Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฐานเศรษฐกิจ_Thansettakij
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
30 พ.ค. เวลา 10:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
อาหาร-เครื่องดื่มกระอัก! บีบบิ๊กเนมรัดเข็มขัด-ปรับแนวรบ
อุตสาหกรรมอาหาร-เครื่องดื่มกระอัก! ปัจจัยภายใน ภายนอกรุมเร้า บีบผู้ประกอบการทบทวนแผนธุรกิจ รัดเข็มขัด ปรับโครงสร้างต้นทุน พลิกกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด ขยายตลาดต่างประเทศสร้างโอกาสใหม่ หวั่นเศรษฐกิจโลกผันผวน สงครามการค้าลากยาวฉุดครึ่งปีหลังซึม
อุตสาหกรรมอาหารไทยในปี 2568 กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่ง จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว สงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจ และปัจจัยภายในประเทศที่หลากหลาย ล้วนส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ผลิตรายใหญ่ไปจนถึงร้านอาหารขนาดเล็ก นอกจากจะส่งผลต่อตัวเลขยอดขาย ยังบีบให้ผู้ประกอบการต้องทบทวนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ปรับโครงสร้างต้นทุน และหาแนวทางใหม่ๆ ในการแข่งขัน เพื่อให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
■
ติดลบครั้งแรกในรอบ 5 ปี
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า แม้จะมีกำไรสุทธิ 224 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2567 แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า กำไรสุทธิปรับตัวลดลง 36.5% สาเหตุหลักของการชะลอตัวมาจาก ฤดูหนาวที่ยาวนานกว่าปกติ ส่งผลให้คำสั่งซื้อจากต่างประเทศชะลอตัว
ปิยจิต รักอริยะพงศ์
ระดับสินค้าคงคลังในยุโรปที่ยังสูง ทำให้การสั่งซื้อใหม่ลดลง และการสั่งซื้อล่วงหน้าของคู่ค้า คู่ค้าในตะวันออกกลางและอินโดนีเซียได้สั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าไปมากในช่วงปลายปี 2567 เพื่อเตรียมจำหน่ายในช่วงรอมฎอน ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้บริษัทเผชิญภาวะขาดทุนสุทธิครั้งแรกในรอบหลายปี จากปัจจัยท้าทายหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจโลกชะลอตัวและปัญหาความท้าทายในตลาดส่งออก
ส่งผลให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์รองรับ ได้แก่ 1. การสร้างแบรนด์ เน้นการสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดเป้าหมาย 2. การเข้าใจผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง (Consumer Insight) ศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละตลาด 3. การจัดการหน้าร้านให้มีประสิทธิภาพ ปรับปรุงการขายและการตลาดในจุดขาย โดยเฉพาะในตลาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบอย่างฝรั่งเศส บริษัทได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การแจกคูปองและสินค้าตัวอย่าง เพื่อกระตุ้นยอดขายและดึงดูดลูกค้าใหม่กลับมา
“ยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่ท้าทายอย่างมาก โดยคาดการณ์ว่าทั้งปีอาจติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมั่นใจในกลยุทธ์ที่วางไว้และเชื่อมั่นว่าการปรับตัวและแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่องจะนำพาองค์กรกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว และยังคงมีความหวังจากศักยภาพของตลาดต่างประเทศที่ยังคงมีโอกาสอีกมาก หากสามารถปรับกลยุทธ์และแก้ไขปัญหาปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
■
เกาะติดกลไกตลาด-นโยบายรัฐ
อภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย
นายอภิเศรษฐ ธรรมมโนมัย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตขนมปังภายใต้แบรนด์ "ฟาร์มเฮ้าส์" กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะอยู่ในภาวะชะลอตัว ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้า แต่ฟาร์มเฮ้าส์ยังคงสามารถประคองธุรกิจไปได้
เนื่องจากสินค้าพร้อมทานมีราคาไม่สูงและยังเป็นที่ต้องการของตลาด อย่างไรก็ดีบริษัทยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมปรับแผนตามกลไกตลาดและนโยบายภาครัฐอยู่เสมอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการที่จำเป็นในยุคที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
“สถานการณ์เริ่มหันหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อราคาต้นทุนดังกล่าวเริ่มปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นข่าวดีทั้งสำหรับบริษัทและผู้บริโภค ฟาร์มเฮ้าส์จึงเดินหน้าปรับลดราคาสินค้า 5-10% โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวน 30 รายการจากสินค้าทั้งหมดราว 100 รายการ เช่น สินค้าบางชนิดที่เคยขายในราคา 42 บาท ถูกปรับลงเหลือ 40 บาท
นอกจากนี้บริษัทยังได้ปรับขนาดสินค้าให้เล็กลง เพื่อตอบรับกับเทรนด์ผู้บริโภคที่อาศัยอยู่คนเดียวหรือครอบครัวขนาดเล็ก ซึ่งต้องการสินค้าที่บริโภคหมดในครั้งเดียวและสะดวกต่อการจัดเก็บ การปรับตัวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป”
■
ขยายตลาดต่างประเทศ สร้างโอกาสใหม่
นายอภิเศรษฐ กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนขยายตลาดต่างประเทศและหาโอกาสใหม่ จากปัจจุบันที่ฟาร์มเฮ้าส์ส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) และมีแผนขยายตลาดไปยังประเทศจีน โดยจะเน้นสินค้าที่มีอายุการเก็บรักษานาน เช่น กลุ่มขนมปังกรอบ เป็นต้น อย่างไรก็ตามมองว่า การบริโภคขนมปังในประเทศไทยยังคงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
เช่น มาเลเซียหรือญี่ปุ่น ซึ่งมีการบริโภคขนมปังสูงกว่าไทยหลายเท่า การที่เทรนด์การบริโภคแฮมเบอร์เกอร์ในไทยเติบโตขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดขนมปังในประเทศ ฟาร์มเฮ้าส์สามารถทำยอดขายแฮมเบอร์เกอร์บันได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องจัดโปรโมชั่นมากนัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดขนมปังในประเทศที่ยังไม่ได้มีการเจาะกลุ่มผู้บริโภคอย่างเต็มที่
“แม้ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศยังคงอยู่ในตัวเลขหลักเดียว แต่ฟาร์มเฮ้าส์เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประสบการณ์และความสำเร็จของบริษัทแม่ที่ใช้เวลาลงทุนและสร้างเครือข่ายลูกค้าในต่างประเทศมานานหลายปี”
ทั้งนี้ฟาร์มเฮ้าส์ตั้งเป้าหมายในการขยายตลาด B2B เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการร้านคาเฟ่ ร้านกาแฟ โรงแรม และร้านอาหาร โดยมีสินค้าหลากหลายประเภทที่เหมาะกับความต้องการที่แตกต่างกัน ตั้งแต่เกล็ดขนมปัง คุกกี้ เค้ก ไปจนถึงแซนวิช ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว "Frozen Dough" หรือแป้งพิซซ่าแช่แข็งในงานแสดงสินค้าเป็นครั้งแรก
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการที่ต้องการวัตถุดิบคุณภาพดีและสะดวกในการใช้งาน แม้ปัจจุบันรายได้กลุ่ม B2B มีสัดส่วนกว่า 10% แต่คาดว่าการรุกตลาด Frozen Dough ในปี 2568 จะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้ B2B ให้เติบโตมากขึ้น
■
จับตาเศรษฐกิจโลก-สงครามการค้าป่วนยาว
ดร.องอาจ กิตติคุณชัย นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป และประธานบริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของภาคธุรกิจในประเทศไทย ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ยังคงอยู่ในภาวะไม่แน่นอน, สงครามการค้า ระหว่างมหาอำนาจที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตและการค้าโลก, ภาษีระหว่างประเทศ ที่เพิ่มภาระต้นทุนการส่งออก และ ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลเสียต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออกไทย
ดร.องอาจ กิตติคุณชัย
ส่วนปัจจัยภายในที่ส่งผลกระทบ ได้แก่ ภาวะทางการเมืองที่ไม่นิ่ง ทำให้อัตราการเติบโตของธุรกิจช้าลง, ปัญหาวัตถุดิบในประเทศ เกษตรกรไทยปลูกพืชผลทางการเกษตรน้อยลง เนื่องจากมีวัตถุดิบราคาถูกจากจีนเข้ามาตีตลาด และนโยบายการขึ้นค่าแรงของรัฐบาล อย่างไรก็ดี อัตราการเติบโตของธุรกิจในครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2567 แต่แนวโน้มของครึ่งหลังของปีน่าจะเติบโตมากกว่า ทั้งนี้ต้องรอดูว่าเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้าจะผลกระทบต่อเนื่องมากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้ซันสวีทได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจด้วยการลงทุนในขบวนการผลิตเพิ่มเติมหลายอย่าง เช่น การทำแพคเกจจิ้งใหม่ เป็นถุงสุญญากาศ เทตรา รีคาร์ท (Tetra Recart) โดยใช้เงินลงทุนราว 50 ล้านบาท รวมกับพาร์ทเนอร์รวม 250 ล้านบาท ซึ่งเทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้เพิ่มปริมาณการขนส่งและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยดันยอดการเติบโตในปีนี้ เพราะจะช่วยทำให้ต้นทุนต่ำลง
■
ครึ่งปีหลังไร้สัญญาณฟื้นตัว
ขณะที่ดร.ศีขรเชษฐ์ ใบสมุทร ประธานกรรมการ บริษัท สยาม รอยัล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แสดงความคิดเห็นว่า ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในครึ่งปีแรก แสดงให้เห็นถึงความผันผวนที่ชัดเจน ไตรมาสแรกถือว่ายังไปได้ดี ไม่มีผลกระทบมากนัก เพราะเป็นช่วงที่ธุรกิจท่องเที่ยวคึกคัก มีเทศกาลวันหยุดหลายอย่าง ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามามาก แต่ไตรมาสสอง ธุรกิจร้านอาหารกลับยอดตกไปถึง 30% สาเหตุหลักมาจากนักท่องเที่ยวจีนหายไป และเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้กำลังซื้อของคนลดลง
ดร.ศีขรเชษฐ์ ใบสมุทร
ดังนั้นบริษัทต้องมีแผนรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์ต้นทุนวัตถุดิบในปีนี้สูงขึ้นอย่างชัดเจน สาเหตุหลักมาจากเกษตรกรไทยปลูกพืชผลทางการเกษตรน้อยลง เนื่องจากปัจจุบันมีวัตถุดิบราคาถูกจากจีนเข้ามาตีตลาด ทำให้เกษตรกรไทยขาดแรงจูงใจในการเพาะปลูก ประกอบกับกำลังซื้อในตลาดโลกลดลงจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา
“เพื่อรับมือกับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น บริษัทจึงต้องเร่งหาซัพพลายเออร์และแหล่งผลิตวัตถุดิบรายใหม่ๆ แม้ว่ากำไรอาจจะลดลงบ้าง แต่บริษัทก็ยังคงตรึงราคาขายสินค้าเดิมไว้ ไม่ขึ้นราคา”
สำหรับกลยุทธ์การบริหารจัดการเพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ ได้แก่ 1. การบริหารจัดการซัพพลายเชนให้มีประสิทธิภาพ ปรับปรุงกระบวนการจัดหาและบริหารสินค้าคงคลัง 2. การสั่งซื้อวัตถุดิบในปริมาณมาก เพื่อให้ได้ราคาต้นทุนที่ถูกกว่าราคาตลาดทั่วไป ใช้หลักการ Economy of Scale และ 3. การไม่ปรับขึ้นราคาสินค้า เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและไม่สร้างภาระเพิ่มให้กับผู้บริโภค
“แนวโน้มในครึ่งปีหลัง มองว่าภาพรวมธุรกิจร้านอาหารจะยังคงซบเซา และต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ โดยเฉพาะจากปัจจัยประเด็นการค้าสหรัฐกับจีนที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นธุรกิจร้านอาหารให้กลับมาคึกคักได้ คือผู้บริโภคต้องหันมาให้ความสำคัญกับคุณภาพและรสชาติอาหารมากขึ้น ซึ่งจะทำให้คนรับรู้ถึงการใช้วัตถุดิบที่ดี และหันมาสนับสนุนธุรกิจอาหารภายในประเทศมากขึ้นตามไปด้วย”
1 บันทึก
8
2
1
8
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย