Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
•
ติดตาม
30 พ.ค. เวลา 12:13 • การ์ตูน
EP : 1,323 14 FOUR TEEN อาถรรพ์ปริศนา
แม้จะเป็นนักวาดแนวสยองขวัญชื่อดังระดับโลก แต่ในบ้านเราแล้ว ผลงานของ อ. Kazuo Umezu ถือว่ามีออกมาให้อ่านกันไม่ได้เยอะมากเลย แถมกระจัดกระจายแบบ ไม่เต็มเรื่อง หรือจบแบบไม่จบจริงอยู่หลายต่อหลายเรื่อง ที่สำคัญในบ้านเรา ถ้าผมจำไม่ผิดก็น่าจะมีแค่เรื่อง “มาโคโตะ เด็กอาร์ด” และ “ฝ่ามิตินรก” 2 เรื่องนี้เท่านั้นที่มี LC ในไทย ทำให้หากใครสนใจหรืออยากอ่านงานของ อ. ในเวอร์ชั่นไทยแล้วล่ะก็ ต้องใช้ความพยายามกันมากซักหน่อยเพราะส่วนใหญ่มันเป็นงานไพเรทยุคเก่าแทบทั้งสิ้นครับ
สำหรับตัวผมเองนั้น จำได้ว่าเคยได้อ่านงานของ อ. แบบเต็มๆ ก็มีไม่กี่เรื่องเช่นกัน และไม่กี่เรื่องที่ว่านั้น เกินครึ่งก็เป็นงานที่ สนพ ไพเรทในยุคนี้หยิบมานำเสนออีกด้วย อย่างเรื่องนี้ก็เช่นกัน ที่ผมเคยเห็นผ่านตามาตั้งแต่ยังเด็ก ในเวอร์ชั่น ไพเรทเล่มหนาๆ ที่เต็มไปด้วยความลำบากในการอ่านอย่างมาก
ด้วยคุณภาพตามยุคสมัยและแน่นอนผมอ่านไม่จบ จนมาเจอเวอร์ชั่นนี้ครับที่ชวนให้ผมหามาอ่านได้มากกว่าเดิมจากแต่ก่อน กับการเจอกันอีกครั้งระหว่างผม กับ ไก่ตัว หรือ ไก่คนนี้ กับอีกหนึ่งผลงานเลื่องชื่อของ อ. ใน FOURTEEN “อาถรรพ์ปริศนา” ครับ
.... ในยุคที่การผลิตเนื้อไก่ก้าวหน้าไปถึงขั้น “เพาะเนื้อไก่เฉพาะส่วนออกมา” โดยที่ไม่ต้องเลี้ยงไก่ให้โตเพื่อชำแหละแยกชิ้นส่วนออกมาขายตามที่เราคุ้นเคยนั้น การผลิตเนื้อไก่ที่ว่าจึงไม่ต้องการพื้นที่ในการเลี้ยงอีกต่อไป และถูกย้ายมาอยู่ในโรงเพาะเนื้อเยื่อ(ไก่)แทนนั่นเอง
“เคโนะ” คือหนึ่งในเจ้าหน้าที่ ที่ต้องคอยดูแลการเติบโตของเนื้อเยื่อของไก่ที่ถูกเพาะเลี้ยงไว้ในบ่อ เขาต้องทำการตรวจสอบเนื้อที่ทำการเพาะเหล่านี้ให้แน่ใจว่าปลอดภัย ก่อนที่มันจะถูกส่งต่อไปยังแผนกอื่น นั่นคือหน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมายให้ทำในที่แห่งนี้
แต่แล้ววันหนึ่ง ระหว่างที่เขากำลังมองลงไปยังบ่อเพาะเนื้อ สายตาของเขาก็ไปสบเข้ากับดวงตาดวงนึงในบ่อเพาะเนื้อเยื่อ ทำให้เขาตกใจอย่างมาก เพราะในความเป็นจริง ไม่มีทางเลยที่ในบ่อเพาะเนื้อไก่บ่อนี้จะมีสิ่งอื่นเกิดขึ้นมาได้นอกจากเนื้อไก่เท่านั้น ด้วยความกังวลว่าสิ่งแปลกปลอมที่เขาเห็นนั้น
อาจจะเกิดจากความบกพร่องของเขาบางอย่าง ทำให้เขาต้องรีบตรวจสอบดวงตาดวงนี้ ก่อนที่เพื่อนร่วมงานคนอื่นจะรับรู้ปัญหานี้ เพียงแต่ว่าเมื่อเขาคีบเนื้อที่มีดวงตาดวงนั้นขึ้นมาและทดสอบบางอย่างกับมัน เขาจึงได้ตระหนักว่านี่ไม่ใช่แค่ชิ้นส่วนแปลกปลอม แต่มันคือดวงตาที่มีการตอบสนอง และใช่ มันคือสิ่งมีชีวิต ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นมาได้ในบ่อแห่งนี้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสะเทือนโลก และจะเปลี่ยนโลกใบนี้ให้เป็นโลกที่ไม่เคยมีผู้ใดคาดคิดไปตลอดกาลใน FOURTEEN “อาถรรพ์ปริศนา” ครับ
ถ้าอ้างอิงจากงานก่อนๆของ อ. ที่ผมได้อ่านมา สิ่งที่ผมคิดเอาไว้ก่อนได้อ่านเรื่องนี้ก็คือ งานมังงะแนวลึกลับ สยองขวัญ ที่มีเรื่องราวความลี้ลับและวิญญาณเข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นคือธีมที่ผมคิดว่าจะได้พบในงานมังงะเรื่องนี้ของ อ. แต่เอาเข้าจริงกลับไม่ใช่เลยเพราะเนื้อหามันเป็นวิทยาศาสตร์จ๋าๆ แม้วิทยาศาสตร์ที่ว่าจะเต็มไปด้วยเรื่องราวของจินตนาการล้วนๆ ก็ตาม แต่ภาพรวมของเรื่องนี้มันไม่ใช่แนวความน่ากลัวจากภูติผีปีศาจอะไรเลยครับ
สิ่งที่อยากบอกให้ทุกคนรู้กันก็คือ เรื่องนี้บรรจุจินตนการและแนวความคิดเอาไว้ล้นมากๆ แม้ธีมของเรื่องมันจะดูอึมครึมที่ให้ความรู้สึกน่ากลัวของเรื่องที่เหนือธรรมชาติในเชิงจิตวิญญาณก็ตาม ซึ่งเอาเข้าจริงก็ตามที่ผมบอกไว้ ความเป็นวิทยาศาตร์ในเรื่องนี้มันไหลไปหลายทางเอามากๆ จนผมรู้สึกได้ถึงความหลากหลายที่ อ. ต้องการเล่าออกมา โดยไม่ได้ยึดติดกับความสัมพันธ์ของตัวละครแบบหลวมๆ แต่ก็มีนัยยะให้เข้าใจได้ว่าสิ่งต่างๆ มันเดินกันไปในทางนี้ได้อย่างไรครับ
แม้จะดูสับสนไปซักหน่อย แต่ความรู้สึกของผมกับเรื่องนี้ก็คือการจับแพะชนแกะแบบกลายๆ เพราะความหลากหลายของสิ่งที่ถูกนำเสนอเอาไว้ในเรื่องนี้ มันวุ่นวายและโยงใยไปมาอย่างไม่น่าเชื่อ แม้เบื้องต้นผมจะรู้สึกว่าตัวละครเอกหัวไก่อย่าง “ชิคเก้น จอร์จ” จะเป็นตัวเดินเรื่องที่สำคัญ แต่ เหตุการณ์รอบข้างที่ อ. ใส่เข้ามา มันทำให้เห็นถึงความสับสนวุ่นวายของโลกที่ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดหลายอย่างเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งนั้นส่งผลกระทบต่อตัวเอกอย่างชิคเก้น จอร์จ ด้วยเช่นกัน
ทีแรกผมก็คิดว่า ต้นเหตุทุกอย่างมันจะเกิดจาก ชิคเก้น จอร์จ แน่ๆ แต่ไม่ใช่เลยครับ ชิคเก้น จอร์จ เหมือนเกิดมาเพื่อเจอกับชะตากรรมอันแปลกประหลาดนี้ร่วมไปกับเหล่ามนุษย์ด้วยซะงั้น แม้ส่วนสำคัญของเรื่องราวในนี้ มันเดินต่อไปได้ด้วยตัวเขาเองก็ตาม แต่เพราะเรื่องนี้มันมีสเกลที่โครตใหญ่ เราจึงได้เห็นตัวละครมากมายที่มีบทบาทในโลกเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ครับ
ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะเรื่องที่เล่าในเรื่องนี้มันคือหายนะของมวลมนุษยชาติเลยก็ว่าได้ ตัวละครที่เข้ามาเกี่ยวจึงต้องเป็นบุคคลระดับโลกเท่านั้น ซึ่งในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้ ก็ชวนปวดหัวเอาอย่างมาก จะบอกว่าในเชิงของการเล่าเรื่อง
แม้เรื่องนี้จะแสดงให้เราเห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่เชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกันอย่างชัดเจนก็ตาม แต่ความอีหยังว่ะในเรื่องนี้มันมีปริมาณมากจนผมต้องโยนทิ้งและปล่อยวางไอ้ความเกี่ยวข้องเหล่านี้ออกไปบ้าง และสนุกกับสิ่งที่ถูกใส่เข้ามาจากจินตนาการของ อ. ไปจะดีกว่า เพราะเรื่องนี้มันไปซะสุดแบบที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นครับ
ในด้านเนื้อเรื่องผมคงไม่ลงเรื่องราวอะไรให้เข้าใจนัก แต่จากสิ่งที่ผมพูดไปด้านบน คือความเห็นจากที่ผมได้อ่านงานนี้จริงๆครับ เรื่องนี้มันเป็นงานแนววิทยาศาสตร์จ๋าๆ เรื่องนึงที่บรรจุเรื่องราวเหนือธรรมชาติเข้าไปอย่างมากมาย ด้านนึง มันคือการบอกว่าโลกกำลังโดนการแก้แค้นกลับของสิ่งรอบด้านก็ได้ อีกด้านนึงก็สะท้อนถึงจิตใจมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของความต้องการ ผ่านตัวละครทั้งที่มีอำนาจเหลือล้นและตัวละครตัวเล็กๆที่มีพฤติกรรมอันน่าเห็นใจ
แต่ก็นั่นแหละ หลายตัวละครแนวมันออกแนวดราม่าแบบปวดตับ กลายเป็นว่าทั้งเรื่องที่มีความเป็นวิทยาศาสตร์จ๋าๆแบบนี้ กลับเต็มไปด้วยประเด็นดราม่าของความเป็นมนุษย์เข้าไปร่วมด้วย บอกเลย ปวดหัวและมึนกับเหตุการณ์ที่ประดังประเดเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อนอย่างแน่นอนครับ
แม้ผมจะมองว่ามังงะเรื่องนี้มีความแตกต่างจากงานเรื่องอื่นๆของ อ. ซึ่งส่วนใหญ่ออกแนวสยองจากเรื่องลี้ลับแบบภูติผีปีศาจก็ตาม แต่ในเรื่องนี้ก็มีจุดเชื่อมโยงหรือจะเรียกว่ามีสัญลักษณ์ที่สำคัญแบบที่เราเห็นอยู่ในทุกๆงานของ อ. ก็ได้ นั่นคือการใช้ตัวละครใน “วัยเด็ก” เป็นตัวเดินเรื่องหลักของเรื่องครับ
แม้เรื่องนี้จะมีภาพจำของชายหัวไก่เป็นหลักก็ตาม แต่เนื้อหาตั้งแต่ตอนต้นแทรกตัวละครสำคัญที่อยู่ในวัยเด็กแรกเริ่มออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดและมีบทบาทอย่างชัดเจนจนเป็นตัวละครหลักของเรื่องตั้งแต่กลางเรื่องจนถึงตอนจบ เหล่านี้ล้วนเล่าผ่านตัวละครเด็กทั้งนั้นครับ
เพราะฉะนั้นจึงคาดหวังไว้ได้เลย ว่าเราจะเห็นความสิ้นหวังจากเหล่าเด็กๆ การโดนกระทำจากผู้ใหญ่กับพวกเขา ในการเผชิญหน้ากับเรื่องราวที่เหนือธรรมชาติเหล่านี้ และแน่นอนครับ หลายๆอย่างมันก้าวข้ามคำว่าเหตุและผลไปเรียบร้อย ทั้งจากว่านี่คือเรื่องราวจากโลกแห่งมังงะ และ เป็นเรื่องราวแนววิทยาศาสตร์หลายแขนงที่ ณ แม้แต่ ณ เวลานี้ มันยังไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งอ่านๆแล้วก็รู้สึกฟรุ้งไปกับสิ่งที่ได้เห็นในเรื่องนี้เลยนะครับ
เขียนมาถึงตรงนี้ถ้าใครสงสัยว่าผมชอบเรื่องนี้หรือเปล่า ผมก็ต้องบอกว่าผม “สนุก” กับการได้อ่านไอเดียเรื่องราวที่ อ. ได้ใส่มานะครับ มันดูบันเทิงสำหรับผมที่อ่านในยุคนี้อย่างมาก เรียกว่ามีแต่สิ่งที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นในงานเรื่องนี้ของ อ. มาก่อน ด้วยเนื้อเรื่องที่มีส่วนผสมของความหลากหลายในการนำเสนอ แม้จะหนักในธีมของวิทยาศาสตร์มากๆก็ตาม
แต่มองทั่วไปทั้งบริบทหลังอ่านจบ ก็มีครบทุกรสครับ ดราม่านี้เกาะเส้นเรื่องไปตลอดอยู่แล้วไม่ต้องห่วง ความน่ากลัวสำหรับผมอาจจะไม่ได้เยอะมากถ้าเปรียบเทียบกับงานเรื่องอื่นๆของ อ. ที่ผมเคยอ่าน อันนั้นหนักความสยองขวัญชัดเจน แต่ที่เหลือล้นคือการผสมผสานเรื่องราวความเหนือธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ ที่แบบว่า ถ้าผมเป็นคนในเหตุการณ์เหล่านี้ อาจหาทางจบตัวเองไปให้เร็วที่สุด
เพราะเรื่องราวมันมอบความแปลกประหลาดใจแบบหนักๆ ให้กับพวกเขาตลอดทั้งเรื่อง แบบว่าเรื่องนี้ยังไม่จบเกิดเรื่องนั้นเพิ่มเข้ามาอีกแล้วแบบนั้น เป็นเรื่องที่แทบไม่มีจังหวะให้รู้สึกว่า ชีวิตนี้มันช่างดีแท้ อะไรแบบนั้นเลยครับ
อีกนิดนึง คือผมชอบไอเดียตอนเล่มสุดท้ายของ อ. อยู่ไม่น้อยนะ แม้ผมจะเดาว่าหลายๆคนอาจจะเกลียดเลยก็ได้กับการเลือกนำเสนอผ่านมุมมองของบางสิ่งแบบนั้น ผมรู้สึกมันยอกย้อน เสียดสีเกี่ยวกับมนุษย์ได้ดีเลย แม้จะงงซักหน่อยว่าเพราะอะไร อ. ถึงเลือกนำเสนอแบบนี้ออกมา รวมถึงไอเดียเรื่องคู่และจักรวาลในตอนท้าย มันชวนให้ความคิดบางอย่างในหัวผมมันเด้งขึ้นมาทันที
เอาเป็นว่าไอ้ความคิดว่า มันอะไรฟ่ะเนี่ย หรือ เฮ้ย อีหยังว่ะ หรือ เอาแบบนี้จริงๆเหรอ มันเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นยันฉากสุดท้าย ถือว่าคงคอนเซปงานวิทยาศาสตร์ที่คาดเดาได้ยากอีกเรื่องนึงได้ทั้งเรื่องจริงๆครับ
เนื้อเรื่องเนื้อหาเกินคาดเดาบอกแบบสั้นๆอย่างนี้ดีกว่า แต่ขอแวะมาพูดถึงสิ่งที่ผมไม่แน่ใจว่าทำไมมันถึงออกมาแบบนี้กัน นั่นก็คือเรื่องงานวาดครับ ในฐานะที่อ่านงานของ อ. มาเป็นจังหวะ และจดจำลายเส้นได้ดีระดับนึง สิ่งที่ปรากฎในเรื่องนี้ผมรู้สึกว่ามันดูเก่าเกินจากปีที่ อ. เขียนไว้มากพอสมควรนะ เรื่องนี้เขียนไว้ในปี 2000 แต่ลายเส้นและรายละเอียดที่ใส่มายังกับมาจากยุค 7 - 80 เลยด้วยซ้ำครับ ตรงนี้สร้างปัญหาให้กับผมอยู่หลายครั้งนะ
คือด้วยเรื่องมันมีธีมอึมครึมและลายเส้น อ. ก็เหมาะกับงานแบบนี้อยู่แล้ว พอหลายๆจังหวะที่ไม่สามารถแยกเรื่องราวจากงานภาพได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ความอึมครึมมันเลยเป็นความไม่เคลียร์แบบที่จะทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่นำเสนอได้ จะบอกว่างานพิมพ์ไม่ดีผมก็ไม่กล้าบอก
เพราะจำได้ว่า เวอร์ชั่นไพเรทตอนเด็กนี่มันหนักกว่านี้เยอะ และด้วยปีที่ไม่เก่ามาก อ. น่าจะวาดออกมาได้เคลียร์กว่านี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นความตั้งใจในการวาดที่อยากให้เราเครียดหรือเปล่า แต่เอาเป็นว่า ถ้างานวาดมันดูเข้าใจมากกว่านี้ซักหน่อย ผมว่าเรื่องนี้จะอ่านได้สนุกอย่างมากกว่านี้แน่นอน อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
FOURTEEN “อาถรรพ์ปริศนา” ในเซ็ทนี้เป็นผลงานจากค่าย PIRATE KING ซึ่งเป็นอีกค่ายไพเรทที่เป็นค่ายแรกๆในยุคแห่งไพเรทนี้ครับ ที่แม้ผมจะเคยรีวิวหลายผลงานของค่ายนี้ก็ตาม ก็ยังรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ค่ายใหญ่อะไร ออกจะเงียบๆด้วยซ้ำไป ซึ่งสำหรับผลงานของ อ.ท่านนี้ ค่ายนี้ก็หยิบมาทำอยู่หลายเรื่องเหมือนกันนะ และเอาเข้าจริง ผมที่หยิบเรื่องนี้มารีวิวในปี 2025 นั้น แต่เรื่องนี้เขาทำออกมาตั้งแต่ปี 2020 แล้ว นี่จึงไม่ใช่งานใหม่อะไรจากค่ายนี้หรอกนะครับ
โดยในครั้งนี้ทางค่าย ทำออกมาแบบ 13 เล่มจบ (แม้ชื่อเรื่องจะเป็น 14 ก็ตาม555) ด้วยขนาดเล่มเท่ากับหนังสือการ์ตูนทั่วไป ทำออกมาแบบปกสองชั้น ปกนอกทุกเล่มใช้โทนสีและรูปแบบแบบเดียวกันหมด แตกต่างกันที่รูปที่ใส่ไว้เป็นรูปอะไร ซึ่งมันให้อารมณ์แนวคัมภีร์ศาสนาอะไรเทือกนั้น งานพิมพ์ก็ดูคมชัดดีครับ รวมถึงปกด้านในที่ใช้แบบเดียวกับปกนอก แต่พิมพ์เป็นภาพขาวดำด้วยครับ
ตัวเล่มเปิดอ่านแบบญี่ปุ่น ข้างในพิมพ์เป็นภาพขาวดำล้วน ด้วยความหนาของแต่ละเล่มเกิน 300 หน้า บนกระดาษกรีนรีด งานพิมพ์ได้มาตรฐานของทางค่าย ส่วนงานแปลก็แปลได้โอเคอยู่นะ อ่านแล้วเข้าใจ แม้เรื่องราวจะมีความสับสนและออกไปทางวิทยาศาสตร์หลายแขนงก็ตาม ก็ยังอ่านรู้เรื่อง เท่าที่เห็นเจอความผิดพลาดเล็กน้อยไม่มีอะไรให้ต้องคิดมาก งานพิมพ์แบบอันเซนตามต้นฉบับ ภาพรวมผมถือว่าโอเคนะ ไม่มีอะไรให้ตำหนิครับ
ผมอาจจะพูดถึงเนื้อหาและเรื่องราวกว้างๆของเรื่องนี้ออกมาแบบนี้นะครับ เพราะอย่างที่บอกว่าเรื่องนี้มันเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เหนือธรรมชาติ แบบที่ผมคาดไม่ถึงก่อนที่จะเปิดอ่านเรื่องนี้ครับ ด้วยความหลากหลายของในเรื่องราวที่เกิดขึ้น เลยอยากแนะนำให้ไปหาอ่านกันเองดีกว่า ผมถือว่านี่เป็นอีกเรื่องที่เกินคาดเดาไปเยอะเลย ความรุนแรงในแง่บุคคลอาจไม่เยอะมาก มาหนักช่วงหลังนิดหน่อย
แต่ในแง่เรื่องราวแล้ว ไปไกลกว่าที่เล่าในรีวิวนี้อีกครับ เชื่อว่าหากใครได้อ่านจะต้องมานั่งคิดและรู้สึกอย่างผมแน่ๆ มีไม่มากนะงานเขียนในอดีตที่สร้างความแปลกใจให้ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้ไม่ทั้งหมด แต่เรื่องราวทั้งเรื่องเต็มไปด้วยไอเดียและการนำเสนอที่แม้ในยุคนี้ก็อ่านได้สนุกอยู่ครับ ถ้ามีโอกาสหาอ่านครับ มาอีหยังหว๋า กับผมนะครับ 5555
ภาพ 8/10
เรื่อง 9.2/10
ความประทับใจ 9/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #13เล่มจบ #PiratKing #การ์ตูนแนวเหนือธรรมชาติ #การ์ตูนแนววิทยาศาสตร์ #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวดาร์กแฟนตาซี #9คะแนน #อาถรรพ์ปริศนา #FourTeen #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
บันทึก
1
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย