลอบมองมาทางเราอยู่บ่อย ยกเว้นพ่อเจ้าประคุณ แต่สักพักใหญ่ พ่อเจ้าประคุณเดินดุ่มๆ มาที่เรา แล้วถามว่า "งานยุ่งมั้ยคะ" เราตอบว่า "อ๋อ ไม่ค่ะ เข้ามาได้นะคะ" จากนั้นนางก็เดินเข้ามาพร้อมกับฝรั่งในมือ นางกินไปคุยไป คุยสัพเพเหระ ปกติเราเป็นคนคุยตลกได้ทั้งวันอยู่แล้ว ดังนั้นต่างคนจึงต่างผ่อนคลายไม่ได้อึดอัด แต่เราแอบสังเกตว่า นางดูเป็นคนจริงจังและเคร่งเครียดอยู่บ้าง เราจึงพูดขึ้นว่า
เมื่อคืนอาอี๊มานอนด้วย แกหาว่า Eing นอนกรนสนั่น
แกเลยไม่ได้นอนทั้งคืนค่ะ 555
นางรีบพูดว่า ธรรมด๊า! พี่ก็พอกัน (อุ๊ปส์!)
เราเลยได้ข้อสรุปในใจ
...............................
โอเคค่ะเฮีย หนูล่อให้เฮียตอบมาคำเดียว
เราควรเดินหน้าเป็นพี่น้องกันต่อไป
อย่ามาทำลายสุขภาวะการนอนของช้านนน!
1
โฆษณา